(11 ก.ย. 67) นายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา ประธานสภากรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมวิสามัญ สมัยที่สอง (ครั้งที่ 1) ประจำปีพุทธศักราช 2567 โดยมี สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารและหัวหน้าส่วนราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุม โดยนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เสนอญัตติขอความเห็นชอบกันเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ไว้เบิกเหลื่อมปีในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 (แบบไม่มีหนี้ผูกพัน) ของหน่วยรับงบประมาณกรุงเทพมหานคร รวมทั้งสิ้น 46 หน่วยงาน เนื่องจากกรุงเทพมหานครมีความจำเป็นต้องดำเนินการกันเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ไว้เบิกเหลื่อมปีในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 (แบบไม่มีหนี้ผูกพัน) ในรายการและโครงการต่าง ๆ ของกรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นไปตามข้อ 37 แห่งข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง วิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2563 รวมทั้งสิ้น 46 หน่วยงาน 153 รายการ รวมเงินงบประมาณกว่า 5,000 กว่าล้านบาท
.
จากนั้น สมาชิกสภากรุงเทพมหานครได้ร่วมอภิปรายและซักถามในญัตตินี้ ประกอบด้วย นายนภาพล จีระกุล ส.ก.เขตบางกอกน้อย นายยิ่งยง จิตเพียรธรรม ส.ก.เขตทวีวัฒนา นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร ส.ก.เขตจอมทอง นายวิรัตน์ มีนชัยนันท์ ส.ก.เขตมีนบุรี นายพีรพล กนกวลัย ส.ก.เขตพญาไท และนายเนติภูมิ มิ่งรุจิราลัย ส.ก.เขตบึงกุ่ม ซึ่งได้แนะนำเรื่องการจัดลำดับความสำคัญ การวางแผนแต่ละโครงการให้มีประสิทธิภาพ เนื่องจากแต่ละปีมีโครงการที่ค้างปีอยู่เป็นจำนวนมาก การเขียน TOR ให้รวดเร็วเพื่อความคล่องตัวในการดำเนินโครงการต่าง ๆ จะสามารถขยับตัวโครงการให้สามารถดำเนินการได้ทันปีงบประมาณได้ และเนื่องจากบางโครงการมีรายละเอียดที่ซับซ้อน จำเป็นต้องวางแผนและรวบรัดขั้นตอนให้กระชับ ไม่เปลี่ยนแผนดำเนินการไปมาจนเกิดความไม่สะดวกในการดำเนินโครงการ โดยเฉพาะโครงการสำคัญ ๆ ในสำนักการแพทย์ สำนักการโยธา เป็นต้น
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า สำหรับโครงการต่าง ๆ ที่ค้างอยู่นั้น รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (นายจักกพันธุ์ ผิวงาม) ได้ติดตามความคืบหน้าในทุกสัปดาห์ ซึ่งโครงการที่คงค้างเบิกเหลื่อมปีในปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ลดลงจากปีที่แล้ว 30% หลายโครงการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ มากมาย อาทิ เราสร้างทางเท้าได้มากกว่าทุกสมัย การสร้างสถานีดับเพลิงได้หลายแห่ง ซึ่งบางโครงการติดเงื่อนไขในการก่อสร้าง ทั้งปัญหาในด้านความร่วมมือ ตลอดจนการปัญหาที่อยู่เหนือการควบคุมของกรุงเทพมหานครจากหน่วยงานอื่น ๆ อย่างไรก็ตามขอน้อมรับทุกความคิดเห็นและจะนำข้อเสนอแนะไปปรับใช้ในปีต่อไป
