กทม.เชือด25ข้าราชการ

ผู้จัดการรายวัน360 – “รองปลัดกรุงเทพมหานคร” เผยผลตรวจสอบการจัดซื้อ “เครื่องออกกำลังกาย” ศูนย์กีฬา กทม. 7 โครงการ พบปรับสเปกให้สูง อัปราคาแพงเกินจริง มีเจ้าหน้าที่เอี่ยว 25 ราย ชิงลาออกไปแล้ว 1 ราย สั่งย้าย 3 ราย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดซื้อเข้ากรุ พร้อมตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง และความรับผิดทางละเมิดให้ชดใช้ค่าเสียหาย

นายณัฐพงศ์ ดิษยบุตร รองปลัดกรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ ปฏิบัติการติดตามการต่อต้านการทุจริตของกรุงเทพมหานคร (ศตท.กทม.) เปิดเผยถึงผลการสืบสวนข้อเท็จจริงการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายของศูนย์กีฬา กทม. จำนวน 7 โครงการ ว่า ผลการสอบสวนพยานบุคคลและเอกสาร พบว่า การจัดซื้อมีมูลราคาแพงเกินจริง สูงกว่าราคาท้องตลาดและราคาสูงกว่าการจัดซื้อในปีก่อนๆ มีรายละเอียดสินค้าเกินความจำเป็น คุณลักษณะจำเพาะ หรือสเปกของเครื่องออกกำลังกาย มีการปรับสเปกให้สูงขึ้นจากเดิมที่เคยจัดซื้อ เช่น เพิ่มกำลังแรงม้า เพิ่มโปรแกรมออกกำลังกาย เพื่อการรองรับน้ำหนัก และปรับจอแสดงผลระบบสัมผัส เป็นต้น โดยวิธีการจะมีการสืบราคาจากผู้ประกอบการ 3 ราย ให้ราคาต่ำสุด เป็นราคากลาง ไม่คำนึงถึงความจำเป็นและการใช้งานจริง เป็นผลให้การกำหนดราคาสูงเกินความจำเป็น และยังพบมีการกำหนดรายละเอียดบริษัทผู้ร่วมประมูลเกินความจำเป็น มีข้อกำหนดที่ไม่เปิดกว้างให้เสนอราคาอย่างเท่าเทียม เช่น การกำหนดให้แนบหนังสือรับรองผลงานและสำเนาสัญญาซื้อขายที่ทำกับภาครัฐไม่น้อยกว่า 40 สัญญาในวันเสนอราคา โดยมีระยะเวลานับย้อนหลังไม่เกิน 2 ปี การกำหนดเงื่อนไขดังกล่าวเพิ่มเติมเกินกว่าแนวทางที่คณะกรรมการการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารภาครัฐ และเกินกว่าแนวทางที่กระทรวงการคลังกำหนด อาจมีผลทำให้ราคาการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายมีราคาแพง เกินควร

ทั้งนี้ ผลการสืบสวน ไม่มีข้อมูลยืนยันว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในการจัดทำโครงการและพิจารณางบประมาณ คำนึงถึงความคุ้มค่า ราคาเหมาะสม และขั้นตอนการกลั่นกรองงบประมาณ ก็ไม่มีการทักท้วงในเรื่องราคา โดยพบว่า มีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำโครงการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย และเกี่ยวข้องกับการพิจารณางบประมาณ รวมทั้งการดำเนินการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายทั้งหมด 25 ราย และในนี้ มี 1 ราย ลาออกจากราชการไปแล้ว

“คณะกรรมการได้รายงานผลให้ปลัด กทม. และได้มีคำสั่งย้ายผู้บริหารที่มีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการจัดซื้อทั้ง 7 โครงการ ไปปฏิบัติหน้าที่ประจำสำนักงานปลัด กทม. เพื่อไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับหลักฐานการดำเนินการทางวินัย โดยเป็นไปตามมาตรการในการปฏิบัติราชการและแนวทางปฏิบัติที่ ศตท. กทม. ได้วางแนวทางไว้ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส และเกิดการดำเนินการเป็นไปอย่างรอบคอบและเที่ยงธรรม และจากนี้ จะมีการสอบสวนในเชิงลึก เพื่อหาตัวผู้กระทำผิดและรับผิดชอบทางละเมิดต่อไป” นายณัฐพงศ์กล่าว

น.ส.เต็มศิริ เนตรทัศน์ ผู้ช่วยหัวหน้าสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร (ก.ก.) กล่าวว่า กทม.ได้ส่งเรื่องไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต แห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อดำเนินการต่อตามความผิด ทางอาญา ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 แล้ว ส่วน กทม.จะดำเนินการตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง กำหนดให้คณะกรรมการสอบสวนนับจากวันที่ประธานได้เรียกประชุมครั้งแรก โดยมีกำหนด 120 วัน และสามารถขยายได้ไม่เกิน 60 วัน รวมถึงการตั้งคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางละเมิดเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อให้มีการชดเชยทางแพ่ง โดยใช้ระยะเวลา ไม่เกิน 180 วัน

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 2567 กทม. ได้รับการร้องเรียนผ่านสื่อว่าการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายของศูนย์กีฬา กทม. แพงเกินจริง จากนั้น ศตท.กทม ได้รับเรื่องร้องเรียน และเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยให้สำนักงานตรวจสอบภายในของ สำนักงานปลัดกรุงเทพมหานคร ร่วมตรวจสอบ ต่อมาวันที่ 11 มิ.ย. 2567 คณะกรรมการฯ ได้รายงานผล พร้อมข้อเสนอ 2 ข้อ คือ หนึ่ง การสอบสวนพบว่ามีมูลต่อการทุจริตอาจผิดกฎหมาย เรื่องของการเสนอราคาต่อหน่วยงานภาครัฐซึ่งเรื่องนี้ ศตท.กทม. ได้รวบรวมข้อมูลเบื้องต้นส่งให้ ป.ป.ช. ดำเนินการทางกฎหมายแล้ว เนื่องจากเป็นเรื่องของความผิดเกี่ยวกับความผิดการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐทาง ป.ป.ช.มีอำนาจในการดำเนินการ

ส่วนข้อสอง ศตท.กทม. นำรายงานผลการสอบสวนเบื้องต้นส่งให้ปลัดกรุงเทพมหานคร เพื่อดำเนินการทางวินัยกับผู้ที่เกี่ยวข้อง จนนำไปสู่การตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงโดยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง เมื่อ 17 มิ.ย. 2567 ให้ระยะเวลาสอบสวน 30 วัน และให้รายงานผลทุก 7 วัน และเมื่อวันที่ 23 ก.ค. 2567 คณะกรรมการได้รายงานผลให้ปลัดกรุงเทพมหานครรับทราบ

ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณคณะกรรมการสอบสวนที่ทำเสร็จใน 30 วัน ผลสอบสวน คือ มีมูลราคาสูงจริง และมีข้อกำหนดบางอย่างที่อาจเกินความจำเป็นไป มีผู้เกี่ยวข้อง 25 ราย ซึ่งได้มีการย้ายออกไปแล้ว 3 ราย เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นบุคคลที่มีอำนาจโดยตรง เพื่อไม่ให้มายุ่งเกี่ยวกับการสอบสวน.

บรรยายใต้ภาพ

โกงจริง -นายณัฐพงศ์ ดิษยบุตร รองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) แถลงผลการตรวจสอบการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายของศูนย์กีฬา กทม. จำนวน 7 โครงการ พบว่า มีการปรับสเปก และตั้งราคาเกินจริง โดยมีเจ้าหน้าที่ กทม. มีส่วนเกี่ยวข้อง 25 ราย ซึ่งได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย และเอาผิดทางแพ่งแล้ว

ที่มา:  นสพ.ผู้จัดการรายวัน 360 องศา ฉบับวันที่ 31 ก.ค. 2567