นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 ส.ค.67 สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ได้ยื่นหนังสือแสดงความเห็นด้วยให้ย้ายท่าเรือกรุงเทพ (คลองเตย) ออกจากพื้นที่เดิม เพื่อแก้ไขปัญหาจราจรติดขัด และแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5อีกทั้งนำพื้นที่มาพัฒนาให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งนี้ ได้เร่งรัดให้การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) จัดทำแผนต่างๆให้เป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด พร้อมย้ำว่าทุกกระบวนการต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ ให้เกิดความเหมาะสมที่สุด และกระทรวงพร้อมดำเนินการทุกเรื่องโดยคำนึงถึงประชาชนและประเทศเป็นสำคัญ
ด้านนายกิตติพงศ์ รวยฟูพันธ์ ส.ก.เขตทุ่งครุ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่าตน และ ส.ก.พรรคเพื่อไทย ต้องการให้กระทรวงคมนาคม โดยการท่าเรือพิจารณาย้ายท่าเรือกรุงเทพออกจากพื้นที่เดิม เพื่อเอาไปพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์อื่นๆ ซึ่งจะสร้างประโยชน์ให้ประชาชนในพื้นที่และประชาชนทั่วไปได้มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่พักอาศัย, คอมมูนิตี้มอลล์, แหล่งท่องเที่ยวหรือแลนด์มาร์กแห่งใหม่ส่วนการท่าเรือควรไปอยู่ที่อื่นเพราะถ้าอยู่ที่เดิมจะกระทบประชาชนถ้าอยู่ที่ใหม่ เชื่อว่าจะแก้ปัญหารถขนส่งเข้ามาในเมืองที่ทำให้จราจรติดขัด ที่สำคัญช่วยลดฝุ่นละอองได้ และจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนได้เป็นอย่างดี
“ข้อมูลของ กทท.พบว่า การพัฒนาท่าเรือกรุงเทพพื้นที่ 2,353.2 ไร่ จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชนให้มีมาตรฐาน สร้างความสุข ลดความเหลื่อมล้ำและเกิดความเสมอภาคในสังคม เพราะในพื้นที่ดังกล่าว จะพัฒนาเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษกรุงเทพมหานคร เพื่อใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ หรือเชิงสาธารณะ เพื่อดึงดูดนักลงทุนจากทั่วทุกมุมโลกให้มาร่วมกันพัฒนาพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาโดยการบูรณาการด้านโลจิสติกส์ การท่องเที่ยว และการให้บริการแบบครบวงจรในพื้นที่เดียวกัน”
นอกจากนี้ มีแผนพัฒนาพื้นที่อยู่อาศัยแนวสูงและศูนย์ฝึกอาชีพ การพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนโดยรอบท่าเรือ 26 ชุมชน และใต้ทางด่วนอีก 5 ชุมชน ประมาณ 13,000 ครัวเรือน และหน่วยงานราชการสถาบันการศึกษาในพื้นที่ ไปพร้อมกับการพัฒนาโครงการต่างๆของ กทท.เป็นต้น.
ที่มา: นสพ.ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 13 ส.ค. 2567