กทม.บูรณาการแก้ปัญหาเด็กเช็ดกระจก – ขายของบนถนน พร้อมจัดทีมเฉพาะกิจช่วยเหลือเด็กและครอบครัว
นางอณุสรา ชื่นทรวง ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาสังคม กทม. กล่าวกรณีสื่อออนไลน์โพสต์ข้อความระบุบริเวณแยกนราธิวาส ใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีช่องนนทรี พบเด็กเล็กเดินเช็ดกระจก เกรงจะเกิดอุบัติเหตุว่า เมื่อวันที่ 28 ต.ค.65 สำนักพัฒนาสังคม ได้สำรวจพื้นที่บริเวณแยกนราธิวาสราชนครินทร์ ใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีช่องนนทรี ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานเขตบางรัก ศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 บ้านพักเด็กและครอบครัวกรุงเทพฯ เพื่อเยี่ยมบ้าน สำรวจปัญหาของเด็กและครอบครัว รวมทั้งสนับสนุนช่วยเหลือในด้านที่จำเป็น ตามระเบียบกรุงเทพมหานครว่าด้วยการจัดสวัสดิการและการสงเคราะห์ พ.ศ.2557 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2564 หรือจากกองทุนคุ้มครองเด็ก เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้า ตลอดจนวางแผนช่วยเหลือในระยะยาวเรื่องการฝึกอาชีพตามความสนใจและการสมัครงานประจำ เพื่อความมั่นคงด้านรายได้
นอกจากนั้น ยังได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาเด็กที่มีพฤติกรรมขายสินค้า หรือบริการที่มีความเสี่ยงบริเวณสี่แยกต่าง ๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กรมกิจการเด็กและเยาวชน บ้านพักเด็กและครอบครัวฯ ศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 กรมการจัดหางาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานภาคเอกชน เพื่อจัดทีมเฉพาะกิจช่วยเหลือเด็กและครอบครัว โดยได้เริ่มดำเนินการแล้วในกลุ่มเด็กขายพวงมาลัยบริเวณแยกยมราช เขตดุสิต ในเบื้องต้นได้ร่วมกันลงพื้นที่เยี่ยมบ้านเด็กและครอบครัว รวมทั้งใช้กระบวนการสหวิชาชีพแก้ไขปัญหารายครอบครัว เพื่อไม่ให้ครอบครัวนำเด็กมาขายพวงมาลัย หรือเช็ดกระจกอีก รวมถึงนำเด็กเข้าสู่ระบบการศึกษาและวางแผนรายครอบครัวในระยะยาว เพื่อแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจ เช่น การฝึกอาชีพ การแนะนำช่องทางประกอบอาชีพ การจัดหาพื้นที่ตลาดนัด เพื่อขายสินค้า ตามสภาพปัญหาและความต้องการเป็นรายกรณีต่อไป
นายศุภกฤต บุญขันธ์ ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ กทม. กล่าวว่า สำนักเทศกิจ ได้ประสานทุกสำนักงานเขตให้จัดเจ้าหน้าเทศกิจ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง อาทิ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อบูรณาการความร่วมมือแก้ไขปัญหาเด็กเช็ดกระจก เด็กขายของริมถนน รวมถึงขอทานต่างด้าวในพื้นที่กรุงเทพฯ ขณะเดียวกันได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและกวดขันปัญหาดังกล่าว เมื่อพบให้สอบถามข้อมูล บันทึกประวัติไว้เป็นหลักฐานและพิจารณาให้ความช่วยเหลือด้านอาชีพ หรือปรับทัศนคติ เพื่อไม่ให้ไปเร่ขายของ หรือเช็ดกระจกรถ ซึ่งเป็นการกระทำที่เสี่ยงอันตราย โดยให้เจ้าหน้าที่ตักเตือน สร้างการรับรู้ถึงความผิดตามกฎหมายและผลกระทบต่อผู้อื่น รวมถึงผู้ใช้รถใช้ถนน เพื่อไม่ให้กระทำการดังกล่าวอีก ทั้งนี้ ได้ประสานเจ้าหน้าที่เทศกิจทุกสำนักงานเขตลงพื้นที่ตรวจตราพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้กลุ่มบุคคลดังกล่าวเดินเร่ขายของ หรือเดินเช็คกระจกรถบนถนนอีกต่อไป
นางสาวอัญชนา บุญสุยา ผู้อำนวยการเขตบางรัก กทม. กล่าวว่า สำนักงานเขตบางรัก ได้บูรณาการความร่วมมือแก้ไขปัญหาเด็กเช็ดกระจก เด็กขายของริมถนน รวมถึงขอทานต่างด้าวในพื้นที่ ร่วมกับสำนักพัฒนาสังคม กทม. กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ลงพื้นที่ตรวจสอบกวดขันปัญหาดังกล่าวในพื้นที่เขตเป็นประจำ เมื่อพบจะสอบถามข้อมูล เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านอาชีพและให้การศึกษา แต่ส่วนใหญ่มักปฏิเสธความช่วยเหลือ เบื้องต้นจึงได้แจ้งผู้ปกครองว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 และ พ.ร.บ.การจราจรทางบก พ.ศ.2522 พร้อมขอความร่วมมือไม่ให้กระทำอีก นอกจากนั้น ยังได้ประสานความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 บ้านพักเด็กและครอบครัวกรุงเทพ จัดทำประวัติเด็ก และครอบครัว รวมทั้งสำรวจสภาพปัญหาของเด็กและครอบครัวเพิ่มเติม เพื่อให้การสนับสนุนช่วยเหลือในด้านที่จำเป็น เช่น การนำเด็กกลับเข้าสู่ระบบการศึกษา การฝึกอาชีพ แนะนำช่องทางประกอบอาชีพ การจัดหาสถานที่จำหน่ายสินค้า เป็นต้น
รร.กทม.จัดการเรียนการสอนส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย พร้อมประเมินพัฒนาการการเรียนรู้ 4 ด้าน
นายเกรียงไกร จงเจริญ ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา กทม. กล่าวกรณีกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ระบุจากผลการศึกษาในภาคเรียนที่ผ่านมา พบภาวะฉุกเฉินการเรียนรู้ที่เกิดกับเด็กทั้งประเทศ โดยเฉพาะเด็กช่วงชั้นประถมศึกษาตอนต้นและเด็กชั้นอนุบาล 3 ขาดความพร้อมเข้าเรียนระดับประถมต้นว่า กรุงเทพมหานคร โดยสำนักการศึกษา มีนโยบายให้โรงเรียนในสังกัด กทม.ที่จัดการเรียนการสอนในระดับปฐมวัย จำนวน 429 โรงเรียน ดำเนินการจัดประสบการณ์การเรียนรู้และประเมินพัฒนาการการเรียนรู้ทั้ง 4 ด้าน ประกอบด้วย ด้านร่างกาย อารมณ์-จิตใจ สังคม และด้านสติปัญญา ให้เด็กระดับปฐมวัยที่สอดคล้องกับหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พ.ศ.2560 โดยประเมินพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็กระดับปฐมวัย ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังการจัดประสบการณ์อย่างเป็นระบบตลอดปีการศึกษา
สำหรับผลการประเมินพัฒนาการสมวัยที่อ้างอิงจากรายงานผลการประเมินพัฒนาการเด็กปีการศึกษา 2564 (SAR ออนไลน์) ตามเกณฑ์ของต้นสังกัด พบว่าอยู่ในระดับดี ร้อยละ 85 และระดับพอใช้ ร้อยละ 14 ขณะเดียวกันได้สนับสนุนสื่อส่งเสริมพัฒนาการการเรียนรู้ให้โรงเรียนสังกัด กทม.ที่จัดการเรียนการสอนในระดับปฐมวัย เพื่อใช้เป็นแนวทางการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่ส่งเสริมพัฒนาการด้านกล้ามเนื้อมัดเล็ก โดยมุ่งเน้นกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ เช่น การปั้นดินน้ำมัน การวาดภาพระบายสี การฉีกปะจากเศษวัสดุต่าง ๆ และจัดประกวดความเป็นเลิศทางการพัฒนาด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญาของนักเรียนระดับปฐมวัย ณ โรงเรียนสามเสนนอก (ประชาราษฎร์อนุกูล) และโรงเรียนวิชูทิศ สำนักงานเขตดินแดง ประกอบด้วย การปั้นดินน้ำมันสร้างสรรค์ ศิลปะสร้างสรรค์การฉีก ตัด ปะ ภาพโครงร่าง การวาดภาพระบายสีเรื่อง “ห่างไกลโควิด ชีวิตปลอดภัย” ระดับปฐมวัย การวาดต่อเติมภาพรูปทรงเรขาคณิต“เรื่อง หนูน้อยรักษ์สิ่งแวดล้อม” ระดับปฐมวัย นอกจากนั้น ยังได้สนับสนุนส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย ด้วยการประกวดความเป็นเลิศทางการพัฒนาด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และด้านสติปัญญาของนักเรียนระดับปฐมวัยเมื่อวันที่ 11-12 ก.ค.ที่ผ่านมา
กทม.เตรียมพร้อมร่วมดูแลความปลอดภัย จัดระเบียบพื้นที่รองรับการจัดประชุมเอเปค 14 – 19 พ.ย.นี้
นางเบญญา อินทรวงศ์โชติ ผู้อำนวยการเขตคลองเตย กทม. กล่าวถึงความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ ให้แก่ผู้นำที่เข้าร่วมการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) 2022 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ 14 – 19 พ.ย.65 ว่า สำนักงานเขตคลองเตย ได้จัดทำบัญชีรายชื่อเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ระหว่างวันที่ 10 – 20 พ.ย.65 ได้แก่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะ ฝ่ายโยธา และฝ่ายเทศกิจ จัดจุดทิ้งขยะที่อาคารพิพิธภัณฑ์ในพื้นที่สวนป่าเบญจกิตติ ซึ่งเป็นที่พักของเจ้าหน้าที่ระหว่างปฏิบัติงาน พร้อมจัดทำแผนการจัดเก็บขยะในพื้นที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์และภายในอาคารพิพิธภัณฑ์ ขณะเดียวกันได้พัฒนาพื้นที่บริเวณโกดังสเตเดียมการท่าเรือแห่งประเทศไทยที่ใช้เป็นพื้นที่จุดจอดรถยนต์ของคณะผู้เข้าร่วมประชุม พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทศกิจประสานการปฏิบัติการตรวจตราความปลอดภัยพื้นที่ร่วมกับสถานีตำรวจนครบาล (สน.) ท่าเรือ และเจ้าหน้าที่การท่าเรือแห่งประเทศไทยตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนั้น ยังได้ประสานสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. เพื่อขออนุเคราะห์บอลลูนไลท์ 20 ตัว เพื่อใช้บริเวณเส้นทางจุดจอดรถยนต์วีไอพี ตลอดจนจัดส่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมอบรมด้านการข่าวกับสถานีตำรวจนครบาลในพื้นที่
นางสาวสุขวิชญาณ์ นสมทรง ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน กทม. กล่าวว่า สำนักงานเขตปทุมวัน ได้จัดเจ้าหน้าที่เทศกิจร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลรักษาความปลอดภัยและความเป็นระเบียบเรียบร้อยในพื้นที่ สังเกตสิ่งผิดปกติ หรือบุคคลต้องสงสัยและแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทราบ ขณะเดียวกันได้จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์เฝ้าระวังความปลอดภัย ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจอบรมพนักงานกวาดที่ประจำตามเส้นทางต่าง ๆ ในพื้นที่ เพื่อสอดส่องสังเกตสิ่งผิดปกติ หรือบุคคลต้องสงสัยที่เข้ามาในพื้นที่ และประชาสัมพันธ์ผู้ประกอบการ โรงแรมที่ผู้นำประเทศต่าง ๆ เข้าพัก ให้เข้มงวดมาตรการด้านความปลอดภัยสูงสุด รวมทั้งจัดเตรียมความพร้อมหน่วยเบสท์ (BEST) เตรียมวัสดุอุปกรณ์ เฝ้าระวังความปลอดภัยในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนั้น ยังได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ โดยจัดกำลังเจ้าหน้าที่และผู้บริหารเขตตรวจตราดูแลพื้นที่ตลอดระยะเวลาการประชุม APEC ตลอดจนร่วมกับ สน.ในพื้นที่ กลุ่มผู้ประกอบการย่านราชประสงค์ และโรงแรมจัดประชุมเตรียมความพร้อมและจัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยผู้ประกอบการต่าง ๆ ได้เน้นย้ำให้พนักงานสอดส่องสังเกตสิ่งผิดปกติ หรือบุคคลต้องสงสัย หากพบเห็นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันทีและในช่วงการประชุมให้เลื่อนการจัดงาน event ออกไปก่อน เพื่อป้องกันการรวมตัวกันของบุคคลจำนวนมาก
นายชาติชาย กุละนำพล ผู้อำนวยการเขตสาทร กทม. กล่าวว่า สำนักงานเขตสาทร ได้บูรณาการร่วมกับ สน.ในพื้นที่จัดประชุมอบรมแนวทางการปฏิบัติตามแผนรักษาความปลอดภัย แผนการอำนวยความสะดวกการจราจร แผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และเหตุการณ์ต่าง ๆ พร้อมจัดตั้งศูนย์บัญชาการณ์รองรับสถานการณ์ในช่วงการจัดประชุม APEC ขณะเดียวกันได้ประสานสมาชิก อปพร.เขตสาทร เฝ้าระวังและเตรียมพร้อมเมื่อเกิดเหตุ รวมทั้งเตรียมความพร้อมบริการทางการแพทย์ โดยประสานแนวทางการปฏิบัติงานกับศูนย์บริการสาธารณสุข กทม.
นางสาวอัญชนา บุญสุยา ผู้อำนวยการเขตบางรัก กทม. กล่าวว่า สำนักงานเขตบางรัก ได้ประสานความร่วมมือกับ สน.ทุ่งมหาเมฆ สน.ยานนาวา และ สน.บางรัก จัดประชุมอบรมแนวทางการปฏิบัติตามแผนรักษาความปลอดภัย และแผนการอำนวยความสะดวกการจราจร และประสานสมาชิก อปพร.เขตบางรัก เฝ้าระวังและเตรียมพร้อมแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อรองรับสถานการณ์ต่าง ๆ ในช่วงการจัดประชุม APEC รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ดูแลความสะอาดโดยรอบที่พำนักของผู้นำทางเศรษฐกิจ และประสานศูนย์บริการสาธารณสุข 23 สี่พระยา เตรียมความพร้อมบริการทางการแพทย์และประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการประชุม APEC ผ่านสื่อออนไลน์ของสำนักงานเขตบางรักอย่างต่อเนื่อง