– กทม.แจงแนวทางติดตั้งป้ายหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส.เฉพาะในจุดที่กำหนด
นายสุพจน์ หล้าจำศิล ผู้อำนวยการสำนักงานปกครองและทะเบียน (สปท.) สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวกรณีมีการตั้งข้อสังเกตป้ายหาเสียงกีดขวางทางสัญจรทั้งที่ยังไม่มีประกาศเลือกตั้งว่า กรุงเทพมหานคร โดย สปท.ได้ประสานแจ้งสำนักงานเขตทั้ง 50 เขต แจ้งแนวทางการหาเสียงเลือกตั้งกรณีที่เป็นการเลือกตั้งทั่วไป อันเนื่องมาจากการครบอายุของสภาผู้แทนราษฎร รวมทั้งการปิดประกาศและติดแผ่นป้ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) โดยการหาเสียงเลือกตั้งให้กระทำได้ตั้งแต่ 180 วัน ก่อนวันครบอายุถึงวันก่อนวันเลือกตั้ง ตามมาตรา 68 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2561 และในกรณีที่ยังไม่มีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง ผู้สมัคร หรือพรรคการเมืองสามารถปิดประกาศ หรือปิดแผ่นป้ายเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้ง โดยวิธีการจัดทำ ขนาด จำนวน และสถานที่ให้ถือปฏิบัติตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้งและผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการ การเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานครประกาศกำหนดในการเลือกตั้งครั้งล่าสุด ตามข้อ 6 (9) ของระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2565 และให้งดเว้นการบังคับใช้ พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 ตามมาตรา 10 วรรคสาม
ทั้งนี้ ประกาศสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร เรื่องการกำหนดสถานที่ติดแผ่นป้ายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ส.ส.ได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการติดแผ่นป้ายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ส.ส.เมื่อวันที่ 24 มี.ค.62 ดังนี้ (1) ขนาดของแผ่นป้ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่จะติดได้ มีขนาดกว้างไม่เกิน 130 เซนติเมตร (ซม.) และมีขนาดความยาวไม่เกิน 245 ซม. (2) วิธีการติดแผ่นป้ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งต้องคำนึงถึงความเหมาะสม ความเป็นระเบียบเรียบร้อย ความสะอาด ความปลอดภัย ความมั่นคงแข็งแรง มีทัศนียภาพและทัศนวิสัยที่ดี ไม่เกิดอันตรายแก่ประชาชน หรือต่อยานพาหนะ รวมทั้งไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของทางราชการ หรือประชาชน และจะต้องไม่กีดขวาง ทางสัญจร การจราจร และต้องไม่ติดทับซ้อนกับแผ่นป้ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งของผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.และพรรคการเมืองอื่น หรือติดแผ่นป้ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งนอกบริเวณที่กำหนด
นอกจากนั้น ยังได้ประสานแจ้งสถานที่ที่สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต ได้กำหนดให้เป็นสถานที่ติดแผ่นป้ายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ส.ส.ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค.62 รวมทั้งแจ้งแนวทางการติดแผ่นป้ายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ส.ส.โดยการติดแผ่นป้ายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ส.ส.สามารถติดได้เฉพาะจุดที่กำหนด กรณีกำหนดเป็นถนนให้หมายความรวมถึงซอยที่แยกจากถนนด้วย ทั้งนี้ ห้ามมิให้ติดบนผิวการจราจร เกาะกลางถนน บริเวณปากซอย สะพานลอยเดินข้ามและสะพานลอยรถข้าม รวมทั้งส่วนประกอบของสะพาน รั้วและแผงเหล็กริมถนน ป้ายจราจรและสัญญาณไฟจราจร ป้ายประกาศของทางราชการ รั้ว หรือกำแพง หรือผนังอาคารของทางราชการ ต้นไม้และเสาไฟฟ้าบริเวณเกาะกลางถนน ศาลาที่พักผู้โดยสารและบริเวณโดยรอบภายในระยะ 10 เมตร ตู้โทรศัพท์ ตู้ไปรษณีย์ อนุสาวรีย์ ป้อมตำรวจ สุขาสาธารณะ สนามหลวง สวนหย่อม สวนสาธารณะ วงเวียนทุกวงเวียน ถนนโดยรอบพระบรมมหาราชวัง ถนนโดยรอบพระราชวังสวนจิตรลดา ลานพระบรมรูปทรงม้า ถนนราชดำเนินนอก ถนนราชดำเนินกลาง และถนนราชดำเนินใน กรณีผู้สมัคร หรือพรรคการเมืองติดแผ่นป้ายเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้งไม่ถูกต้อง หรือเกินขอบเขตที่กำหนด ให้หัวหน้าหน่วยงานมีอำนาจสั่งผู้สมัครให้แก้ไขให้ถูกต้องภายในระยะเวลาที่กำหนด หากไม่แก้ไขภายในกำหนดเวลาดังกล่าว คณะกรรมการฯ มีอำนาจรื้อถอน หรือปลดออก หรือสั่งให้หน่วยงานอื่นดำเนินการโดยให้คิดค่าใช้จ่ายกับผู้สมัคร หรือพรรคการเมืองนั้น และคณะกรรมการฯ อาจนำมาเป็นเหตุในการสืบสวน หรือไต่สวนตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และวินิจฉัยชี้ขาดได้
นายศุภกฤต บุญขันธ์ ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ (สนท.) กล่าวว่า สนท.ได้ประสานสำนักงานเขต กรณีป้ายที่เข้าข่ายลักษณะเป็นป้ายหาเสียงเลือกตั้งไม่ได้ติดตั้งไว้ ณ สถานที่ที่อนุญาตให้ปิดประกาศหาเสียงเลือกตั้งของแต่ละเขตเลือกตั้งให้แจ้งเจ้าของป้ายดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้อง หากเจ้าของป้ายไม่ปฏิบัติตามให้เก็บป้ายหาเสียงได้ทันที สำหรับการติดตั้งแผ่นป้ายหาเสียงในซอยจะต้องมีระยะห่างจากปากซอยไม่น้อยกว่า 10 เมตร ส่วนการติดที่เสาไฟฟ้าของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ให้เป็นไปตามประกาศที่ กฟน.กำหนด ส่วนป้ายผิดกฎหมายอื่น ๆ สนท.ได้จัดเจ้าหน้าที่เทศกิจลงพื้นที่ตรวจตราและดูแลรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยของพื้นที่ โดยเฉพาะป้ายโฆษณาที่ติดตั้งในที่สาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น ก่อให้เกิดปัญหากีดขวางทางสัญจร บดบังทัศนียภาพของผู้ขับขี่ยวดยาน ทำลายทัศนียภาพของเมือง และปัญหาด้านความปลอดภัยของผู้สัญจรไปมา การติดตั้งป้ายดังกล่าวถือว่าเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 มีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท โดยตั้งแต่เดือน พ.ค.61 – 5 ก.พ.66 ได้จับกุมดำเนินคดีผู้ติดป้ายโฆษณาโดยไม่ได้รับอนุญาตแล้ว 6,017 ราย เปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 16,462,900 บาท ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เทศกิจ กทม.ได้ตรวจตราสอดส่อง กวดขันจับปรับผู้ฝ่าฝืนอย่างจริงจังและต่อเนื่องต่อไป
– กทม.เน้นย้ำมาตรการดูแลความปลอดภัยนักเรียนขณะร่วมกิจกรรมทั้งภายในและภายนอก รร.
นางสาวศุภร คุ้มวงศ์ รองผู้อำนวยการสำนักการศึกษา รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักการศึกษา (สนศ.) กทม. กล่าวกรณีสื่อออนไลน์เสนอข่าวอุบัติเหตุระหว่างการเข้าค่ายลูกเสือ-เนตรนารีของเด็กนักเรียนโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งหนึ่งใน จ.หนองบัวลำภู ว่า กรุงเทพมหานคร โดย สนศ.ได้กำหนดมาตรการดูแลความปลอดภัยของนักเรียนในโรงเรียน (รร.) สังกัด กทม.ขณะร่วมกิจกรรมทั้งภายในและภายนอก รร.อาทิ การเข้าค่ายลูกเสือ ยุวกาชาด และเนตรนารี รวมทั้งการทัศนศึกษา โดยกำหนดให้เรื่องความปลอดภัยใน รร.เป็นนโยบายสำคัญของ รร.ขณะเดียวกันได้ดำเนินการเรื่องความปลอดภัยใน รร.ร่วมกับชุมชนและผู้ปกครอง โดยสำรวจสภาพสิ่งแวดล้อมและพฤติกรรมเสี่ยงในพื้นที่ชุมชนรอบ รร.จัดระบบเฝ้าระวัง โดยให้ชุมชนมีส่วนร่วมดูแลความปลอดภัยนักเรียน กำหนดแผนและขั้นตอนการปฏิบัติ เพื่อความปลอดภัยใน รร.อย่างเป็นระบบ และมีคู่มือปฏิบัติสำหรับบุคลากร เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนที่ชัดเจน จัดให้มีระบบการดูแลคุ้มครองเด็กที่ดี กำหนดโครงการป้องกันยาเสพติดและพฤติกรรมข่มขู่ รังแกนักเรียน บันทึกข้อมูลอุบัติภัยใน รร.อย่างเป็นระบบ โดยเก็บข้อมูลความเสี่ยง ประกอบด้วย ข้อมูลการบาดเจ็บทั้งในและนอก รร.ข้อมูลสิ่งแวดล้อมเสี่ยงและข้อมูลพฤติกรรมเสี่ยงที่เกิดขึ้น เพื่อนำข้อมูลทั้งหมดมาวิเคราะห์และวางแผนแก้ไขปัญหาต่อไป
สำหรับการจัดกิจกรรมต่าง ๆ รร.ต้องเตรียมมาตรการความปลอดภัยของสถานที่ให้เรียบร้อยอยู่เสมอ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียน ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา รวมทั้งผู้ปกครอง และผู้เข้าร่วมกิจกรรม ส่วนค่ายลูกเสือของ กทม.มีมาตรการจัดกิจกรรมเข้าค่าย โดยห้ามจัดกิจกรรมทางน้ำทุกประเภท และการจัดกิจกรรมรอบกองไฟ กำหนดให้ใช้กองไฟประดิษฐ์แทนการจุดกองไฟจริง นอกจากนั้น รร.สังกัด กทม.ยังจัดให้มีหลักสูตรจิตสำนึกความปลอดภัย เพื่อปลูกฝังให้นักเรียนในสังกัดมีความรู้และสร้างจิตสำนึกเรื่องความปลอดภัยให้นักเรียน ตลอดจนกำชับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ควบคุมดูแลนักเรียนให้อยู่ในระเบียบวินัยขณะร่วมกิจกรรมต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด รวมทั้งสอดส่องดูแลนักเรียนให้ปลอดภัยจากภยันตรายต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในขณะจัดกิจกรรม
– กทม.เตรียมพร้อมระงับเหตุเพลิงไหม้ในสถานที่กำจัดขยะมูลฝอย ป้องกันผลกระทบสุขภาพประชาชน
นายธีรยุทธ ภูมิภักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) กทม. กล่าวถึงการเพิ่มความเข้มงวดมาตรการป้องกันเหตุเพลิงไหม้พื้นที่รกร้างและบ่อขยะที่ กทม.รับผิดชอบว่า ตามประกาศ กทม.เรื่องการเตรียมความพร้อมและกำหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟไหม้หญ้าบริเวณพื้นที่รกร้างว่างเปล่าในเขตกรุงเทพฯ โดยขอความร่วมมือประชาชนไม่ให้เผาหญ้าและขยะในพื้นที่รกร้างว่างเปล่า รวมถึงขอให้งดการเผาขยะมูลฝอย การเผาหญ้า เศษกระดาษในชุมชน และบริเวณริมถนนสองข้างทาง ซึ่งอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุทางถนน เนื่องจากกลุ่มควันจากการเผาไหม้ ทำให้บดบังทัศนวิสัยการขับขี่ยานพาหนะ ขณะเดียวกันได้กำชับสำนักงานเขตประสานสถานีตำรวจนครบาลท้องที่ กวดขัน จับกุมผู้เผาหญ้าและขยะ ลุกลามสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย หากพบเหตุไฟไหม้หญ้าและกองขยะสามารถแจ้งผ่านสายด่วน โทร.199 ได้ทันที นอกจากนั้น ยังได้บูรณาการความร่วมมือกับสำนักสิ่งแวดล้อม สำนักอนามัย และสำนักงานเขต เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือเหตุเพลิงไหม้ที่อาจจะเกิดขึ้นบริเวณศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยของ กทม.และสถานที่กำจัดขยะและสถานที่แปรรูปเชื้อเพลิงขยะ (RDF) ทุกขนาดในพื้นที่กรุงเทพฯ
นายสุนทร สุนทรชาติ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย (สนอ.) กทม. กล่าวว่า สนอ.ได้ประสานสำนักสิ่งแวดล้อม ให้ดำเนินการตามคู่มือแนวทางการระงับเหตุเพลิงไหม้ในสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยของกรมควบคุมมลพิษ โดยเข้มงวดมาตรการป้องกันเหตุเพลิงไหม้ในพื้นที่ที่ กทม.รับผิดชอบ ได้แก่ ศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยหนองแขม ศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยอ่อนนุช ศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยสายไหม สถานที่ฝังกลบขยะมูลฝอยที่ตั้งอยู่ที่ อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม และ อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา โรงงานเตาเผามูลฝอยและโรงงานเตาเผาขยะติดเชื้อ ศูนย์กำจัดสิ่งปฏิกูลและไขมันอ่อนนุชและหนองแขม โดยจัดเจ้าหน้าที่ดูแลสถานที่ตลอด 24 ชั่วโมง ติดป้ายเตือนห้ามสูบบุหรี่และแนวทางปฏิบัติในการห้ามนำวัตถุไวไฟ หรือวัตถุระเบิดเข้ามากำจัด ห้ามเผาขยะมูลฝอยภายในบริเวณสถานที่ดังกล่าวข้างต้น การเตรียมพร้อมอุปกรณ์สำหรับดับเพลิง การป้องกันโอกาสที่เกิดไฟไหม้อันเนื่องจากกิจกรรมภายนอก หรือต้นเพลิงที่อาจเกิดจากความประมาท หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ต่าง ๆ การตรวจวัดค่าก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซต์ การตรวจวัดอุณหภูมิ การฝึกซ้อมดับเพลิงและการอพยพหนีไฟตามแผนฯ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง นอกจากนี้ ภายในสถานที่ฝังกลบขยะมูลฝอยต้องมีการตรวจวัดค่าก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซต์และตรวจวัดอุณหภูมิ รวมถึงจัดฝึกอบรมเกี่ยวกับการจัดการด้านสารเคมีและวัตถุอันตรายในสถานประกอบการและการจัดทำแผนตอบโต้เหตุฉุกเฉิน กรณีเกิดเพลิงไหม้ หรือสารเคมีและวัตถุอันตรายรั่วไหลให้หน่วยงานต่าง ๆ ของ กทม.
ทั้งนี้ สนอ.ได้เตรียมความพร้อมเครื่องมือ อุปกรณ์วิทยาศาสตร์ เพื่อตรวจวัดความเข้มข้นของมลพิษในบรรยากาศที่มีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนที่พักอาศัยบริเวณโดยรอบพื้นที่เกิดเหตุ ส่วนกรณีหากเกิดเหตุเพลิงไหม้ ได้มอบหมายให้ศูนย์บริการสาธารณสุข ปฏิบัติงานร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่ในการดูแลประชาชนขณะเกิดเหตุเพลิงไหม้และบรรเทาทุกข์หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ โดยจัดเตรียมอุปกรณ์ปฐมพยาบาลและให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ การประสานสำนักการแพทย์เตรียมยานพาหนะรถกู้ชีพ เพื่อส่งต่อไปยังสถานพยาบาล นอกจากนี้ หากผลกระทบจากสภาพอากาศขณะเกิดเพลิงไหม้ หรือหลังจากเพลิงสงบแล้วไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพมาก ศูนย์บริการสาธารณสุข จะจัดเจ้าหน้าที่พยาบาลอนามัยให้สุขศึกษาแก่ประชาชนเกี่ยวกับการป้องกันฝุ่นและปัญหาสุขภาพเบื้องต้น ส่วนการควบคุมดูแลสภาพแวดล้อม ได้มอบหมายให้สำนักงานสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจวัดความเข้มข้นของมลพิษในบรรยากาศที่มีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนที่พักอาศัยบริเวณโดยรอบที่เกิดเหตุ หากผลการตรวจวัดมีค่าเกินมาตรฐานที่กำหนด จะให้คำแนะนำแก่ผู้อำนวยการเขตพื้นที่ เพื่อพิจารณาสั่งการอพยพ หรือเคลื่อนย้ายประชาชนออกนอกพื้นที่ที่ไม่ปลอดภัย หรือให้คำแนะนำการป้องกันตนเองต่อไป
– กทม.รุกตรวจสภาพรถบรรทุก – เครื่องจักรกลต่อเนื่อง ลดมลพิษทางอากาศ
นางสาวอำภา นรนาถตระกูล ผู้อำนวยการสำนักการคลัง (สนค.) กล่าวถึงแนวทางลดการใช้รถเครื่องยนต์ดีเซลของหน่วยงานในสังกัด กทม.เพื่อลดปริมาณฝุ่นละออง PM2.5 ว่า ยานยนต์ขนาดใหญ่ เช่น รถบรรทุกทุกประเภทและเครื่องจักรกลที่ใช้ปฏิบัติงานของหน่วยงาน กทม.ส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีการนำพลังงานไฟฟ้ามาใช้ทดแทนอย่างแพร่หลาย จึงต้องศึกษาและพิจารณาดำเนินการในระยะต่อไป อย่างไรก็ตาม กองโรงงานช่างกล สนค.ได้จัดหน่วยบริการตรวจสอบสภาพรถยนต์เคลื่อนที่ เพื่อลดมลพิษ PM2.5 ซึ่งเป็นมาตรการเชิงรุกในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองดำเนินการตั้งแต่วันที่ 19 ต.ค.65 – 3 ก.พ.66 ให้บริการแก่หน่วยงานและสำนักงานเขตต่าง ๆ จำนวน 16 หน่วยงาน รวมทั้งสิ้น 625 คัน ผ่านเกณฑ์การตรวจวัด 586 คัน ไม่ผ่านเกณฑ์การตรวจวัด 39 คัน แก้ไขได้ระหว่างการตรวจวัด 24 คัน ไม่สามารถแก้ไขในระหว่างการตรวจวัด 15 คัน ซึ่งได้ประสานหน่วยงาน เพื่อส่งรถเข้าซ่อมปรับแต่งให้ได้ตามเกณฑ์ของกองโรงงานช่างกลต่อไป