(26 ส.ค. 68) นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงประเด็น “ไทยเสี่ยงจมน้ำ ในปี ค.ศ. 2050 กรุงเทพฯ เมืองหลวงที่อาจหายไป” ว่า กรุงเทพมหานครได้เตรียมมาตรการรับมือรอบด้าน โดยยืนยันว่ากรุงเทพฯ จะปลอดภัยจากวิกฤตจมน้ำ ด้วยแนวป้องกันน้ำท่วมสูงถึง 3.5 เมตร ร่วมกับระบบระบายน้ำครบวงจร

● สาเหตุของปัญหาน้ำท่วมในกรุงเทพฯ
ปัญหาน้ำท่วมของกรุงเทพฯ เกิดจาก 3 สาเหตุหลัก ได้แก่ ฝนตกหนัก น้ำเหนือหลาก และน้ำทะเลหนุนสูง ประกอบกับลักษณะพื้นที่เป็นที่ราบลุ่มปลายแม่น้ำเจ้าพระยา พื้นดินมีระดับต่ำ หลายพื้นที่มีระดับต่ำกว่าระดับน้ำทะเลปานกลาง อีกทั้งยังเกิดการทรุดตัวของแผ่นดินและการขยายตัวของเมืองอย่างรวดเร็ว เมื่อรวมกับผลกระทบจากภาวะโลกร้อน ทำให้ปัญหาน้ำท่วมเกิดขึ้นซ้ำซากและทวีความรุนแรงขึ้นทุกปี ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนมากขึ้น
● บริหารจัดการน้ำด้วยแนวคิด “ระบบพื้นที่ปิดล้อม”
กรุงเทพมหานครจึงใช้แนวคิดระบบพื้นที่ปิดล้อม โดยก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมล้อมรอบพื้นที่ เพื่อป้องกันน้ำจากพื้นที่ภายนอกไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่ ส่วนภายในพื้นที่ปิดล้อมดำเนินการก่อสร้างระบบระบายน้ำต่าง ๆ เพื่อระบายน้ำท่วมขังเนื่องจากฝนตกในพื้นที่ให้ระบายลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา
โฆษกของกรุงเทพมหานคร กล่าวอีกว่า กรุงเทพมหานครได้ก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย คลองมหาสวัสดิ์ คลองชักพระ และคลองพระโขนง เป็นคันกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อป้องกันน้ำท่วมจากน้ำเหนือหลากและน้ำทะเลหนุนสูง และคันป้องกันน้ำท่วมด้านตะวันออกของกรุงเทพมหานคร (คันกั้นน้ำพระราชดำริ) ใช้ป้องกันน้ำไหลบ่าจากพื้นที่ด้านเหนือและด้านตะวันออกของกรุงเทพมหานครเข้าท่วมพื้นที่ชั้นใน
รวมทั้งใช้ระบบระบายน้ำในพื้นที่ปิดล้อมเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังเนื่องจากน้ำฝน ประกอบด้วยระบบระบายน้ำต่าง ๆ ดังนี้ 1. คูคลองระบายน้ำ จำเป็นต้องมีการขุดลอกเปิดทางน้ำไหล เก็บวัชพืช และก่อสร้างเขื่อนริมคลอง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรองรับและระบายน้ำในคลองเมื่อมีฝนตก 2. ท่อระบายน้ำ ดำเนินการล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำเป็นประจำทุกปี ก่อสร้างและปรับปรุงท่อระบายน้ำในถนนเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำจากถนนและบ้านเรือนให้ระบายลงสู่คลอง 3. สถานีสูบน้ำ ประตูระบายน้ำ และบ่อสูบน้ำ เพื่อเร่งระบายน้ำท่วมขังเนื่องจากน้ำฝนในพื้นที่ออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา 4. จัดหาแก้มลิง เพื่อรองรับน้ำฝนส่วนเกินจากระบบระบายน้ำมาเก็บกักไว้ในแก้มลิงเป็นการชั่วคราว 5. อุโมงค์ระบายน้ำ เป็นโครงการขนาดใหญ่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำบริเวณที่มีปัญหาน้ำท่วมออกไปสู่แม่น้ำเจ้าพระยาได้โดยเร็ว
ทั้งนี้ รัฐบาลได้อนุมัติและสนับสนุนงบประมาณในโครงการขนาดใหญ่หลาย ๆ โครงการของกรุงเทพมหานคร ได้แก่ โครงการอุโมงค์ระบายน้ำ และโครงการก่อสร้างเขื่อน แม้ว่าพื้นที่กรุงเทพมหานครจะมีความสูงเฉลี่ยประมาณ 1.5 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.) กรุงเทพมหานครยังสามารถป้องกันน้ำท่วมและระบายน้ำฝนในพื้นที่ได้เป็นอย่างดีด้วยแนวป้องกันน้ำท่วมซึ่งมีความสูง 3.5 ถึง 2.8 ม.รทก. ร่วมกับการใช้ระบบระบายน้ำต่าง ๆ ในพื้นที่
● ผลกระทบจาก Climate Change
อีกปัจจัยหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ คือปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก (Climate Change) ที่ทวีความรุนแรงขึ้น และส่งผลกระทบต่อกรุงเทพมหานครในหลาย ๆ ด้าน ได้แก่
- อุณหภูมิสูงขึ้น: กรุงเทพฯ จะเผชิญกับอุณหภูมิที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน และทำให้เกิดการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ เด็ก และผู้มีรายได้น้อย
- น้ำท่วม: ปริมาณฝนที่ตกหนักและรุนแรงขึ้น รวมถึงระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น จะทำให้ปัญหาน้ำท่วมในกรุงเทพฯ รุนแรงและบ่อยครั้งขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ริมแม่น้ำและชายฝั่ง
- การกัดเซาะชายฝั่ง: ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นและคลื่นทะเลที่รุนแรงขึ้น จะทำให้เกิดการกัดเซาะชายฝั่ง โดยเฉพาะในพื้นที่ชายฝั่งทะเลของกรุงเทพฯ เช่น บางขุนเทียน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อโครงสร้างพื้นฐานและวิถีชีวิตของประชาชน
ปัจจุบันที่มีการคาดการณ์จากหลายหน่วยงานในเรื่องของระดับน้ำทะเลที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สำหรับอนาคตอีก 25 ปีข้างหน้า หรือปี พ.ศ. 2593 (ค.ศ. 2050) มีการคาดการณ์ระดับน้ำทะเลอาจสูงขึ้น 0.50 เมตร (RCP8.5*) หมายเหตุ: * เส้นตัวแทนความเข้มข้นแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ RCP (Representative Concentration Pathways) เป็นศัพท์เทคนิคหมายถึงฉากทัศน์การปล่อยแก๊สเรือนกระจกซึ่งใช้ในรายงานการประเมินฉบับที่ 5 ของไอพีซีซี โดยแบ่งออกเป็น 4 สถานการณ์คือ RCP2.6 RCP4.5 RCP6 และ RCP8.5 สะท้อนระดับการปล่อยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์สี่ระดับซึ่งเป็นผลลัพธ์ของนโยบายรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศระหว่าง ค.ศ. 2000 ถึง ค.ศ. 2100 ซึ่ง RCP8.5 เป็นฉากทัศน์ที่รุนแรงที่สุดที่คาดการณ์การเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลปี ค.ศ. 2050 สูงขึ้น 0.50 เมตร เมื่อพิจารณาจากระดับน้ำสูงสุดในแม่น้ำเจ้าพระยา ณ จุดวัดปากคลองตลาด เฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี อยู่ที่ +2.05 ม.รทก. (ระดับน้ำปี 2565 = +2.32 ปี 2566 = +1.90 ปี 2567 = +1.95) หากรวมกับระดับน้ำทะเลคาดการณ์แล้ว จะมีความสูงที่ +2.55 ม.รทก. ซึ่งใกล้เคียงกับระดับน้ำสูงสุดในปี 2554 ทั้งนี้ แนวป้องกันริมแม่น้ำเจ้าพระยาของกรุงเทพมหานคร ยังสามารถป้องกันได้ดีเนื่องจากมีความสูงอยู่ที่ 3.00 ม.รทก.
● เดินหน้า 5 มาตรการรับมือ พร้อมเสนอแนะ 5 มาตรการเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม การเตรียมความพร้อมในการรับมือเพื่อเผชิญหน้ากับภัยต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตเป็นสิ่งที่สำคัญและไม่อาจมองข้ามไปได้ กรุงเทพมหานครจึงมีมาตรการเตรียมพร้อมและแก้ไขปัญหากรุงเทพมหานครจมน้ำ ดังนี้
- การพัฒนาและปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน การสร้างและเสริมความแข็งแรงของเขื่อนป้องกันน้ำท่วม ความยาวริมตลิ่งของแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย และคลองมหาสวัสดิ์ มีความยาวทั้งสิ้นประมาณ 88 กม. ซึ่งแบ่งเป็นแนวป้องกันตนเองของเอกชนหรือหน่วยงานอื่น ความยาว 3.65 กิโลเมตร (กม.) แนวฟันหลอ 4.35 กม. และเป็นแนวป้องกันน้ำท่วมของ กทม. มีความสูง +3.50 ถึง +2.80 ม. รทก. ตลอดความยาว 80 กม. เพื่อป้องกันน้ำเหนือและน้ำทะเลหนุนเข้าสู่พื้นที่โดยมีการตรวจสอบและซ่อมแซมแก้ไขจุดชำรุดรั่วซึมเป็นประจำทุกปี และอยู่ระหว่างดำเนินการสร้างแนวป้องกันจุดแนวฟันหลอให้แล้วเสร็จ การเพิ่มประสิทธิภาพระบบระบายน้ำต่าง ๆ ทั้งคูคลอง ท่อระบายน้ำ สถานีสูบน้ำ ประตูระบายน้ำ บ่อสูบน้ำ แก้มลิง และอุโมงค์ระบายน้ำ เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำท่วมจากปัญหาต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
- มาตรการในการฟื้นฟูและการป้องกันชายฝั่ง พื้นที่ชายฝั่งทะเลบางขุนเทียน มีความยาวของชายฝั่งประมาณ 4.70 กม. จากอดีตถึงปัจจุบัน ชายฝั่งถูกกัดเซาะเข้าไปประมาณ 1 กม. กรุงเทพมหานคร โดยสำนักการระบายน้ำซึ่งมีภารกิจสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง กำลังดำเนินการโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเลบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร และศูนย์สำรวจและเฝ้าระวังชายฝั่ง ลักษณะโครงการเป็นการก่อสร้างคันหินถาวรนอกแนวชายฝั่ง เพื่อฟื้นฟูพื้นที่ชายฝั่งที่ถูกกัดเซาะแนวคันหิน จะช่วยป้องกันและลดผลกระทบจากคลื่นลดการกัดเซาะชายฝั่ง รวมถึงเป็นแนวดักดินตะกอน ส่งผลให้มีดินตะกอนเพิ่มขึ้นหลังคันหิน และช่วยให้พันธุ์ไม้ป่าชายเลนเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ จะได้พื้นที่ป่าชายเลนกลับคืนมา เป็นการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งอย่างยั่งยืน ปัจจุบันอยู่ระหว่างการจัดซื้อจัดจ้าง
- การวางแผนและการพัฒนา เร่งพัฒนาเทคโนโลยีการปรับตัวและการป้องกัน โดยปัจจุบันศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วมของกรุงเทพมหานคร ใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และการสื่อสารที่ทันสมัย มีระบบตรวจวัดข้อมูลต่าง ๆ เพื่อใช้ติดตามสถานการณ์น้ำและสถานการณ์ฝนที่แม่นยำ และมีแผนการปรับปรุง พัฒนาระบบวิเคราะห์ คาดการณ์ และประเมินสถานการณ์ต่าง ๆ รวมถึงการแจ้งเตือนภัย ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งในปัจจุบันจากข้อมูลสถิติผลกระทบจากการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล ยังไม่ส่งผลกระทบต่อแนวป้องกันน้ำท่วมของกรุงเทพมหานคร
- การเตรียมความพร้อมรับมือ ติดตามสถานการณ์น้ำเหนือและน้ำทะเลหนุนอย่างใกล้ชิด และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อบูรณาการข้อมูลร่วมกันและใช้วิเคราะห์คาดการณ์สถานการณ์ ตลอดจนเตรียมความพร้อมระบบระบายน้ำ อุปกรณ์เครื่องมือเครื่องจักร และเจ้าหน้าที่พร้อมรับมือสถานการณ์
- แนวทางความร่วมมือระดับชาติ กรุงเทพมหานครร่วมเป็นหนึ่งในคณะอนุกรรมการจัดทำข้อเสนอโครงการศึกษาแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง และการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศบริเวณพื้นที่อ่าวไทยตอนบน (กรุงเทพมหานคร จังหวัดสมุทรปราการ และจังหวัดสมุทรสาคร) ซึ่งรัฐบาลมอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม จัดทำแผนแม่บทการป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยครอบคลุมการศึกษาผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (SEA) เพื่อให้ได้แนวทางที่มีความเหมาะสมยั่งยืน และสามารถนำไปใช้จริงในระดับพื้นที่ คาดว่าแผนแม่บทจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4 ของปี 2569
สำหรับข้อเสนอแนะและมาตรการเพิ่มเติม ประกอบด้วย
- รณรงค์ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เร่งการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานหมุนเวียน ปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน พัฒนาเทคโนโลยีการดักจับและเก็บคาร์บอน เพื่อลดความรุนแรงจากปัญหาสภาวะโลกร้อน
- พัฒนาเมืองที่สามารถอยู่ร่วมกับน้ำได้ฟื้นฟูและอนุรักษ์ระบบนิเวศชายฝั่ง
- การวางแผนใช้ที่ดินที่คำนึงถึงความเสี่ยง พัฒนาระบบเตือนภัยและการอพยพ สร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ
- ส่งเสริมการวิจัยเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พัฒนาเทคโนโลยีการปรับตัวและการป้องกัน สร้างระบบติดตามและประเมินผลที่มีประสิทธิภาพ
- ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน สร้างความตระหนักและเตรียมความพร้อมของชุมชน
“แม้หลายหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศจะคาดการณ์ว่าระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญภายในปี 2050 ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชายฝั่งและเขตลุ่มต่ำทั่วโลก รวมถึงกรุงเทพมหานคร ซึ่งกรุงเทพมหานครได้เตรียมความพร้อมด้วยแผนรับมือครอบคลุมทุกมิติ ทั้งการเสริมแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยาและคลองสายหลักต่าง ๆ สูงถึง 3.5 เมตร ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำสูงสุดในอดีตและคาดการณ์ในอนาคต นอกจากนี้ ยังพัฒนาระบบระบายน้ำ อุโมงค์ระบายน้ำขนาดใหญ่ สถานีสูบน้ำ และแก้มลิง เพื่อรองรับน้ำฝนและน้ำท่วมขัง พร้อมใช้เทคโนโลยีทันสมัยในการติดตามและพยากรณ์สถานการณ์น้ำ เพื่อบริหารจัดการอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังประสานความร่วมมือในระดับชาติและระหว่างประเทศ เพื่อวางแผนและดำเนินงานอย่างยั่งยืน รับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นอย่างมั่นคง สร้างความมั่นใจว่ากรุงเทพมหานครจะไม่จมน้ำ” โฆษกฯ กทม. กล่าว
—– (จิรัฐคม…สปส.รายงาน)