(26 ส.ค. 68) เวลา 06.00 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมปล่อยแถวเปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นในชุมชนที่มีการแพร่ระบาดของยาเสพติด ตามนโยบาย “No Drugs No Dealers” โดยมี นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน และ รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล นายสุนทร สุนทรชาติ รองปลัดกรุงเทพมหานคร นายอำนาจ เหล่ากอที ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมพิธี ณ ลานพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 ดินแดง ชุมชนในพื้นที่เขตคลองเตย และเขตหนองแขม
• กทม. เดินหน้าเชิงรุก เสริมภูมิคุ้มกันชุมชน
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า กทม. เน้นเรื่องการดูแลบำบัดและดูแลชุมชน เพราะหัวใจที่ กทม. ดูคือต้องทำให้ชุมชนเข้มแข็ง สร้างภูมิคุ้มกันให้กับชุมชน เราใช้วิธีลงพื้นที่คุยกับกรรมการชุมชน เพื่อให้ทราบว่าในชุมชนนี้ใครค้าใครเสพ แล้วนำข้อมูลนี้มา “X-ray” และมีการบำบัดให้ครบถ้วน ตอนนี้มีศูนย์บริการสาธารณสุขที่สามารถบำบัดได้อยู่ 69 แห่ง เราเน้นว่า “ผู้เสพ คือ ผู้ป่วย” และส่งเสริมให้คนเข้ามาสู่การบำบัด ที่ผ่านมาเรามีผู้เข้ารับการบำบัดอยู่ประมาณ 4,500 ราย ซึ่งตอนนี้มีการเพิ่มขึ้นจากการเข้าไประบุตัว (Re X-ray) เรื่องปัญหาเศรษฐกิจ อาจจะเป็นตัวหนึ่งที่ทำให้การระบาดเพิ่มขึ้น แต่สุดท้ายก็ต้องลงไปที่ตัวชุมชนและให้ความรู้กับประชาชน เน้นการสร้างภูมิต้านทานให้กับชุมชนเป็นหลัก
• สถิติบุคคลที่ได้รับการบำบัดแล้วกลับเข้าสู่สภาวะปกติ
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวอีกว่า ส่วนใหญ่เราก็คืนกลับสู่พื้นที่เป็นหลัก และมีที่เข้ากับศูนย์การฟื้นฟู และมีศูนย์ “พิชิตใจ” ที่ดึงออกมา ถ้าเขามีอาการเยอะ หรือมีการป่วยทางจิตเพิ่มเติม ก็ส่งต่อโรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุข ส่วนใหญ่แล้วมองว่าอาจจะมีที่หลุดออกไปบ้าง 10-20% ที่ออกจากบำบัด พยายามไปตามตัวกลับมา แต่ส่วนใหญ่ฟื้นฟูได้ดี ชุมชนก็มีความเข้าใจ ช่วยกันประคับประคอง ด้านเจ้าหน้าที่ก็ลงพื้นที่ตลอด
• ความก้าวหน้า หลังรับนโยบายจาก มท.
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวต่อไปว่า ดีมาก เราใช้วิธีสำรวจความพึงพอใจของชุมชนทุกชุมชน ว่าชุมชนรู้สึกอย่างไร รู้สึกว่ามีการเอาจริงเอาจัง หัวใจที่สำคัญที่สุด ตัวชี้วัดที่ท่านรัฐมนตรีได้กล่าว คือ ความพึงพอใจของประชาชน ว่าเขารู้สึกอย่างไรกับยาเสพติด ตัวเลขนี้ที่เราจับได้เยอะขึ้น ส่วนหนึ่งอาจจะไม่ได้หมายความว่ายาเสพติดระบาดมากขึ้น แต่การเอาจริงเอาจังทำให้เราเห็นข้อมูลที่แท้จริงมากขึ้น การที่เราเห็นจำนวนผู้เสพติดมากขึ้นแสดงว่าเราเอาจริงเอาจัง เราลงไปดู “X-ray” มากขึ้น ทำให้เห็นตัวเลข ซึ่งพอเราได้ตัวเลขที่ครบถ้วนแล้ว สุดท้ายมันก็จะค่อย ๆ ดีขึ้น เชื่อว่าเรามาถูกทางแล้ว ประชาชนและชุมชนก็ดีใจที่ทางรัฐบาลเอาจริงเอาจัง และทุกหน่วยงานร่วมมือกัน ทั้ง สำนักงาน ป.ป.ส. และ บช.น. กทม. เราทำงานคนเดียวไม่มีทางสำเร็จ
ทั้งนี้ ด้านชุมชนคลองเตย ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า ชุมชนคลองเตยนั้นมีปัญหาความซับซ้อนของชุมชน คือ มีหลายชุมชน มีการเคลื่อนไหวระหว่างชุมชนได้ แต่เราก็ทำความเข้าใจและสร้างความเข้มแข็ง สร้างภูมิคุ้มกัน ยาเสพติดเป็นสิ่งที่บางทีกำจัดให้หมดไป 100% ยาก แต่หัวใจคือ การสร้างภูมิคุ้มกัน เหมือนกับการฉีดวัคซีนให้กับคนในชุมชน เพื่อป้องกันยาเสพติดซึ่งเหมือนเชื้อโรค
ด้าน รมช.ธีรรัตน์ กล่าวว่า การปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นตามนโยบายรัฐบาล “No Drugs No Dealers” ถือเป็นมาตรการสำคัญที่มุ่งสร้างชุมชนกรุงเทพมหานครและทุกพื้นที่ให้ปลอดภัยจากยาเสพติด และเป็นนโยบายหลักของรัฐบาล ซึ่งนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานบูรณาการความร่วมมือป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในกรุงเทพฯ ทั้ง 50 เขต ควบคู่กับนโยบาย Seal Stop Safe ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาบรรลุผลในระยะเวลาเร่งด่วนตามเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็น 3 เดือน 6 เดือน หรือ 1 ปี โดยมีความคาดหวังอย่างชัดเจนว่ายาเสพติดต้องหมดไปจากสังคมไทย ดังที่ทุกพื้นที่ทั่วประเทศได้ Kick Off เปิดปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด เสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนด้วยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนบูรณาการการทำงานอย่างเต็มที่ ครอบคลุมทั้งการป้องกัน ป้องปราม ปราบปราม และบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดกลับคืนสู่สังคม มุ่งหวังให้สถิติผู้เสพลดลง การจับกุมและการป้องกันการแพร่ระบาดในชุมชนเห็นผลอย่างมีนัยสำคัญ อันจะทำให้สังคมสามารถพึ่งพากลไกภาครัฐได้อย่างแท้จริง
รมช.ธีรรัตน์ กล่าวอีกว่า จุดมุ่งหมายสำคัญของการดำเนินการครั้งนี้ คือการทำให้สังคมไทยปลอดจากทั้งผู้ค้าและผู้เสพ โดยประชาชนต่างคาดหวังให้เจ้าหน้าที่รัฐเป็นที่พึ่งในการรับแจ้งเบาะแสและนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำผิดดังที่ท่านรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีได้ย้ำเสมอว่า นอกจากประชาชนจะเป็นผู้ที่รู้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผู้ค้าและผู้เสพแล้ว เจ้าหน้าที่เองก็เป็นกำลังสำคัญที่มีข้อมูลอย่างรอบด้านเช่นกัน การไม่เพิกเฉยต่อปัญหาและการลุกขึ้นมาแก้ไขอย่างจริงจังจะนำไปสู่ความสำเร็จในการปราบปรามยาเสพติดได้อย่างแท้จริง ด้วยความร่วมแรงร่วมใจของทุกฝ่าย
รมช.ธีรรัตน์ กล่าวต่อไปว่า ภาครัฐและทุกฝ่ายจึงจำเป็นต้องทบทวนแนวทางการทำงาน ปรับปรุงมาตรการให้ทันสมัย และเพิ่มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อให้ผลลัพธ์ดีกว่าในอดีต อันจะนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งมีการประเมินผลอย่างต่อเนื่อง โดยขอให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมุ่งมั่นและระมัดระวัง เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ ลดความเดือดร้อนของประชาชน ร่วมกันทำให้ยาเสพติดหมดไปจากสังคมไทย
จากนั้นเวลา 07.00 น. รมช.ธีรรัตน์ พร้อมด้วย ผู้ว่าฯ ชัชชาติ และคณะผู้บริหาร ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจจุดคัดกรองและรับบำบัด ศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคม พร้อมเยี่ยมบ้านและมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ป่วยกลุ่มเปราะบาง ณ ชุมชนริมทางรถไฟสายท่าเรือ เขตคลองเตย กรุงเทพฯ ซึ่งจากการลงพื้นที่ครั้งนี้ พบผู้ป่วยยาเสพติด จำนวน 5 ราย และมีเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่เปรียบเสมือน “มดงาน” ที่คอยสอดส่อง ดูแล และหาข้อมูลเบาะแสเพื่อแจ้งเจ้าหน้าที่ ซึ่งในวันนี้ยังมีประชาชนบางส่วนแสดงความกังวลด้านความปลอดภัย โดย น.ส.ธีรรัตน์ ยืนยันว่ารัฐบาลจะทำเต็มที่เพื่อให้ทุกคนปลอดภัยและมั่นใจที่จะเดินหน้าไปด้วยกันอย่างเข้มแข็ง
ต่อมา ผู้ว่าฯ ชัชชาติ พร้อมคณะผู้บริหาร ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจจุดคัดกรองและรับบำบัด บูทศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคม บูทการฝึกอาชีพ และบูทด้านการป้องกันปัญหายาเสพติด เยี่ยมบ้านและมอบสิ่งของช่วยเหลือให้ผู้ป่วยกลุ่มเปราะบาง และตรวจเยี่ยมศูนย์การเรียนรู้อาชีพวิสาหกิจชุมชน และเยี่ยมให้กำลังใจการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ณ พื้นที่เขตหนองแขม
สำหรับการเปิดปฏิบัติการในวันนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อลดความเดือดร้อนที่เกิดจากปัญหายาเสพติดของประชาชนตามนโยบายเร่งด่วน “No Drugs No Dealers” ผนึกกำลังชุมชนปลอดภัยยาเสพติด ซึ่งมีการตั้งเป้าหมายลดปัญหายาเสพติดอย่างเด็ดขาดภายใน 3 เดือน (กรกฎาคม – กันยายน 2568) เพื่อให้ชุมชนที่ประสบปัญหายาเสพติดเป็น “ชุมชนปลอดยาเสพติด” โดยบูรณาการงานปราบปรามผู้ค้ายาเสพติด เร่งรัดปฏิบัติการค้นหาผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด (Re X-ray) ให้เข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา ลดผลกระทบจากผู้ป่วยจิตเวช และฟื้นฟูสภาพทางสังคมอย่างรอบด้าน ภายใต้แนวคิด “ผู้เสพ คือ ผู้ป่วย” สำหรับผู้ผลิตและผู้ค้าต้องใช้มาตรการปราบปรามทางกฎหมายอย่างจริงจัง ยึดอายัดทรัพย์สินเพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติดต่อไป
ทั้งนี้ การเปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นตามนโยบาย “No Drugs No Dealers” ในวันนี้กรุงเทพมหานคร ผนึกกำลังร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกรุงเทพมหานคร (สำนักงาน ปปส.กทม.) กองบัญชาการตำรวจนครบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่ชุมชนแพร่ระบาดยาเสพติดพร้อมกัน 50 เขต 88 สน. เพื่อนำผู้เสพผู้ติดยาเสพติดเข้าสู่การบำบัดรักษา ตลอดจนการค้นหาผู้มีภาวะทางจิตเวช แยกผู้ค้าออกจากชุมชนให้ชุมชนปลอดจากยาเสพติดตามเจตนารมณ์และนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหายาเสพติดระยะเร่งรัด 3 เดือน และสร้างกลไกการประสานความร่วมมือระหว่างสำนักงานเขต กองบัญชาการตำรวจนครบาล และสำนักงาน ปปส.กทม. เพื่อสร้างความยั่งยืนให้ชุมชนในกรุงเทพมหานครปลอดยาเสพติดต่อไป
#กทม #ปลอดภัยดี #NoDrugsNoDealers
