สนย. แจงขยายถนนย่านสุขุมวิทช่วยบรรเทาการจราจรในพื้นที่-ย้ำเปิดรับฟังความเห็นก่อนเวนคืน
นายธวัชชัย นภาศักดิ์ศรี ผู้อำนวยการสำนักการโยธา (สนย.) กทม. กล่าวชี้แจงกรณีมีข้อคัดค้านการขยายถนนซอยพร้อมศรี 1 ซอยสุขุมวิท 49 และซอยทองหล่อ 13 รวมถึงการเจาะทะลุซอยตันในย่านสุขุมวิทว่า โครงการขยายซอยพร้อมศรี 1 ซอยสุขุมวิท 49 และซอยทองหล่อ 13 เป็นโครงการตามผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2556 (สาย ข.41) มีจุดเริ่มโครงการบริเวณซอยสุขุมวิท 49/11 บรรจบซอยสุขุมวิท 39 ไปทางทิศตะวันออกตามแนวซอย 49/11 ระยะประมาณ 590 เมตร ไปทางทิศใต้ตามแนวซอยสุขุมวิท 49 ระยะทางประมาณ 260 เมตร ไปทางทิศตะวันออกตามแนวซอย 49/4 ระยะประมาณ 270 เมตร บรรจบซอยสุขุมวิท 55 และแนวสายทางขยายซอยดังกล่าวเป็นแนวเส้นทางเดียวกับร่างผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร พ.ศ. …. (สาย ข.25) ซึ่งการขยายเขตทางดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อบรรเทาการจราจรในพื้นที่ รวมทั้งสร้างโครงข่ายถนนโดยรอบให้มีความสะดวกและคล่องตัวมากขึ้น ไม่มีเจตนาเอื้อประโยชน์ให้เกิดอาคารสูง หรืออาคารขนาดใหญ่แต่อย่างใด
ทั้งนี้ หาก กทม. จำต้องใช้พื้นที่ของเอกชน เพื่อพัฒนาตามโครงการในผังเมืองรวมฯ จะดำเนินงานตามขั้นตอนกระบวนการเวนคืนโดยเริ่มจากการเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งหากพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย จะพิจารณาทบทวนการดำเนินงานอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานให้มีความสะดวกและปลอดภัยเป็นภารกิจสำคัญของ สนย. ที่ต้องเตรียมความพร้อม เพื่อรองรับการพัฒนาเมืองที่เติบโตขึ้นเป็นลำดับ โดยยังคงให้ความสำคัญกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่และถือประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก เพื่อให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองน่าอยู่สำหรับทุกคนต่อไป
กทม. เดินหน้าติดกล้อง CCTV พร้อม AI แล้ว 80 ตัว ตรวจจับผู้ฝ่าฝืนจอด-ขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า
นายอนุชิต พิพิธกุล ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ (สนท.) กทม. กล่าวถึงความคืบหน้าการติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) พร้อมระบบ AI และผลการเปรียบเทียบปรับให้ประชาชนได้รับทราบว่า สนท. และสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) ได้นำกล้องวงจรปิด (CCTV) พร้อมระบบ AI มาใช้ในการตรวจจับภาพผู้ฝ่าฝืนจอด หรือขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค. 67 – 10 ธ.ค. 67 โดยปัจจุบัน สจส. ได้ติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) พร้อมระบบ AI แล้วประมาณ 80 ตัว สำนักงานเขตดำเนินคดีแล้ว 3,314 คดี และเปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 830,900 บาท
นอกจากนี้ สนท. ได้ประสานความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจติดตามผลการปฏิบัติงานของการกวดขันรถจักรยานยนต์จอด หรือขับขี่บนทางเท้าด้วยระบบ AI เพื่อติดตามสถิติการตรวจจับภาพผู้ฝ่าฝืน หากบริเวณใดมีจำนวนผู้ฝ่าฝืนลดจำนวนลง จะพิจารณาย้ายไปติดตั้งในจุดที่มีผู้ฝ่าฝืนจำนวนมากในจุดอื่น ๆ ต่อไป
ส่วนการดำเนินคดี หากสำนักงานเขตออกหนังสือเชิญมาให้ถ้อยคำ หรือแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว ผู้กระทำผิดไม่มาให้ถ้อยคำ หรือปฏิเสธข้อกล่าวหา สำนักงานเขตจะรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อส่งให้อัยการยื่นฟ้องผู้กระทำความผิดและดำเนินตามระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
เขตบางนาแจงการตัดต้นไม้ที่ถนนอุดมสุขตามหลักรุกขกรรม เพื่อความปลอดภัยของผู้สัญจร
นางประภัสสร จำนงบุตร ผู้อำนวยการเขตบางนา กทม. กล่าวกรณีมีข้อสังเกตการตัดต้นไม้ในพื้นที่ถนนอุดมสุขว่า สำนักงานเขตฯ จะดำเนินการตัดต้นไม้ในกรณีลดทอนความสูงและกรณีที่ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนผ่านระบบ Traffy Fondue ซึ่งมีจำนวนมาก เช่น ต้นไม้บดบังกล้องวงจรปิด (CCTV) ต้นไม้เกี่ยวสายไฟและสายสัญญาณ เป็นต้น สำนักงานเขตฯ จึงจำเป็นต้องตัดต้นไม้ อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่ต้นไม้กำลังแตกกิ่งใหม่อาจจะทำให้ผู้ใช้ทางเท้าไม่มีร่มเงา เกิดความร้อนในบางช่วงเวลา โดยการดำเนินการดังกล่าวเป็นการแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียนของประชาชน เพื่อให้ประชาชนสามารถสัญจรบนทางเท้าและทางถนนด้วยความปลอดภัย รวมทั้งเพื่อส่งเสริมทัศนียภาพที่สวยงามของเมือง
ทั้งนี้ สำนักงานเขตฯ ได้ดำเนินการตามแนวทางปฏิบัติในการตัดแต่งต้นไม้อย่างถูกต้องตามหลักรุกขกรรม มีการประเมินความเสี่ยงต้นไม้ และตั้งกรวยรักษาความปลอดภัยขณะดำเนินการ โดยในช่วงฤดูหนาว ซึ่งเป็นระยะที่ต้นไม้พักตัว (สังเกตว่าต้นไม้จะเริ่มผลัดใบ) และเก็บสะสมอาหารเตรียมสำหรับการแตกยอดใบใหม่ในฤดูกาลถัดไป จึงมีการตัดแต่งกิ่งเพื่อลดขนาดของทรงพุ่มให้มีขนาดเหมาะสมกับลำต้น และเพื่อลดความเสี่ยงน้ำหนักของกิ่งที่จะหักโค่นเป็นอันตรายต่อประชาชน
เขตมีนบุรีรุดแก้ไขปัญหากลิ่นรบกวนจากการประกอบกิจการบริเวณถนนรามคำแหง
นายศักดิ์ชัย ใสสุข ผู้อำนวยการเขตมีนบุรี กทม. กล่าวกรณีประชาชนร้องเรียนได้รับความเดือดร้อนจากกลิ่นรบกวนจากการประกอบกิจการบริเวณถนนรามคำแหง เขตมีนบุรีว่า สำนักงานเขตฯ ตรวจสอบพื้นที่สถานประกอบการ เพื่อพิจารณาแนวทางมาตรการป้องกันและแก้ไข กรณีได้กลิ่นรบกวนจากการประกอบกิจการบนถนนรามคำแหง เขตมีนบุรี โดยฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล ได้ตรวจสอบกรณีเป็นเหตุรำคาญพระราชบัญญัติ (พรบ.) การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พร้อมให้คำแนะนำผู้ประกอบการ เพื่อดำเนินการแก้ไขปรับปรุง ตลอดจนมีมาตรการบรรเทาเหตุรำคาญ กำหนดระยะเวลาให้แล้วเสร็จภายใน 14 วัน ทั้งนี้ สำนักงานเขตฯ จะตรวจติดตามผลการแก้ไขปรับปรุงต่อไป