กทม. ชี้แจงข่าวประจำวันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม 2567

กทม. เดินหน้าควบคุมป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในชุมชนพื้นที่เสี่ยงเขตประเวศ


นางภาวิณี รุ่งทนต์กิจ รองผู้อำนวยการสำนักอนามัย รักษาราชการผู้อำนวยการสำนักอนามัย (สนอ.) กทม. กล่าวถึงความคืบหน้าการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าในพื้นที่เขตประเวศว่า กทม. ได้ติดตามควบคุมและเฝ้าระวังโรคพิษสุนัขบ้าในพื้นที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช เขตประเวศ ซึ่งเป็นพื้นที่พบรายงานสัตว์ติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า โดยจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการควบคุมและป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า (warroom) และประชุมสื่อสารความเสี่ยงของการระบาดโรคพิษสุนัขบ้า พร้อมรวบรวมข้อมูลจำนวนสุนัขจรจัดภายในศูนย์กำจัดมูลฝอยฯและชุมชนโดยรอบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งจัดทีมสอบสวนควบคุมโรคพิษสุนัขบ้าเชิงรุก (SRRT) ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสัตวแพทย์สาธารณสุข ศูนย์บริการสาธารณสุข 22 วัดปากบ่อ ศูนย์บริการสาธารณสุข 46 กันตารัติอุทิศ ศูนย์บริการสาธารณสุข 57 บุญเรือง ล้ำเลิศ อาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร (อสส.) ร่วมกับสำนักงานเขตประเวศ และปศุสัตว์พื้นที่กรุงเทพมหานคร กรมปศุสัตว์ ลงพื้นที่สอบสวน ควบคุม และป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ค้นหาคนและสัตว์สัมผัสโรค นำสัตว์จรจัดที่มีความเสี่ยงในพื้นที่ไปกักสังเกตอาการที่ศูนย์ควบคุมสุนัข กทม. เขตประเวศ

นอกจากนี้ ยังได้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในคนและสัตว์เลี้ยงในชุมชนพื้นที่เสี่ยงอย่างต่อเนื่อง โดยผลการดำเนินการตั้งแต่วันที่ 22 พ.ย. – 7 ธ.ค. 67 ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในคน จำนวน 4,236 โด๊ส ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในสัตว์เลี้ยงในชุมชนพื้นที่เสี่ยงจำนวน 470 ตัว รวมทั้ง รายงานผลการตรวจพบเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าในสุนัขจำนวน 6 ตัว เป็นสุนัขจรจัดจากศูนย์กำจัดมูลฝอยฯ ที่นำมากักสังเกตอาการที่ศูนย์ควบคุมสุนัขฯ โดยประสานสำนักงานปศุสัตว์พื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อนำตัวอย่างส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการของสถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ กรมปศุสัตว์

ทั้งนี้ กทม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ประสานความร่วมมือให้คำแนะนำประชาชนเกี่ยวกับโรคพิษสุนัขบ้า โดยเน้นย้ำให้เพิ่มความระมัดระวังในการดูแลสัตว์เลี้ยงไม่ให้สัมผัสกับสัตว์อื่นที่ต้องสงสัย หากสัตว์เลี้ยงมีพฤติกรรมเปลี่ยนไปขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ พร้อมประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเลี้ยงสัตว์อย่างรับผิดชอบ และเรื่องโรคพิษสุนัขบ้าอย่างต่อเนื่องในหลายรูปแบบ ผ่านช่องทางเครือข่ายการสื่อสารการป้องกันและควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า รวมทั้งศูนย์สุขภาพชุมชนที่มีอาสาสมัครสาธารณสุขประชาสัมพันธ์เสียงตามสายในชุมชน เพื่อให้ข้อมูลข่าวสารการป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าอย่างทั่วถึง นอกจากนี้ ขอแนะนำประชาชนให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสสุนัข-แมวที่ไม่ทราบประวัติการฉีดวัคซีนฯ กรณีถูกสัตว์กัด หรือข่วนให้รีบล้างแผลโดยเร็วด้วยสบู่และน้ำสะอาดหลายครั้ง พร้อมใส่ยาฆ่าเชื้อบริเวณแผล สังเกตอาการสัตว์ที่กัดเป็นเวลา 10 วัน และพบแพทย์ทันทีโดยสามารถเข้ารับบริการตรวจรักษาและฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าได้ที่ศูนย์บริการสาธารณสุข กทม. ทั้ง 69 แห่ง ขณะเดียวกัน สนอ. มีมาตรการเชิงรุกในการออกหน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่ผ่าตัดทำหมันและฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในพื้นที่กรุงเทพฯ อย่างต่อเนื่อง โดยให้บริการตามเรื่องร้องขอหน่วยจากประชาชน ชุมชน หน่วยงาน และองค์กรต่าง ๆ และบูรณาการออกหน่วยแพทย์และสัตวแพทย์เคลื่อนที่ในวัดและศาสนสถาน ช่องทางการติดต่อประสานงานแจ้งเหตุกรณีพบสัตว์สงสัยโรคพิษสุนัขบ้า ได้แก่ สายด่วน กทม. 1555 ภายใน 24 ชั่วโมง สำนักงานสัตวแพทย์สาธารณสุข หมายเลขโทรศัพท์ 0 2248 7417 หรือ 0 2328 7460 และสำนักงานปศุสัตว์พื้นที่ หมายเลขโทรศัพท์ 0 2004 4407

นายดิชา คงศรี ผู้อำนวยการเขตประเวศ กทม. กล่าวว่า สำนักงานเขตฯ ได้ประสานสำนักอนามัย ศูนย์บริการสาธารณสุข 22 วัดปากบ่อ ร่วมกันรณรงค์และประชาสัมพันธ์ออกหน่วยเคลื่อนที่ให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า ทำหมันสุนัขและแมวจรจัดในพื้นที่เขตประเวศและใกล้เคียง รวมถึงส่งเสริมความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชน หากถูกสัตว์จรจัดกัด หรือเลียให้รีบพบแพทย์ เพื่อฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า ทั้งนี้ สำนักงานเขตฯ สรุปผลการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ ฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าในคน เข็มที่ 1 จำนวน 2,193 คน และเข็มที่ 1 รวมเข็มที่ 2 จำนวนทั้งสิ้น 4,236 เข็ม ฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าในสัตว์ จำนวน 300 ตัว จับสุนัขมาสังเกตอาการ 185 ตัว โดยสุนัขสังเกตอาการตาย 6 ตัว ส่งตรวจพบเชื้อ 2 ตัว ไม่พบเชื้อ 1 ตัว ขณะนี้รอผลการตรวจ 3 ตัว

กทม. เตรียมสรุปผลสอบวินัยร้ายแรงโครงการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายฯ

นางฐิติชยา อนันต์วงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานการเจ้าหน้าที่ (สกจ.) สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการของคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงของข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญกระทำผิดวินัยในการดำเนินโครงการจัดซื้อครุภัณฑ์เสริมสร้างสมรรถภาพทางกายสำหรับศูนย์นันทนาการฯ และศูนย์กีฬา สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว (สวท.) จำนวน 7 โครงการว่า ภายหลังผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มีคำสั่ง กทม. ที่ 2364/2567 ลงวันที่ 1 ส.ค. 67 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรง ซึ่งประธานกรรมการรับทราบคำสั่งเมื่อวันที่ 7 ส.ค. 67 และมีการประชุมคณะกรรมการสอบสวนฯ เมื่อวันที่ 8 ส.ค. 67 และในวันที่ 10 ก.ย. 67 มีคำสั่ง กทม. ที่ 3018/2567 เรื่อง เปลี่ยนแปลงคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรง (ครั้งที่ 1) เนื่องจากมีผู้ถูกกล่าวหาบางรายคัดค้านกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรงบางราย ต่อมาจึงได้มีคำสั่ง กทม. ที่ 4575/2567 ลงวันที่ 2 ธ.ค. 67 เรื่องเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรง (ครั้งที่ 2) เนื่องจากมีผู้ถูกกล่าวหาบางรายคัดค้านกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรงบางราย และมีการเพิ่มจำนวนผู้ถูกกล่าวหาตามที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน แจ้งผลการตรวจสอบ และคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรง ตรวจพบว่า ผู้มีมูลทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงเพิ่มเติม โดยขณะนี้อยู่ระหว่างคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรง สรุปสำนวนรายงานต่อผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ซึ่งครบกำหนดระยะเวลาการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรง 120 วัน ณ วันที่ 6 ธ.ค. 57

นางสาวอรัญญา พรไชยะ หัวหน้าสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร (สกก.) กทม. กล่าวว่า สกก. ในฐานะเลขาธิการศูนย์ปฏิบัติการติดตามการต่อต้านทุจริตของกรุงเทพมหานครได้ส่งรายงานผลการสอบสวนข้อเท็จจริงการตรวจสอบเรื่องการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย 7 โครงการให้ปลัดกรุงเทพมหานครและสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) เรียบร้อยแล้ว

 

 

กทม. เร่งแก้ไขที่นั่งป้ายรถเมล์ ซ.เทพรัตนโมลี 21 เพื่อความสะดวก-ปลอดภัยประชาชน

นายสิทธิพร สมคิดสรรพ์ ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) กทม. กล่าวกรณีมีข้อวิจารณ์การเทปูนสูงเท่าเก้าอี้บริเวณป้ายรถเมล์ ซอยเทพรัตนโมลี 21 ถนนหลวงแพ่งว่า สจส. ได้ตรวจสอบและประสานสำนักการโยธา (สนย.) ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโครงการปรับปรุงถนนหลวงแพ่งดำเนินการแก้ไขศาลาที่พักผู้โดยสารบริเวณดังกล่าวแล้ว โดย สนย. จะเร่งรื้อย้ายศาลาฯ และนำกลับมาติดตั้งคืนตำแหน่งเดิมในสภาพที่สมบูรณ์ เมื่อปรับปรุงฐานรากของศาลาฯ แล้วเสร็จ ทั้งนี้ หากมีการปรับปรุงถนนและทางเท้า สจส. และ สนย. จะประสานความร่วมมือการทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชน ส่วนโครงการปรับปรุงถนนหลวงแพ่ง ช่วงจากสำนักงานประปาสาขาสุวรรณภูมิถึงคลองพระยาเพชร สจส. ได้ขอความร่วมมือ สนย. ดำเนินการปรับปรุงศาลาที่พักผู้โดยสารรถประจำทาง (ยกระดับความสูงศาลา) ให้แล้วเสร็จ ก่อนเทคอนกรีตทางเท้าต่อไป

แชร์ข่าว:
กรุงเทพฯ มีอะไร อัพเดทข่าวสารฉับไว กิจกรรมที่น่าสนใจ และมีส่วนร่วมได้ รวมไว้ให้ที่นี่

©2022 สงวนลิขสิทธิ์ กรุงเทพมหานคร

สำนักงานประชาสัมพันธ์ สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร 173 ถนนดินสอ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กทม. 10200