กทม.เตรียมพร้อมมาตรการดูแลความปลอดภัยงานตรุษจีนเยาวราช – จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังอัคคีภัย 37 จุด
นายศุภกฤต บุญขันธ์ ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ (สนท.) กทม. กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมมาตรการดูแลความปลอดภัยพื้นที่จัดงานเทศกาลตรุษจีนเยาวราช ประจำปี 2566 ว่า การจัดงานเทศกาลตรุษจีนเยาวราช ประจำปี 2566 ระหว่างวันที่ 22 – 23 ม.ค.66 สนท.และสำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ได้เตรียมความพร้อมจัดกำลังเจ้าหน้าที่เทศกิจบูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ เช่น สถานีตำรวจนครบาล (สน.) พลับพลาไชย 1 อปพร. อาสาสมัคร และหน่วยงานร่วมปฏิบัติอื่น ๆ ในการดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกการจราจรให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย รวมทั้งจัดระเบียบการตั้งวางแผงค้าและสิ่งของไม่ให้กีดขวางการสัญจรของประชาชน ขณะเดียวกันได้ประสานสำนักการจราจรและขนส่ง กทม.จัดรถบัสพลังงานไฟฟ้าอำนวยความสะดวกให้บริการรับ – ส่งประชาชนจากถนนเยาวราชและบริเวณข้างเคียง ตรวจสอบระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) ให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายธีรยุทธ ภูมิภักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) กทม. กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมแผนปฏิบัติการป้องกันและระงับเหตุอัคคีภัย รวมทั้งอุบัติภัยต่าง ๆ ในช่วงเทศกาลตรุษจีนว่า เทศกาลตรุษจีนเป็นเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ของประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีน ซึ่งปกติจะทำพิธีไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ โดยจุดธูปเทียน เผากระดาษเงิน กระดาษทอง และจุดประทัด หากไม่ใช้ความระมัดระวัง อาจทำให้เกิดอัคคีภัยขึ้นได้ ดังนั้น เพื่อเตรียมความพร้อมดูแลความปลอดภัยและสร้างความอบอุ่นใจให้ประชาชน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จึงได้อนุมัติแผนปฏิบัติการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในช่วงเทศกาลตรุษจีนของ กทม.ประจำปี 2566 เพื่อเป็นกรอบแนวทางให้หน่วยงานในสังกัด กทม.ที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติทั้งในช่วงก่อนเทศกาล ช่วงเทศกาล และช่วงหลังเทศกาล โดยในช่วงเทศกาลเริ่มตั้งแต่วันที่ 20 – 22 ม.ค.66 รวมทั้งได้มีประกาศ กทม. เรื่อง การป้องกันอัคคีภัยในช่วงเทศกาลตรุษจีน ประจำปี 2566 เพื่อขอความร่วมมือประชาชนในการป้องกันเหตุอัคคีภัยที่อาจเกิดจากการจุดธูปเทียน การเผากระดาษเงิน กระดาษทอง และจุดประทัด ตลอดจนขอให้ตรวจสอบระบบป้องกันอัคคีภัย สายไฟ และปลั๊กไฟให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ปิดวาล์วแก๊สและถังแก๊สให้เรียบร้อยหลังจากประกอบอาหารเสร็จแล้ว เป็นต้น
นอกจากนั้น สปภ.ยังได้จัดทำแผนปฏิบัติการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในช่วงเทศกาลตรุษจีน ประจำปี 2566 เพื่อมอบหมายให้เจ้าหน้าที่พร้อมรถดับเพลิงและกู้ภัยประจำจุดเฝ้าระวังอัคคีภัยในช่วงเทศกาลตรุษจีน จำนวน 37 จุด โดยเฉพาะบริเวณที่มีชาวไทยเชื้อสายจีนพักอาศัยหนาแน่นและมีความเสี่ยงต่อการเกิดเหตุอัคคีภัย เพื่อสร้างความอุ่นใจให้ประชาชนมากขึ้น พร้อมทั้งตรวจสอบให้คำแนะนำความปลอดภัยให้กับศาลเจ้าและชุมชนแออัดที่มีความเสี่ยงในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อสร้างความตระหนักและความร่วมมือของประชาชนในการเพิ่มความระมัดระวังและป้องกันอันตรายจากอัคคีภัย รวมถึงอุบัติภัยต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลตรุษจีน ทั้งนี้ หากประชาชนพบเหตุเพลิงไหม้ หรือเหตุสาธารณภัยอื่น ๆ สามารถแจ้งเหตุผ่านสายด่วน 199 ตลอด 24 ชั่วโมง
เขตบางรักเร่งสร้างความเข้าใจผู้ค้าถนนสีลมย้ายจุดทำการค้าไปตลาดพัฒน์พงษ์ หรือจุดผ่อนผันใกล้เคียง
นางสาวอัญชนา บุญสุยา ผู้อำนวยการเขตบางรัก กทม. กล่าวกรณีตัวแทนผู้ค้าถนนสีลมพร้อมกลุ่มผู้ค้าชุมนุมเรียกร้องความเป็นธรรม หลังจัดระเบียบแผงค้าจนไม่กีดขวางทางเท้า แต่ กทม.กลับไม่อนุญาตให้ทำการค้าว่า ถนนสีลมบริเวณแยกศาลาแดงถึงแยกนรารมย์ มีผู้ค้าประมาณ 90 ราย ทำการค้าอยู่บนทางเท้าแนวในทั้งสองฝั่ง ซึ่งเป็นที่สาธารณะและเป็นผู้ค้านอกจุดทำการค้าที่ได้รับการผ่อนผันจาก กทม. ขณะเดียวกันบริเวณดังกล่าวมีการปรับปรุงพัฒนาภูมิทัศน์ โดยปูกระเบื้องทางเท้าใหม่และสร้างคอกปลูกต้นไม้ดอกไม้เพิ่มเติม เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว ทำให้ทางเดินแคบลงจากเดิม สำนักงานเขตฯ จึงได้จัดระเบียบผู้ค้า เพื่อให้กระทบกับประชาชนน้อยที่สุด ส่วนผู้ค้าที่ตั้งวางยื่นล้ำออกมาได้ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือให้แก้ไขโดยคำนึงถึงประชาชนผู้ใช้ทางเท้าเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม คณะผู้บริหาร กทม.ได้ลงพื้นที่ตรวจความเป็นระเบียบเรียบร้อยบริเวณดังกล่าวพิจารณาว่า บริเวณถนนสีลมที่เคยทำการค้ามาก่อนและได้ยกเลิกไปเมื่อปี พ.ศ.2559 ปัจจุบันได้ปรับปรุงภูมิทัศน์ให้มีความสวยงาม จึงเห็นควรไม่ให้ทำการค้าในที่สาธารณะบริเวณถนนสีลม ซึ่งสำนักงานเขตฯ ได้ประชาสัมพันธ์แจ้งผู้ค้าอย่างต่อเนื่อง โดยขอให้เคลื่อนย้ายจุดทำการค้าไปยังตลาดพัฒน์พงษ์ ซึ่งเป็นที่เอกชน หรือในจุดที่ได้รับการผ่อนผันจาก กทม.ที่อยู่บริเวณใกล้เคียง เช่น ถนนคอนแวนต์ ถนนสีลม (ฝั่งตรงข้ามวัดแขกสีลม) รวมทั้งมีประกาศสำนักงานเขตฯ เรื่อง ห้ามปรุงอาหาร ขาย หรือจำหน่ายสินค้า และติดตั้ง ตาก วาง หรือแขวนสิ่งใด ๆ ในที่ สาธารณะ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 17 ม.ค.66 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ได้เชิญกลุ่มผู้ค้าฯ เข้าร่วมประชุมในวันที่ 13 ม.ค.66 โดยแจ้งประกาศคำสั่งและนำเสนอที่รองรับจุดทำการค้าใหม่ให้ทราบ หากผู้ใดมีความประสงค์ให้แจ้งมายังฝ่ายเทศกิจ สำนักงานเขตฯ หรือเจ้าของตลาดพัฒน์พงษ์ด้วยตนเอง โดยสำนักงานเขตฯ ได้เชิญเจ้าของตลาดพัฒน์พงษ์มาชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับการทำการค้าในพื้นที่ตลาดกับกลุ่มผู้ค้าด้วย
สำหรับแนวทางการจัดระเบียบหาบเร่แผงลอยบริเวณถนนสีลม ได้ดำเนินการตามประกาศสำนักงานเขตฯ เรื่อง ห้ามปรุงอาหาร ขาย หรือจำหน่ายสินค้าและติดตั้ง ตาก วาง หรือแขวนสิ่งใด ๆ ในที่สาธารณะ ลงวันที่ 13 ม.ค.66 โดยมอบหมายเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานตามแผนฯ ตั้งแต่เวลา 05.00 – 24.00 น. เป็นประจำทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 17 ม.ค.66 เป็นต้นมา ส่วนกรณีมีข้อสังเกตพื้นที่เอกชนที่ กทม.ประสานให้ไม่เหมาะสม นั้น เป็นการตกลงกันระหว่างเอกชนทั้งสองฝ่าย ซึ่งสำนักงานเขตฯ ได้เจรจาต่อรองขอลดราคาค่าเช่ากับเจ้าของตลาดพัฒน์พงษ์ จากแผงละ 200 บาท/วัน (ขนาด 2×2 เมตร) เหลือ 150 บาท/วัน เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้กลุ่มผู้ค้า รวมถึงช่วยเหลือผู้ค้าโดยแจ้งจุดที่สามารถรองรับกลุ่มผู้ค้าให้ทำการค้าได้ อย่างไรก็ตาม สำนักงานเขตฯ ได้ประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจกับผู้ค้าและเจ้าของอาคารให้รับทราบว่า บริเวณถนนสีลมไม่ได้เป็นจุดอนุญาตให้ทำการค้า หากฝ่าฝืนจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535
เขตลาดพร้าวแจงผู้ค้าจุดผ่อนผันในซอยโชคชัย 4 เป็นไปตามหลักเกณฑ์
นางสุภาพร ศรีศาสนวงศ์ ผู้อำนวยการเขตลาดพร้าว กทม. กล่าวกรณีสื่อออนไลน์โพสต์ภาพและข้อความระบุผู้ค้าหาบเร่แผงลอยในซอยโชคชัย 4 เขตลาดพร้าว ตั้งร้านค้าบนทางเท้า เหลือทางเดินเพียง 1-1.5 เมตร และมีการทำโครงสร้างร้านคล้ายเป็นการตั้งร้านถาวรว่า สำนักงานเขตฯ ได้ตรวจสอบพบว่า ผู้ค้าหาบเร่แผงลอยบริเวณดังกล่าวอยู่ระหว่างรอการประกาศของ กทม.ให้เป็นจุดผ่อนผัน ส่วนกรณีมีโครงสร้างคล้ายร้านถาวร นั้น เป็นแผงค้าที่ได้มาตรฐานถูกต้องตามหลักเกณฑ์
สำหรับการตั้งข้อสังเกตการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่เทศกิจเขตลาดพร้าวใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสม จากการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่เจ้าหน้าที่เทศกิจเขตลาดพร้าว ไม่พบการกระทำตามที่ได้รับการร้องเรียน อย่างไรก็ตาม สำนักงานเขตฯ ได้จัดเจ้าหน้าที่เทศกิจกวดขันผู้ค้าทั้งในและนอกจุดผ่อนผันตลอดเวลา โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ประชาชนสัญจรอย่างคับคั่ง เพื่อไม่ให้ประชาชนผู้สัญจรได้รับความเดือดร้อน นอกจากนั้น ยังได้จัดประชุมผู้ค้าที่ทำการค้าบริเวณตรงข้ามกองปราบปรามให้รับทราบถึงแนวทางหลักเกณฑ์ที่ กทม.กำหนด ก่อนที่จะส่งมอบแผงค้า โดยจุดดังกล่าวได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการจัดระเบียบหาบเร่แผงลอยระดับเขตเมื่อวันที่ 7 ธ.ค.63 และประชาชน หรือผู้มีส่วนได้เสียในพื้นที่ส่วนใหญ่เห็นด้วยแล้ว