(21 พ.ย.67) เวลา 08.00 น. รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดงาน 53 ปี แห่งการสถาปนาโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ ภายใต้แนวคิด “Wise Dedicated to Make Advance Health Experiences: ทุ่มเทอย่างชาญฉลาด เพื่อสร้างประสบการณ์สุขภาพที่เหนือชั้น” โดยมีนายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา ประธานสภากรุงเทพมหานคร พญ.วันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร ดร.พญ.เลิศลักษณ์ ลีลาเรืองแสง ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ คณะผู้บริหารสำนักการแพทย์ นพ.พรเทพ แซ่เฮ้ง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ และคณะผู้บริหารโรงพยาบาล เข้าร่วมงาน โดยประธานในพิธีให้เกียรติมอบของที่ระลึกแด่ผู้ให้การสนับสนุนการตรวจสุขภาพเชิงรุกและผู้มีอุปการคุณพร้อมมอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่ข้าราชการและบุคลากรดีเด่นของโรงพยาบาล ณ ห้องประชุมอุดมสังวรญาณ ชั้น 23 อาคาร 72 พรรษา มหาราชินี โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ เขตบางคอแหลม
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวชมเชยโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์เสมอว่า นี่คือโรงพยาบาลที่ กทม. อยากให้ประชาชนเห็นเพื่อสร้างความมั่นใจด้านการรักษาพยาบาลให้ประชาชน ถึงแม้นโยบายของ กทม. จะเน้นไปที่การรักษาพยาบาลแบบปฐมภูมิที่อยู่ใกล้ประชาชนมากกว่า เพื่อลดความแออัดของโรงพยาบาลในพื้นที่ แต่ กทม. ก็ยังเน้นในเรื่องนวัตกรรมของโรงพยาบาลต่างๆ ให้มีความ Excellent ควบคู่ไปด้วยโดยไม่ละเลย ทั้งนี้ จุดเด่นของโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ คือ เรื่องแม่และเด็ก และทำได้ดีในเรื่องของสูตินารีเวช ซึ่งเป็นการสร้างอัตลักษณ์ให้กับโรงพยาบาลด้วยหมอที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ทำให้โรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานครพัฒนาได้เทียบเท่าใกล้โรงพยาบาลเอกชน เป็นการเปิดหน้าการรักษาพยาบาลที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่มีมาตรฐานการรักษาพยาบาลเทียบเท่าโรงพยาบาลเอกชนอีกด้วย
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ได้ตรวจสุขภาพเชิงรุกให้ประชาชนไปแล้ว ประมาณ 54,000 คน คิดเป็น 13% ของการตรวจสุขภาพเชิงรุกของ กทม. 500,000 คนในขณะนี้ และมีเป้าหมายจะเร่งพัฒนาการเป็นแม่โซนที่ดูแลการรักษาพยาบาลในระดับปฐมภูมิ ด้วยการดูแลศูนย์บริการสาธารณสุข คลินิกอบอุ่น ร้านขายยา ในพื้นที่ รวมถึงสามารถ Teleconference พูดคุยกับคุณหมอที่โรงพยาบาลได้ เพื่อร่วมพัฒนาการดูแลสุขภาพให้ประชาชนด้วยระบบปฐมภูมิ ลดภาระของแพทย์ในโรงพยาบาล รวมถึงเดินหน้าการพัฒนาโรงพยาบาลให้เป็นโรงพยาบาลตติยภูมิชั้นสูง ที่มีคุณภาพเทียบเคียงกับโรงพยาบาลชั้นนำ 10 แห่งของประเทศให้ได้ เพื่อให้คนกรุงเทพฯ ได้รับการดูแลด้านสาธารณสุขและการรักษาพยาบาลด้านการแพทย์ที่ดียิ่งขึ้น
ทั้งนี้ โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร จัดงานวันสถาปนาครบรอบ 53 ปี
ชูแนวคิด ทุ่มเทอย่างชาญฉลาด เพื่อสร้างประสบการณ์สุขภาพที่เหนือชั้น ด้วยการเดินหน้าพัฒนานวัตกรรม
และเทคโนโลยีเพิ่มการยอมรับและมั่นใจกับผู้มารับบริการ โดยโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ เป็นโรงพยาบาลคุณภาพระดับตติยภูมิขั้นสูงขนาดจำนวน 481 เตียง ที่ให้บริการดูแลรักษาประชาชนมาเป็นระยะเวลานาน 53 ปี มีผู้มารับการตรวจรักษาจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดในปี พ.ศ. 2567 มีผู้ป่วยนอกจำนวน 872,460 ราย พักรักษาในแผนกผู้ป่วยในจำนวน 19,689 ราย แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่น ความไว้วางใจ และความศรัทธาของประชาชนที่มารับบริการต่อความสามารถ ความเชี่ยวชาญของบุคลากรทางการแพทย์ ตลอดจนระบบการให้บริการทางการแพทย์ที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ ทันสมัย และเชื่อถือได้ของโรงพยาบาลด้านคุณภาพและความปลอดภัยของการให้บริการ
ที่ผ่านมา โรงพยาบาลได้รับโล่รางวัลเกียรติคุณ “โรงพยาบาลต้นแบบระดับ Platinum ปีงบประมาณ 2566” จากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ได้รับโล่เกียรติคุณ “โรงพยาบาลเครือข่ายส่งเสริมสุขภาพแม่และเด็ก ปีงบประมาณ 2566” จากกรมอนามัยกระทรวงสาธารณสุข และยังได้รับรางวัล “ชนะเลิศสถานพยาบาลในดวงใจ ประจำปี 2567 กลุ่มสถานพยาบาลมีผู้ประกันตนตั้งแต่ 25,001 คน ไม่เกิน 50,000 คน” จากสำนักงานประกันสังคม นอกจากนี้โรงพยาบาลได้รับ “รางวัลคลินิกการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก คุณภาพระดับ Intermediate” “รางวัลผ่านเกณฑ์การประเมินมาตรฐานศูนย์เครื่องมือแพทย์ในสถานบริการสุขภาพภาครัฐ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ระดับพัฒนาดีเด่น” และศูนย์โรคหัวใจและหลอดเลือด ผ่านการรับรอง สู่ความเป็นเลิศ (Excellent Center) ทางการแพทย์ของสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร รวมทั้งผ่านการตรวจประเมินสุดยอดห้องน้ำแห่งปีของกรุงเทพมหานคร ประจำปี 2567 โดยการพัฒนาห้องน้ำให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตามนโยบาย ห้องน้ำ 5 G ภายใต้แนวคิด “เจริญกรุงฯ เจริญใจ ห้องน้ำ 5 G โฉมใหม่ คนปลอดโรค โลกปลอดภัย (G 1 : Green Clean ถูกสุขลักษณะและสะอาด G 2 : Green Air อากาศบริสุทธิ์ G 3 : Green Waste จัดการของเสียครบจุด G 4 : Green Energy ปักหมุดลดใช้พลังงาน และ G 5 : Green Team สื่อสารด้วยระบบทีม)” โดยได้รับ “รางวัลห้องน้ำมาตรฐานดีเด่นและรางวัลห้องน้ำขวัญใจมหาชน” ของกรุงเทพมหานคร
สำหรับในการดูแลผู้มารับบริการ โรงพยาบาลทุ่มเทพัฒนาการบริการแก่ประชาชนที่มีความหลากหลาย ให้ได้รับประสบการณ์ที่ดีกว่า มีทั้งช่องทางการลงทะเบียนเฉพาะ แยกตามกลุ่มผู้รับบริการ ช่องทางพิเศษสาหรับผู้ที่เข้าถึงเทคโนโลยี และเพิ่มช่องทางใหม่สำหรับผู้ที่มาตรงนัดให้ได้รับความสะดวกมากยิ่งขึ้น ผ่านหุ่นยนต์ดินสอ Pro 4 & AI Nose พร้อมด้วยอุปกรณ์วัดสัญญาณชีพ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีนวัตกรรม AI และหุ่นยนต์ทางการแพทย์ มาใช้ช่วยงานบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลของแผนกผู้ป่วยนอก (OPD) ณ บริเวณชั้น 1 อาคาร 72 พรรษามหาราชินี สามารถชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง ตรวจสัญญาณชีพได้ตั้งแต่เข้าประตูโรงพยาบาล แล้วตรงไปที่คลินิกนัดหมายได้ทันที ทำให้ผู้มารับบริการได้รับความสะดวก รวดเร็ว อีกทั้งยังช่วยแบ่งเบาภาระงานในโรงพยาบาล
ในส่วนของการดูแลประชาชนในเขตพื้นที่สุขภาพโซน 3 ได้เพิ่มการเชื่อมโยงการเข้าถึงศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เช่น ศูนย์เบาหวาน เพียงพิมพ์คำว่า เบาหวาน ผ่านไลน์ UMSC สามารถเข้าถึงความรู้จากคำแนะนาของทีมแพทย์และพยาบาลโดยตรงได้ และเป็นโซนนำร่องบูรณาการเชื่อมโยงประวัติการรักษาพยาบาล จากสถานพยาบาลปฐมภูมิสู่สถานพยาบาลตติยภูมิขั้นสูง ผ่านแพลตฟอร์ม Health Link พร้อมคืนข้อมูลสุขภาพให้กับประชาชน ผ่านสมุดสุขภาพในแอปหมอ กทม. ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในการยกระดับสุขภาพปฐมภูมิและเครือข่ายสาธารณสุข เพื่อตอบสนองการให้บริการด้วยบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ด้านแพทยศาสตร์ศึกษา ครอบคลุมหลักสูตรการศึกษาทั้งระดับก่อนปริญญา โดยเป็นโรงพยาบาลหลักดูแลนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 4 ถึง 6 ของสำนักวิชาแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ตั้งแต่ปีการศึกษา 2559 จนถึงปัจจุบัน และระดับหลังปริญญา เป็นสถาบันฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้าน 3 สาขา ได้แก่ สาขาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา สาขาศัลยศาสตร์ และสาขากุมารเวชศาสตร์ จบการศึกษาไปแล้ว 6-7 รุ่น ซึ่งได้รับการรับรองตามเกณฑ์แพทยศาสตร์ศึกษาพื้นฐานของสหพันธ์แพทยศาสตร์ศึกษาโลก (WFME) มีศูนย์ตรวจรักษาและผ่าตัดผ่านกล้องกรุงเทพมหานคร เป็นศูนย์ฝึกอบรมของราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย และเป็นศูนย์สาขาของ Asia Pacific Association for Gynecologic Endoscopy and Minimally Invasive Surgery (APAGE) แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค และเป็นสถานที่ฝึกอบรม ดูงานของนักเรียน และนักศึกษาอีกหลากหลายสาขาวิชาชีพอื่นๆ อีกด้วย
#สุขภาพดี