กทม. จัดซื้อตู้คอนเทนเนอร์ขยายส่วนบริการ-ลดความแออัดให้สมาชิกฟิตเนส ศูนย์กีฬาอ่อนนุช
นายสิงห์ ลิ้มพิรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว (สวท.) กทม. กล่าวกรณีมีข้อสังเกตศูนย์กีฬาอ่อนนุชนำเครื่องออกกำลังกายไปวางไว้ในตู้คอนเทนเนอร์และตู้ดังกล่าวจัดซื้อเป็นครุภัณฑ์หรือไม่ว่า การจัดซื้อตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มพื้นที่ ขยายส่วนบริการ และลดสภาวะแออัดให้กับสมาชิกที่เข้ามาใช้บริการในฟิตเนส ศูนย์กีฬาอ่อนนุช โดยปัจจุบันได้ปรับระยะพื้นที่การวางครุภัณฑ์ให้อยู่ในระยะที่เหมาะสมแล้ว สมาชิกสามารถเข้ารับบริการได้ตามปกติ
กทม. แจงโครงการกำจัดมูลฝอยที่หนองแขม-สายไหมหมดสัญญาต้องผันมูลฝอยไปเทที่ศูนย์ฯ อ่อนนุชชั่วคราว
นายประพาส เหลืองศิรินภา ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม (สสล.) กทม. กล่าวกรณีในสื่อออนไลน์เผยแพร่คลิปและข้อความระบุรถขยะ กทม. จำนวนมากรอเข้าคิวทิ้งขยะที่จุดเดียวว่า กทม. มีศูนย์กำจัดมูลฝอย 3 แห่ง แต่ละแห่งมีโครงการกำจัดมูลฝอยหลายวิธี เช่น ฝังกลบ หมักทำปุ๋ย หรือเตาเผา แต่เนื่องจากโครงการกำจัดมูลฝอยโดยวิธีฝังกลบที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยหนองแขม และศูนย์กำจัดมูลฝอยสายไหมได้สิ้นสุดสัญญาลง และโครงการใหม่ที่ต่อเนื่องกับโครงการเดิมยังอยู่ระหว่างหาตัวผู้รับจ้าง ทำให้ต้องผันมูลฝอยจากบางสำนักงานเขต จากที่เดิมเคยเข้าเทที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยหนองแขมและสายไหม ให้ไปเทที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุชแทนเป็นการชั่วคราว โดยคาดว่า จะสามารถกลับไปเทที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยหนองแขมและสายไหมได้เช่นเดิมประมาณเดือนกันยายนนี้
สำหรับแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ ขยะ กทม. มีโครงการกำจัดมูลฝอยโดยระบบเตาเผาขนาดไม่น้อยกว่า 1,000 ตัน/วัน ที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุชและศูนย์กำจัดมูลฝอยหนองแขม และโครงการกำจัดมูลฝอยโดยวิธีผสมผสาน ขนาด 300 ตัน/วัน ซึ่งขณะนี้อยูระหว่างก่อสร้าง คาดว่า จะสามารถเริ่มรับมูลฝอยเข้ากำจัดได้ประมาณปี 2569
เขตบางซื่อเร่งสำรวจความเห็นตำแหน่งป้ายรถเมล์หน้าหมู่บ้านพิบูลย์
นายเจษฎา ประภาสะวัต ผู้อำนวยการเขตบางซื่อ กทม. กล่าวกรณีประชาชนคัดค้านการย้ายป้ายหยุดรถโดยสารประจำทางและศาลาที่พักผู้โดยสารหน้าหมู่บ้านพิบูลย์ว่า สำนักงานเขตฯ ได้ร่วมประชุมพิจารณาความเหมาะสมของตำแหน่งป้ายหยุดรถโดยสารประจำทางบริเวณดังกล่าว โดยในการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณากำหนดที่หยุดรถโดยสารในเขตกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 67 มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักการจราจรและขนส่ง องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ สำนักบริหารบำรุงทาง กรมทางหลวง แขวงทางหลวงกรุงเทพ กรมทางหลวง สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร สำนักการขนส่งผู้โดยสาร กรมการขนส่งทางบก และสถานีตำรวจนครบาลประชาชื่น ซึ่งได้มีการพิจารณาทบทวนความเหมาะสมของตำแหน่งป้ายหยุดรถโดยสารประจำทางว่า ควรอยู่บริเวณก่อนถึงทางเข้า-ออกหมู่บ้านพิบูลย์ ระยะทาง 5 เมตร (หลังสะพานลอย) ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ประชาชนเคยใช้มาเป็นเวลานานแล้ว เนื่องจากตำแหน่งใหม่ที่ย้ายตามมติคณะอนุกรรมการฯ ไม่มีความเหมาะสม เพราะมีทางเท้าแคบ ความกว้างประมาณ 1 เมตร และเป็นจุดที่เปลี่ยว เกรงจะเกิดอันตรายต่อผู้ใช้บริการรถโดยสารประจำทางในช่วงค่ำและช่วงเช้าที่ไม่มีแสงสว่างเพียงพอ โดยได้มีการลงลายมือชื่อประชาชนในหมู่บ้าน จำนวน 270 คน เพื่อคัดค้านการย้ายตำแหน่งป้ายหยุดรถโดยสารประจำทาง ซึ่งเดิมตามมติที่ประชุมคณะอนุกรรมการฯ ได้พิจารณาติดตั้งในตำแหน่งอยู่ก่อนถึงสะพานลอยคนเดินข้ามถนน และมีประชาชนขอให้ย้ายมาจุดดังกล่าว เนื่องจากไม่ได้รับความสะดวกสบายในการใช้ทางเข้า-ออก
อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบให้สำรวจความคิดเห็นของประชาชน หรือทำประชามติ เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ดีที่สุดในการดำเนินการ ทั้งนี้ สำนักงานเขตฯ ได้ตรวจสอบและติดตามการแก้ไขปัญหาพบว่า ปัจจุบันยังมีการติดป้ายข้อความคัดค้านการย้ายจุด โดยขอให้อยู่จุดเดิมคือ ปากทางเข้า-ออกหมู่บ้านพิบูลย์ บางซื่อ ซึ่งสำนักงานเขตฯ อยู่ระหว่างการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาข้อสรุป หรือข้อยุติ โดยอ้างอิงหลักเกณฑ์และแนวทางการพิจารณาของสำนักการจราจรและขนส่ง กทม. เพื่อพิจารณาในขั้นตอนต่อไป
เขตหนองจอกประสานผู้รับจ้างเร่งงานก่อสร้างในซอยสกุลดี 5 คืนผิวจราจรให้ประชาชน
นายไพโรจน์ จันทรอด ผู้อำนวยการเขตหนองจอก กทม. กล่าวกรณีประชาชนร้องเรียนได้รับความเดือดร้อนจากการสัญจรในซอยสกุลดี 5 เนื่องจากถนนมีสภาพชำรุดว่า สำนักงานเขตฯ ได้ตรวจสอบพบว่า งานปรับปรุงซอยสกุลดี ๕ จากถนนสกุลดี ถึงสะพาน ค.ส.ล. ข้ามคลองบึงเตยเล็ก แขวงหนองจอก สิ้นสุดสัญญาเมื่อวันที่ 29 ก.ค. 67 โดยสำนักงานเขตฯ ได้ส่งมอบพื้นที่การก่อสร้างให้กับผู้รับจ้าง แต่เนื่องจากซอยดังกล่าวติดปัญหาอุปสรรคแนวท่อประปาของการประปานครหลวง (กปน.) ซึ่งเป็นอุปสรรคในการวางท่อระบายน้ำงานดังกล่าว แต่ขณะนี้ กปน. ได้เข้ามาดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ใช้เส้นทางภายในซอยดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันสำนักงานเขตฯ ได้ประสานผู้รับจ้างให้นำวัสดุหินคลุกมากลบหลุมบ่อ เพื่อบรรเทาปัญหาในเบื้องต้น จนกว่าการปรับปรุงซอยจะแล้วเสร็จ แต่เนื่องจากขณะนี้เป็นช่วงฤดูฝนตกชุก จึงทำให้วัสดุหลุดร่อนออกไป อย่างไรก็ตาม สำนักงานเขตฯ ได้ประสานผู้รับจ้างให้เร่งดำเนินการก่อสร้างงานให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด เพื่อคืนผิวจราจรให้กับประชาชนได้ใช้เส้นทางดังกล่าวต่อไป