เขตห้วยขวางเร่งตรวจสอบการติดป้ายโฆษณาซื้อพาสปอร์ตบริเวณแยกห้วยขวาง เชิญเจ้าของป้าย
ให้ข้อมูลภายใน 7 วัน
นายไพฑูรย์ งามมุข ผู้อำนวยการเขตห้วยขวาง กทม. กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการกับผู้ที่ลักลอบติดป้ายโฆษณาภาษาจีนขนาดใหญ่ ซึ่งมีข้อความเชิญชวนซื้อขายพาสปอร์ตและสัญชาติประเทศต่าง ๆ บริเวณสี่แยกห้วยขวางว่า สำนักงานเขตฯ ได้ดำเนินการตรวจสอบการติดตั้งป้ายโฆษณาดังกล่าวว่าได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 และตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 55 พ.ศ. 2553 หรือไม่ โดยได้มีหนังสือเชิญเจ้าของป้ายชี้แจงข้อเท็จจริงภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ หากพ้นระยะเวลาดังกล่าว สำนักงานเขตฯ จะพิจารณาตามขั้นตอนตาม พ.ร.บ. ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ จะตรวจสอบการติดตั้งป้ายโฆษณาดังกล่าว ซึ่งจากข้อเท็จจริงเป็นป้ายโฆษณาที่ติดกับอาคาร เป็นการกระทำให้ปรากฏด้วยประการใด ๆ ซึ่งข้อความ ภาพ หรือ รูปรอยใด ๆ ที่กำแพงที่ติดกับถนน บนถนน ที่ต้นไม้ หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของอาคารที่อยู่ติดกับถนน หรืออยู่ในที่สาธารณะ จึงเป็นความผิดตามมาตรา 12 ผู้ใดฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตาม ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท ตามมาตรา 56 แห่ง พ.ร.บ. รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 โดยได้มีหนังสือเชิญพบ เพื่อให้ถ้อยคำและข้อเท็จจริงต่อเจ้าหน้าที่ภายในวันที่ 30 ก.ค. 67 หากไม่มาพบเจ้าหน้าที่ สำนักงานเขตฯ จะต้องส่งเรื่องให้พนักงานอัยการ เพื่อพิจารณาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขณะเดียวกันจะตรวจสอบประเมินเรื่องการชำระภาษีป้ายตาม พ.ร.บ. ภาษีป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐ โดยเมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบได้ตรวจพบว่า ป้ายใดต้องเสียภาษีแต่ยังไม่ยื่นแบบ ภ.ป.1 ให้ออกหนังสือเตือนไปยังผู้มีหน้าที่เสียภาษีทันที โดยกำหนดให้ยื่นแบบ ภ.ป. 1 ภายใน 7 วัน นับแต่วันได้รับหนังสือเตือน ในกรณีหากผู้มีหน้าที่เสียภาษียื่นแบบ ภ.ป.1 ภายในกำหนด ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบตรวจสอบเอกสารหลักฐาน หากไม่มีเหตุขัดข้อง หรือสงสัยให้กำหนดค่าภาษีแล้วแจ้งการประเมินเป็นหนังสือ (ภ.ป.3) ไปยังผู้มีหน้าที่เสียภาษีป้าย และกรณีที่ผู้มีหน้าที่เสียภาษีไม่ยื่นแบบ ภ.ป.1 ภายในกำหนด ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เสนอผู้อำนวยการเขต เพื่อดำเนินคดีอาญาแก่ผู้มีหน้าที่เสียภาษี แล้วตรวจป้าย จัดทำแบบ ภ.ป.1 และคำนวณภาษี นับแต่วันเริ่มติดตั้ง หรือแสดงป้ายตามที่ได้ตรวจพบ หรือปรากฏจากเอกสารหลักฐาน แล้วแจ้งการประเมินภาษีตามแบบ ภ.ป.1 ไปยังผู้มีหน้าที่เสียภาษีทันที
เขตทุ่งครุแจ้งความดำเนินคดีผู้ค้าขายทุเรียนใช้อาวุธมีดขัดขวาง-ข่มขู่ทำร้ายเจ้าหน้าที่เทศกิจ
นายพงค์ศักดิ์ พูลยรัตน์ ผู้อำนวยการเขตทุ่งครุ กทม. กล่าวถึงการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีผู้ค้าใช้มีดข่มขู่เจ้าหน้าที่เทศกิจเขตทุ่งครุ หลังเข้าตักเตือนห้ามจอดรถขายของริมถนนว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 67 เวลาประมาณ 10.30 น. นายสุชาติ ดีศาลา พนักงานเทศกิจปฏิบัติงาน ผู้ช่วยหัวหน้าชุดสายตรวจเทศกิจ 253 พร้อมเจ้าหน้าที่เทศกิจ ได้ออกตรวจเรื่องร้องเรียนบริเวณปากซอยประชาอุทิศ 129 พบผู้ค้าขายทุเรียนบนถนนสาธารณะอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 มาตรา 20 (3) จึงได้ตักเตือน พร้อมทั้งให้เคลื่อนย้ายสิ่งของออกจากที่สาธารณะอันเป็นความผิดดังกล่าว แต่ผู้ค้าฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามและไม่เคลื่อนย้าย หัวหน้าชุดสายตรวจเทศกิจ 253 และพนักงานเทศกิจปฏิบัติงาน จึงได้รายงานต่อผู้บังคับบัญชา ต่อมาในเวลาประมาณ 11.30 น. หัวหน้างานตรวจและเจ้าหน้าที่เทศกิจ ได้ร่วมกันตรวจสอบพื้นที่บริเวณปากซอยประชาอุทิศ 129 พบผู้ค้ารายดังกล่าวยังทำการค้าบริเวณเดิม จึงได้ประชาสัมพันธ์ตามขั้นตอนของกฎหมายให้จัดเก็บและเคลื่อนย้ายสิ่งที่เป็นความผิด แต่ผู้ค้าได้จับอาวุธมีดปอกทุเรียน ขนาด 12 นิ้ว ขัดขวางไม่ให้ปฏิบัติหน้าที่ โดยขู่จะใช้กำลังประทุษร้าย เจ้าหน้าที่เทศกิจได้พูดเกลี้ยกล่อมให้ผู้ค้าสงบสติอารมณ์ วางอาวุธมีด และเชิญตัวผู้ค้าไปพูดคุยกันที่ฝ่ายเทศกิจ สำนักงานเขตฯ
ทั้งนี้ หัวหน้าฝ่ายเทศกิจ ได้รายงานเหตุการณ์ด้วยวาจาให้ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นทราบถึงพฤติการณ์ของผู้ค้าที่ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย เป็นความผิดต่อเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญาและเป็นความผิดต่อแผ่นดิน ซึ่งผู้บังคับบัญชาเห็นชอบให้ร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวนท้องที่เกิดเหตุ และพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลทุ่งครุได้บันทึกถ้อยคำและรับแจ้งความคดีอาญาฐานความผิดขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่แล้ว
เขตบางซื่อแจงหมดสัญญาการใช้พื้นที่ข้างสถานีรถไฟฟ้า MRT วงศ์สว่าง
นายเจษฎา ประภาสะวัต ผู้อำนวยการเขตบางซื่อ กทม. กล่าวกรณีสื่อออนไลน์โพสต์ภาพสวน 15 นาทีบริเวณสถานีรถไฟฟ้าวงศ์สว่าง มีหญ้าขึ้นรกเต็มพื้นที่ว่า สำนักงานเขตฯ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งอยู่บริเวณตรงข้ามห้างบิ๊กซี สาขาวงศ์สว่าง ติดกับสถานีรถไฟฟ้า MRT สถานีวงศ์สว่าง เนื้อที่ 836.3 ตารางวา พบว่า เป็นที่ดินของห้างหุ้นส่วนจำกัด ธ.ธนารัฐ 1971 โดยมอบให้ กทม. ปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่รกร้างตั้งแต่ปี 2562 และได้พัฒนาเป็นสวน 15 นาที ตามนโยบายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์) ในปี 2565 และสิ้นสุดสัญญาการใช้พื้นที่เมื่อเดือน เม.ย. 66 โดยปัจจุบันสำนักงานเขตฯ ไม่มีสิทธิเข้าดำเนินกิจกรรมใด ๆ ในพื้นที่ดังกล่าว