กทม. เร่งผลักดันน้ำที่ผ่านการบำบัดลงคลองช่องนนทรี เจือจางน้ำในคลอง ลดกลิ่นรบกวน
 
นายสุราษฎร์ เจริญชัยสกุล ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ (สนน.) กทม. กล่าวกรณีมีข้อวิจารณ์ปัญหาน้ำเน่าเสียในคลองช่องนนทรีและคลองอื่น ๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า เนื่องจากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล กทม. จึงจำเป็นต้องลดระดับน้ำตามคลองสายหลักต่าง ๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ ให้อยู่ในระดับต่ำ รวมถึงคลองคลองช่องนนทรีด้วยเช่นกัน เพื่อใช้รองรับน้ำฝนและเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาน้ำท่วมบริเวณพื้นที่ดังกล่าวและพื้นที่ใกล้เคียง อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาสถานการณ์ฝนและการพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาในการประกาศแจ้งเตือนกรุงเทพฯ และปริมณฑลไม่พบว่า เป็นจังหวัดที่คาดว่า จะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ดังนั้น ในระยะเร่งด่วน กทม. จึงได้เร่งไหลเวียนน้ำในคลองช่องนนทรีโดยผันน้ำจากคลองสาทรเข้าสู่คลองช่องนนทรีและระบายไหลออกไปยังคลองหัวลำโพงเก่า อีกส่วนหนึ่งระบายน้ำจากคลองสาทรไหลเข้าสู่คลองช่องนนทรีแล้วระบายออกลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อให้น้ำมีคุณภาพดีขึ้นและลดการส่งกลิ่นรบกวน ขณะเดียวกันได้จัดเก็บขยะ วัชพืช ซากกิ่งไม้และใบไม้ในคลองช่องนนทรี เพื่อลดการสะสมของตะกอน ส่วนมาตรการระยะยาว กทม. มุ่งใช้มาตรการก่อสร้าง เพื่อแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำและกลิ่นรบกวน อาทิ การผลักดันน้ำที่ผ่านการบำบัดแล้วจากโรงควบคุมคุณภาพน้ำช่องนนทรี ปล่อยลงสู่คลองช่องนนทรี เพื่อช่วยเพิ่มปริมาณน้ำในการไหลเวียนและช่วยเจือจางน้ำในคลองช่องนนทรี คาดว่า จะเริ่มดำเนินการได้ภายในเดือน ต.ค. 67 

นอกจากนั้น ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรื้อถอนเศษวัสดุในงานก่อสร้างสวนสาธารณะช่องนนทรีที่กีดขวางทางน้ำ เพื่อเตรียมความพร้อมจัดทำแผนขุดลอกตะกอนในคลองช่องนนทรี ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพระบบรวบรวมน้ำเสียโดยส่งน้ำเสียไปเข้าระบบบำบัดยังโรงควบคุมคุณภาพน้ำช่องนนทรีร่วมกับงานยกระดับฝาบ่อพักน้ำเสียบนถนน ตั้งแต่ถนนสุรวงศ์ถึงถนนสาทรที่ถูกปิดทับบนผิวถนน เพื่อให้สามารถเข้าบำรุงรักษาได้ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเสียเอ่อล้นและไหลลงสู่คลอง ซึ่งแผนดำเนินการดังกล่าวได้ขอจัดสรรงบประมาณประจำปี 2568 เรียบร้อยแล้ว

นายธวัชชัย นภาศักดิ์ศรี ผู้อำนวยการสำนักการโยธา (สนย.) กทม. กล่าวว่า สำหรับโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์คลองช่องนนทรี ช่วงที่ 2 ปัจจุบันอยู่ระหว่างค้ำประกันผลงานของผู้รับจ้าง สนย. ได้เร่งรัดผู้รับจ้างดำเนินการแก้ไขปรับปรุงภูมิทัศน์ให้สามารถใช้สอยได้ตามวัตถุประสงค์ของโครงการ ส่วนความคืบหน้าโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์คลองช่องนนทรี ช่วงที่ 3 จากซอยนราธิวาสราชนครินทร์ 7 ถึงถนนจันทน์ ได้ปรับแบบ โดยไม่ให้กระทบกับต้นพิกุลเดิม รวมถึงไม่ให้ก่อสร้างโครงสร้างเสาเข็มแนวทางเดินลงไปในคลอง เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับการระบายน้ำ คาดว่า จะเริ่มงานก่อสร้างในเดือน ส.ค. 67 โดยใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 300 วัน

กทม. บูรณาการแก้ปัญหาคนเร่ร่อนใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า จัดจุด Drop In ให้บริการที่จำเป็น
 
 นายแสนยากร อุ่นมีศรี ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาสังคม (สพส.) กทม. กล่าวถึงการประสานความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบและเร่งรัดแก้ไขปัญหาคนเร่ร่อนบริเวณใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าและพื้นที่อื่น ๆ ว่า สพส. มีมาตรการจัดระเบียบคนเร่ร่อนและผู้ทำการขอทานในพื้นที่สาธารณะ โดยบูรณาการความร่วมมือสำนักงานเขตในพื้นที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง อาทิ การจัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่จัดระเบียบคนเร่ร่อนไร้บ้านบริเวณใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ทั้งฝั่งพระนคร ฝั่งธนบุรี บริเวณถนนราชดำเนิน และบริเวณโดยรอบพื้นที่สนามหลวง การสำรวจ คัดกรอง จัดทำประวัติและฐานข้อมูลให้คำปรึกษาแนะนำ และการสร้างความเข้าใจกับผู้ที่มาพักอาศัยหลับนอนในพื้นที่สาธารณะ ขณะเดียวกันได้จัดบริการเพื่อช่วยเหลือกลุ่มคนเร่ร่อนไร้บ้าน โดยจัดจุดบริการสวัสดิการสังคมสำหรับคนไร้บ้าน (Drop In) 2 แห่ง ได้แก่ บริเวณใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า บริเวณฝั่งพระนคร และบริเวณตรอกสาเกในทุกวัน เพื่อจัดบริการที่จำเป็นสำหรับคนไร้บ้าน อาทิ บริการให้คำปรึกษาแนะนำสิทธิและสวัสดิการต่าง ๆ บริการจุดแจกอาหารที่ตรอกสาเก บริการรถซัก อบ อาบ จากมูลนิธิกระจกเงา บริการตรวจสุขภาพจากสำนักอนามัย (ทุกวันศุกร์) บริการรถทำบัตรประชาชนเคลื่อนที่ บริการตัดผม บริการรถสุขาเคลื่อนที่ บริการจัดหางานโดยประสานหน่วยงาน เพื่อรับคนไร้บ้านที่ต้องการมีงานทำ หรือฝึกอาชีพให้กลับเข้าสู่ระบบการทำงาน เพื่อส่งเสริมและพัฒนาให้คนไร้บ้านสามารถดูแลตนเองและไม่เป็นภาระต่อสังคม รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่จัดเก็บข้อมูลคนไร้บ้าน เพื่อนำไปเป็นฐานข้อมูลคนไร้บ้านของ กทม. ในการวางแผนให้ความช่วยเหลือต่อไป 
     
นอกจากนั้น สพส. ได้ขอความร่วมมือสำนักงานเขต 50 เขต สำรวจคนขอทานในพื้นที่ ตามบทบาทและอำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ควบคุมการขอทาน พ.ศ. 2559 และตาม พ.ร.บ. รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 กรณีสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่สัญจรไปมา หรือสร้างความไม่สะอาดในพื้นที่ รวมถึงการพักอาศัยหลับนอนในพื้นที่สาธารณะ และรายงานผลมายัง สพส. เพื่อวางแนวทาง รวมถึงมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไป

เขตห้วยขวางเร่งตรวจสอบการติดตั้งป้ายโฆษณาซื้อพาสปอร์ตแยกห้วยขวาง

นายไพฑูรย์ งามมุข ผู้อำนวยการเขตห้วยขวาง กทม. กล่าวกรณีในสื่อออนไลน์เผยแพร่ภาพป้ายโฆษณาภาษาจีนเชิญชวนให้ซื้อพาสปอร์ตย้ายประเทศบริเวณแยกห้วยขวาง ถนนรัชดาภิเษกว่า สำนักงานเขตฯ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบป้ายโฆษณาข้างอาคารเอกชนบริเวณแยกห้วยขวาง พบว่า ป้ายดังกล่าวติดตั้งเมื่อวันที่ 20 ก.ค. 67 จึงได้แจ้งเอกชนให้ปลดออก เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 67 ซึ่งสำนักงานเขตฯ จะได้ดำเนินการตรวจสอบการติดตั้งป้ายโฆษณาดังกล่าวว่า ได้รับอนุญาตตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 55 (พ.ศ. 2553) ออกตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 หรือไม่ หากไม่ได้ยื่นขออนุญาต จะมีความผิดตามมาตรา 66 ต้องระวางโทษจำคุกหากมีการฝ่าฝืนจะดำเนินคดีต่อไป ขณะเดียวกันได้ตรวจสอบข้อความบนป้าย ตามกฎหมาย พ.ร.บ. รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 มาตรา 10 และมาตรา 11 ต้องแสดงข้อความและภาพที่ไม่ขัดต่อความเรียบร้อยของบ้านเมืองและศีลธรรม

นอกจากนั้น สำนักงานเขตฯ ได้ส่งให้ผู้เชี่ยวชาญภาษาจีนแปลข้อความบนป้ายโฆษณาดังกล่าว หากพบว่า เป็นข้อความที่ผิดศีลธรรมจะดำเนินคดีตามกฎหมาย หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท รวมทั้งจะตรวจสอบเรื่องประเมินการชำระภาษีป้าย ทั้งนี้ สำนักงานเขตฯ ได้ประสานสถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง เชิญผู้ติดตั้งป้ายลงพื้นที่สอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อประกอบการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เขตบางขุนเทียนเร่งตรวจสอบการแพร่กระจาย-ส่งเสริมการแปรรูปปลาหมอคางดำ

นางภัสรา นทีทอง ผู้อำนวยการเขตบางขุนเทียน กทม. กล่าวถึงความคืบหน้าการแพร่กระจายของปลาหมอคางดำในพื้นที่ว่า สำนักงานเขตฯ ได้ให้ความรู้และคำแนะนำการป้องกันการแพร่กระจายของปลาหมอคางดำเข้ามาในบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำ โดยเตรียมบ่อตากบ่อให้แห้งสนิท กรองน้ำด้วยถุงกรอง หรือใช้คลอรีน เพื่อทำลายไข่ของปลาและลูกปลา ใช้กากชา เพื่อกำจัดในบ่อพักก่อนการเลี้ยงสัตว์น้ำ รวมถึงประสานสำนักงานประมงพื้นที่ร่วมติดตามสถานการณ์ หาแนวทาง และวิธีการกำจัดปลาหมอคางดำ ประสานสำนักงานประมงพื้นที่กรุงเทพมหานคร ร่วมตรวจสอบพื้นที่การเกษตรด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ได้รับความเสียหายจากการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ เพื่อนำข้อมูลไปประกอบการประกาศเขตภัยพิบัติ เพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือเยียวยาตามระเบียบกระทรวง การคลังต่อไป ขณะเดียวกันสำนักงานเขตฯ ได้ศึกษาแนวทางการใช้ประโยชน์จากปลาหมอคางดำในการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อาหาร อบรมให้ความรู้การแปรรูปปลาหมอคางดำเป็นผลิตภัณฑ์อาหารให้แก่กลุ่มเกษตรกรและผู้สนใจ ส่งเสริมและสนับสนุนให้นำปลาหมอคางดำมาทำเป็นอาหารให้กับนักเรียนในโรงเรียนพื้นที่เขตบางขุนเทียน รวมถึงจัดงาน หรือกิจกรรมส่งเสริมและเผยแพร่การใช้ประโยชน์จากปลาหมอคางดำ ตลอดจนสำรวจตลาดรองรับปลาหมอคางดำสด หรือผลิตภัณฑ์แปรรูป

นอกจากนั้น ได้ร่วมกับสำนักงานประมงพื้นที่กรุงเทพมหานครและกลุ่มวิจัยความหลากหลายทางชีวภาพสัตว์น้ำจืด กองวิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด ลงพื้นที่ตรวจสอบการแพร่กระจายและปริมาณของปลาหมอคางดำบริเวณแหล่งน้ำสาธารณะ พร้อมประชุมรับฟังความคิดเห็นแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำในพื้นที่แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน รวมทั้งให้บริการแก่เกษตรกรและส่งเสริมให้เกษตรกรจับปลาหมอคางดำมาใช้ประโยชน์ และร่วมโครงการเปิดปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการระบาดของปลาหมอคางดำที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศในแหล่งน้ำธรรมชาติ โดยปล่อยปลากะพงขาวลงสู่แหล่งน้ำบริเวณหน้าวัดประชาบำรุง แขวงท่าข้าม จำนวน 10,000 ตัว อีกทั้งยังได้ร่วมกับกองอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจัดการอบรมให้ความรู้โครงการเสริมสร้างการรับรู้และแนวทางการใช้ประโยชน์จากชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่รุกราน (invasive alien species) : ปลาหมอคางดำ ให้กับนักเรียนโรงเรียนคลองพิทยาลงกรณ์และเกษตรกร

เขตภาษีเจริญรุดตรวจสอบแก้ไขปัญหาเพื่อนบ้านสร้างความเดือดร้อนรำคาญ   
 
นางเยาวะสกุล ทองธัญวีรัตน์ ผู้อำนวยการเขตภาษีเจริญ กทม. กล่าวกรณีประชาชนร้องเรียนเพื่อนบ้านมีพฤติกรรมสร้างความเดือดร้อนรำคาญว่า สำนักงานเขตฯ ได้รับเรื่องผ่านระบบ Traffy Fonde ร้องเรียนบ้านเลขที่ 19/89 หมู่บ้านธารทอง ซอยบางแวก 26 แยก 7 สร้างความเดือดร้อนรำคาญ อาทิ ขัดพื้นถนนหน้าบ้าน ส่งเสียงด่าทอ สาดน้ำ ฯลฯ จากการได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพบผู้ถูกร้องและสามี จึงได้ขอความร่วมมือไม่ให้ฉีดน้ำล้างถนนหน้าบ้านสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับผู้พักอาศัยบริเวณดังกล่าว ซึ่งสามีของผู้ถูกร้องแจ้งว่า จะพยายามตักเตือนภรรยาตน แต่เมื่อเวลาผ่านไปพบว่า ยังมีการกระทำฝ่าฝืนสร้างความเดือดร้อนรำคาญอีก สำนักงานเขตฯ จึงได้ประสานสถานีตำรวจนครบาล (สน.) บางเสาธง เพื่อแก้ไขเหตุเดือดร้อนรำคาญและช่วยเจรจาไกล่เกลี่ย เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจกับเจ้าหน้าที่เทศกิจลงพื้นที่ตรวจสอบอีกครั้ง ปรากฏว่า ผู้ถูกร้องปิดบ้านและไม่ออกมาพบเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตาม สำนักงานเขตฯ ได้ประชาสัมพันธ์กับผู้ที่พักอาศัยบริเวณดังกล่าว หากพบว่า ยังมีการกระทำฝ่าฝืน หรือสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้ไปร้องทุกข์กล่าวโทษได้ที่ สน. บางเสาธง 

        ทั้งนี้ ได้มีประชาชนไปร้องทุกข์กล่าวโทษที่ สน. บางเสาธง กรณีได้รับความเดือดร้อนรำคาญจากบ้านเลขที่หลังดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายเรียกให้เจ้าของบ้านผู้ถูกร้องมาพบ เพื่อรับฟังข้อกล่าวหา แต่ผู้ถูกร้องได้โทรศัพท์มาขอเลื่อนนัด และขอนัดหมายในวันที่ 14 ส.ค. 67 นอกจากนี้ ยังได้มีการร้องเรียนเพิ่มเติมกรณีจุดธูปทำให้เกิดควัน สำนักงานเขตฯ โดยฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและมีหนังสือแนะนำให้ลดการจุดธูป จากการติดตามและสอบถามผู้ที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียงแจ้งว่า มีการจุดธูปลดลง ไม่ได้จุดทุกวัน และเปลี่ยนที่จุดธูป ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำหนังสือขอความร่วมมือให้ลดการจุดธูป พร้อมแจ้งข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้รับทราบ และปิดประกาศข้อปฏิบัติ เรื่อง สุขลักษณะในที่สาธารณะไว้บริเวณหน้าบ้านผู้ถูกร้อง เมื่อเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า เจ้าของบ้านผู้ถูกร้องจะปิดบ้านและไม่ออกมาพบเจ้าหน้าที่ทุกครั้ง 

ส่วนกรณีร้องเรียนการให้อาหารนก สำนักงานเขตฯ ได้รับเรื่องร้องเรียนผ่านระบบ Traffy Fonde เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 67 ว่า มีการนำเศษอาหารมาทิ้งหน้าบ้านส่งผลให้นกพิราบมากิน สำนักงานเขตฯ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ เพื่อแนะนำไม่ให้เททิ้งเศษอาหารจนเป็นแหล่งรวมนกพิราบและพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 ร่วมกับ พ.ร.บ. รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 ทั้งนี้ สำนักงานเขตฯ จะได้ตรวจสอบและติดตามผลต่อไป