กทม. เตรียมพร้อมช่วยเหลือประชาชนประสบเหตุสาธารณภัยจากพายุฝนฟ้าคะนอง-ลมกระโชกแรง
นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) กทม. กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชน หากประสบเหตุสาธารณภัยที่เกิดขึ้นจากพายุฝนฟ้าคะนองว่า สปภ. ได้เตรียมความพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัย ยานพาหนะ เครื่องมือเครื่องใช้และอุปกรณ์ เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยจากสถานการณ์ฝนจากอิทธิพลของร่องมรสุมที่อาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่กรุงเทพฯ ขณะเดียวกันได้บูรณาการความร่วมมือกับสำนักการระบายน้ำ สำนักงานเขต กองโรงงานช่างกล สำนักการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนในการเดินทางเมื่อเกิดฝนตกหนัก โดยเฉพาะในเส้นทาง หรือพื้นที่ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมขังกรณีเกิดเหตุอุทกภัยขึ้นในเขตพื้นที่ และส่งผลผลกระทบต่อสาธารณชน ก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต และร่างกายของประชาชน หรือก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินของประชาชน หรือของรัฐ อันเป็นสาธารณภัยตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 ผู้อำนวยการเขตในฐานะผู้ช่วยผู้อำนวยการกรุงเทพมหานครดำเนินการตามมาตรา 37 ประกอบกับมาตรา 30 แห่ง พ.ร.บ. ดังกล่าว สำรวจความเสียหายต่าง ๆ พร้อมทั้งจัดทำบัญชีรายชื่อผู้ประสบภัยและทรัพย์สินที่เสียหาย และออกหนังสือรับรองให้ผู้ประสบภัยไว้เป็นหลักฐาน เพื่อขอรับการสงเคราะห์และฟื้นฟูจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องต่อไป
นอกจากนั้น ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา หรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่มั่นคงแข็งแรง ตลอดจนเพิ่มความระมัดระวังการใช้รถใช้ถนนขณะเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุและเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง ทั้งนี้ ประชาชนที่ประสบเหตุสาธารณภัย ซึ่งเกิดขึ้นจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง สามารถแจ้งเหตุทางโทรศัพท์สายด่วน 199 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
นายธวัชชัย นภาศักดิ์ศรี ผู้อำนวยการสำนักการโยธา (สนย.) กทม. กล่าวว่า สนย. ได้เตรียมความพร้อมรับมือเหตุต้นไม้หักโค่น ป้ายโฆษณาล้มจากพายุฝนลมแรง กีดขวางถนนและการจราจร หรือกระทบต่อบ้านเรือนทรัพย์สินของประชาชน ขณะเดียวกันได้เตรียมพร้อมบุคลากร เครื่องมือ และเครื่องจักรเข้าดำเนินการช่วยเหลือ สนับสนุน และรื้อถอนป้ายโฆษณาล้ม ต้นไม้ที่หักโค่นกีดขวางเส้นทางจราจร โดยศูนย์เครื่องมือกล สำนักงานก่อสร้างและบูรณะ
กทม. ตั้งกรรมการสอบกรณีครู-ลูกศิษย์มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เพิ่มมาตรการป้องกันคุกคามทางเพศในเด็กนักเรียน
นางภัสรา นทีทอง ผู้อำนวยการเขตบางขุนเทียน กทม. กล่าวกรณีมีข้อวิจารณ์ครูสอนดนตรีและลูกศิษย์อายุ 15 ปี ในโรงเรียนสังกัด กทม. เขตบางขุนเทียน มีความสัมพันธ์คบหาแสดงความรักผ่านสื่อโซเชียล ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมว่า สำนักงานเขตฯ ร่วมกับสำนักการศึกษา (สนศ.) ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นและรับฟังข้อมูลจากผู้บริหารโรงเรียนวัดหัวกระบือ ผู้ปกครอง นักเรียน และครูผู้ถูกกล่าวหา จากผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเบื้องต้น ทั้งครูและนักเรียนได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาตามที่เป็นข่าวและภาพที่ปรากฏไม่ได้เป็นภาพของตน อย่างไรก็ตาม สำนักงานเขตฯ ได้แจ้งให้โรงเรียนวัดหัวกระบือแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงต่อไป
นายธนกร ไชยศรี ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา (สนศ.) กทม. กล่าวว่า สนศ. ได้เพิ่มมาตรการกำกับดูแลครูและบุคลากรทางการศึกษาของโรงเรียนสังกัด กทม. ในการปฏิบัติตนให้เหมาะสมกับจริยธรรมอันดี โดยได้กำชับและวางมาตรการป้องกันการคุกคามทางเพศเด็กนักเรียน ตามหนังสือ กทม. เรื่อง มาตรการป้องกันการคุกคามทางเพศเด็กนักเรียนโรงเรียนในสังกัด กทม. ดังนี้ (1) ตรวจสอบกล้องโทรทัศน์วงจรปิดในสถานศึกษาให้ใช้งานได้ตลอดเวลาและให้มีผู้ควบคุม รวมถึงตรวจสอบภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด หากมีเหตุการณ์ไม่ปกติให้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบทันที (2) ให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา กทม. ใช้ระบบสื่อสารทางสื่อออนไลน์ต่าง ๆ อาทิ Line Facebook Instagram X (Twitter) เป็นต้น กับนักเรียนในเรื่องการเรียนการสอน/กิจกรรมของโรงเรียนเท่านั้น ห้ามใช้สื่อออนไลน์ในลักษณะการคุกคามทางเพศ ชู้สาว อนาจาร หรือล่วงละเมิดทางเพศนักเรียนโดยเด็ดขาด (3) ให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาปฏิบัติตามกฎ ก.ก. ว่าด้วยประมวลจริยธรรมสำหรับข้าราชการกรุงเทพมหานครและบุคลากรกรุงเทพมหานคร และผู้ปฏิบัติงานอื่นใน กทม. พ.ศ. 2564 โดยคำนึงถึงสิทธิของเด็กอย่างเคร่งครัด (4) หากเกิดเหตุคุกคามทางเพศ ชู้สาว อนาจาร และการล่วงละเมิดทางเพศอันเกิดจากการกระทำของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้ผู้อำนวยการสถานศึกษารายงานด้วยวาจาให้ผู้อำนวยการเขตรับทราบทันทีที่ทราบเรื่องและให้รายงานเป็นหนังสือภายใน 3 วัน นับถัดจากวันที่รับทราบเหตุการณ์ดังกล่าว กรณีมีพยานหลักฐาน หรือเชื่อได้ว่า มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น ให้ผู้อำนวยการเขตดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องทันที (5) ให้ผู้อำนวยการสถานศึกษาควบคุม กวดขัน สอดส่อง ดูแลพฤติกรรมและการใช้สื่อสังคมระหว่างข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากับเด็กนักเรียนโดยใกล้ชิด
ส่วนการดำเนินการทางวินัย หากตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วปรากฏว่า กรณีดังกล่าวมีมูลที่ควรกล่าวหาว่า กระทำผิดวินัยให้ผู้บังคับบัญชาดำเนินการทางวินัยอย่างไม่ร้ายแรง หรืออย่างร้ายแรงแล้วแต่กรณี ตามกฎ ก.ก. ว่าด้วยการดำเนินการทางวินัย พ.ศ. 2565 และลงโทษผู้กระทำผิดวินัยตามแนวทางพิจารณาโทษและการพัฒนาวินัยข้าราชการกรุงเทพมหานครต่อไป
เขตคลองสามวากวดขันลักลอบเปิดบ่อขยะเถื่อน-เฝ้าระวังรถบรรทุกเอกชนขนขยะมาทิ้งในพื้นที่
นายสมหวัง ชัยประกายวรรณ์ ผู้อำนวยการเขตคลองสามวา กทม. กล่าวถึงการเพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบการแปลงสภาพที่ดินเป็นที่ทิ้งขยะโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เข้าตรวจค้นบ่อขยะเถื่อนในพื้นที่เขตคลองสามวาว่า สำนักงานเขตฯ ได้จัดเจ้าหน้าที่เทศกิจตรวจสอบลักษณะพื้นที่สองจุดดังกล่าวพบว่า เป็นพื้นที่ปิด มีรั้วรอบขอบชิด และได้ปรับเป็นพินัยกรณีกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 ขณะเดียวกันได้จัดเจ้าหน้าที่เทศกิจเพิ่มความถี่ลงพื้นที่ตรวจสอบ กวดขัน และเฝ้าระวังการกระทำผิดดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งตรวจตราเฝ้าระวังรถบรรทุกของเอกชนที่ขนขยะมาทิ้งในพื้นที่เอกชน ทั้งในช่วงเวลากลางวันและกลางคืน ตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับพื้นที่เอกชนอื่น ๆ ที่ปล่อยปละละเลยทิ้งพื้นที่รกร้าง สำนักงานเขตฯ ได้ประสานเจ้าของที่ดินให้แก้ไขปรับปรุงที่ดิน เพื่อให้พื้นที่เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย โดยออกคำสั่งให้เจ้าของปรับปรุงแก้ไขที่ดิน จำนวน 7 ราย และแจ้งเจ้าของที่ดินให้ปฏิบัติตามประกาศ กทม. เรื่อง มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟไหม้หญ้าบริเวณพื้นที่รกร้างเปล่าในกรุงเทพฯ จำนวน 3 ราย ขณะเดียวกันสำนักงานเขตฯ ได้เพิ่มความเข้มงวด กวดขัน และบังคับใช้กฎมายที่เกี่ยวข้องทั้งความผิดที่มีโทษทางอาญาและความผิดที่จะต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565 อย่างเคร่งครัด รวมทั้งตรวจตราพื้นที่ที่ไม่ได้รับอนุญาตดำเนินการถมดิน ตาม พ.ร.บ. การขุดดินและถมดินฯ พร้อมสร้างความเข้าใจแก่ประชาชนกรณีแจ้งการถมดินต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น ตลอดจนรณรงค์ประชาสัมพันธ์ปิดป้ายประกาศบริเวณท้ายซอยหทัยราษฎร์ 39 ถนนไทยรามัญ ซอยราษฎร์นิมิต 2 ซอยนิมิตใหม่ 10 ถนนแบนชะโด เป็นต้น เพื่อสร้างความเข้าใจและจิตสำนึกในการทิ้งขยะให้ถูกที่ เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง