เตรียมเสกน้ำพระพุทธมนต์ พระราชพิธีมหามงคล6รอบ ราชเลขาฯติดตามบ่อบาดาล เนื่องในพระราชดำริร้อยเอ็ด
พร้อมกันทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ พิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์รวม 107 แห่ง งานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ทุกจังหวัดใส่ขันสาครโดยผู้ว่าฯ เชิญไปยังพระอารามหลวง เพื่อประกอบพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ในวันอาทิตย์ที่ 7 ก.ค.นี้ ราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ลงพื้นที่ตรวจติดตามความคืบหน้าโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้ง อันเนื่องมาจากพระราชดำริพื้นที่บ้านโคกล่าม หมู่ที่ 2 ตำบลโคกล่าม อ.จตุรพักตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด
นายกฯติดตามงานพัฒนาคูคลอง
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 4 ก.ค. ที่บริเวณสะพาน 6 คลองคูเมืองเดิม หลังกระทรวงกลาโหม ถนนสนามไชย เขตพระนคร กรุงเทพฯ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่ติดตามโครงการพัฒนาคู คลอง ในเกาะรัตนโกสินทร์ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมีนายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย นางวันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าร่วม
เมื่อมาถึงนายกรัฐมนตรีรับฟังบรรยายสรุปโครงการพัฒนาคูคลอง ในเกาะรัตนโกสินทร์ และการปรับภูมิทัศน์ จากผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ปลัดกรุงเทพมหานคร และปลัดกระทรวงกลาโหม ที่บรรยายประวัติความเป็นมาของคลองที่อยู่ภายใต้แผนการพัฒนาคูคลองเมืองเดิม ริมคลองหลอดวัดราชบพิธและริมคลองหลอดวัดราชนัดดา พร้อมการปรับปรุงคลองสาขา โดยกลาโหมร่วมกับภาคีเครือข่าย
นายชัชชาติกล่าวยืนยันว่า ขณะนี้การพัฒนาด้านคูคลองและพื้นที่โดยรอบมีความคืบหน้าเป็นอย่างดีและกรุงเทพมหานครจะทำทางเดินเท้าจากจุดเชื่อมต่อไปถึงมีนบุรี เมื่อแล้วเสร็จจะสามารถให้บริการประชาชนและเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี ขณะที่นายกฯ ได้ขอบคุณทางกรุงเทพมหานครและกลาโหม ที่เป็นหน่วยหลักในการดำเนินการ
เยี่ยมชมสาธิตเครื่องบำบัดน้ำเสีย
จากนั้น นายกรัฐมนตรีตรวจเยี่ยมการพัฒนาคลองคูเมืองเดิม และขึ้นรถรางจากบริเวณสะพาน 6 หลังกระทรวงกลาโหมไปยังบริเวณสะพาน 6 หลังสวนสราญรมย์ เพื่อเยี่ยมชมการสาธิตการทำงานของเครื่องบำบัดน้ำเสียและบีบอัดตะกอนเลน โดยรับฟังบรรยายและเยี่ยมชมการสาธิตการทำงานของเครื่องบำบัดน้ำเสียและบีบอัดตะกอนเลน จากนางปนัดดา รักษาแก้ว ผู้บริหารบริษัท UCI โดยการบีบอัดตะกอนแทนการขุดลอกคูคลองแบบเก่า ซึ่งประโยชน์ที่จะนำไปใช้ นอกจากการทำให้น้ำสะอาดแล้ว ยังเป็นการลดค่าใช้จ่ายประหยัดเวลาเพิ่มอัตรา การระบายน้ำในคูคลองให้สะอาดมากยิ่งขึ้น และแยกวัสดุที่นำไปใช้ประโยชน์ได้เช่นดินและทราย
จากนั้น เวลา 09.20 น. นายกรัฐมนตรีเดินจากสะพาน 6 หลังสวนสราญรมย์ ไปยังบริเวณคลองหลอดวัดราชบพิธ ร่วมกิจกรรมพัฒนาพื้นที่กรุงเทพมหานคร บริเวณริมคลองหลอดวัดราชบพิธ ร่วมกิจกรรมทาสี บริเวณสะพาน 6 หลังสวนสราญรมย์ ก่อนเดินทางกลับนายกรัฐมนตรียังได้สั่งการปลัดกรุงเทพมหานคร ถึงการจัดระเบียบสายไฟฟ้าและสายเคเบิลของเอกชน เพื่อปรับภูมิทัศน์ด้วย
ดนตรีในสวนเฉลิมพระเกียรติฯ
ที่กรมประชาสัมพันธ์ น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ แถลงข่าวเปิดกิจกรรม เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ว่า การจัดงานในปีมหามงคลนี้ ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเป็นอย่างดียิ่งในการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ โดยกรมประชาสัมพันธ์ ได้จัดกิจกรรม และประชาสัมพันธ์ 10 โครงการเฉลิมพระเกียรติ เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์ครอบคลุมทั่วประเทศ และเกิดประโยชน์ในระยะยาว แบ่งโครงการออกเป็น 3 ด้าน คือ 1.ป่า ที่ช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับประชาชน 2.น้ำ บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่เกิดจากภัยแล้ง และพัฒนาคุณภาพชีวิตกว่า 10 พื้นที่ ทั่วประเทศ รวมถึงการต่อยอดไปสู่แหล่งท่องเที่ยวใหม่ และ 3.คนช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสให้สามารถใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างสะดวกขึ้น เป็นต้น
นอกจากนั้นกรมประชาสัมพันธ์ยังร่วมกับกรุงเทพมหานคร จัดกิจกรรมดนตรี ในสวนเฉลิมพระเกียรติ เพื่อเป็นการส่งมอบความสุขผ่านบทเพลงที่ไพเราะให้ประชาชนรับฟัง ผ่านการจัดกิจกรรมดนตรีในสวน เป็นครั้งที่ 3 โดยมีศิลปินร่วมงาน อาทิ โฉมฉาย อรุณฉาน น้องอลิศ และโก๊ะตุลย์ ศิลปินรับเชิญ จาก The Golden Song และมีการละเล่นไทย จากสมาคมเยาวชนอาสาสมัคร และวงโปงลาง จากกองการสังคีตกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้กิจกรรมดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของโครงการประชาสัมพันธ์งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ที่เปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วม และเป็นการเผยแพร่พระเกียรติคุณ พระราชประวัติ พระราชกรณียกิจที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีต่อประเทศชาติ
เชิญ’เรือสุพรรณหงส์’ลงน้ำ
เวลา 19.00 น. ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี กองทัพเรือ จัดเชิญเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ลงน้ำในการจัดเตรียมขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐินโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนม พรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567
เมื่อเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ถูกเชิญลงจากคาน นายเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์พร้อมกำลังพลประจำเรือได้ประกอบพิธีจุดธูปเทียนไหว้แม่ย่านางเรือ และถวายบังคมสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จากนั้น เคลื่อนเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์จากคลองบางกอกน้อยออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา มุ่งหน้าสู่อู่ทหารเรือธนบุรี ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ในเส้นทางสวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา (สถานีรถไฟบางกอกน้อยเดิม) โรงพยาบาลศิริราช ท่ามหาราช ท่าช้าง วัดระฆังโฆสิตาราม ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงเข้าจอดยังอู่หมายเลข 1 อู่ทหารเรือธนบุรี
การจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ประกอบด้วย เรือพระที่นั่งจำนวน 4 ลำคือ เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช และเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ โดยจะเชิญลงน้ำและเข้าจอด ณ อู่หมายเลข 1 อู่ทหารเรือธนบุรี กรมอู่ทหารเรือ ระหว่างวันที่ 4-7 กรกฎาคม วันละ 1 ลำ ตามลำดับ
ทั้งนี้ ในวันที่ 28-29 กรกฎาคม กองทัพเรือ ได้รับพระราชทานพระบรมราชา นุญาต ให้เชิญเรือพระที่นั่ง จำนวน 3 ลำ ประกอบด้วย เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 และเรือพระที่นั่งอนันตนาคราช จัดแสดงแบบผูกทุ่น ประกอบกาพย์เห่เรือเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ จัดการแสดงสาธิตการเห่เรือวันละ 2 รอบ โดยในวันที่ 28 กรกฎาคม จัดการแสดง เวลา 15.00 น. และ 20.00 น. ในส่วนของวันที่ 29 กรกฎาคม จัดการแสดง เวลา 17.00 น. และ 20.00 น. พร้อมทั้งจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ ณ บริเวณท่าราชวรดิฐ
ตรวจบ่อบาดาลในพระราชดำริ
เวลา 11.10 น.วันเดียวกัน พล.อ.อ.สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและคณะ มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ นางอรนุช หล่อเพ็ญศรี อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ตรวจติดตามโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้ง อันเนื่องมาจากพระราชดำริพื้นที่บ้านโคกล่าม หมู่ที่ 2 ต.โคกล่าม อ.จตุรพักตรพิมาน และนายชูศักดิ์ ราชบุรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด หัวหน้าส่วนราชการร่วมให้ข้อมูล
นางอรนุชกล่าวว่า กรมทรัพยากรน้ำบาดาลน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมรับโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และเพื่อเป็นการสนองพระราชปณิธาน สืบสาน รักษา ต่อยอด จึงได้ดำเนินการโครงการ สำรวจศักยภาพน้ำบาดาลในพื้นที่หาน้ำยาก โดยศึกษาอุทกธรณีวิทยาใต้ผิวดินด้วยวิธีทางธรณีฟิสิกส์ กำหนดขอบเขตพื้นที่ที่น่าสนใจดำเนินการเจาะสำรวจ วิเคราะห์คุณภาพน้ำบาดาล สูบทดสอบ พบว่าพื้นที่แห่งนี้มีความเหมาะสม จึงต่อยอดโครงการพัฒนาให้เป็นโครงการน้ำบาดาลขนาดใหญ่ ซึ่งได้ดำเนินการเจาะบ่อสำรวจไปแล้วทั้งสิ้นจำนวน 4 บ่อ ความลึกเฉลี่ย 100 เมตร และได้น้ำปริมาณมากประมาณ 10-15 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมงต่อบ่อ โดยตั้งเป้าหมายเจาะบ่อเพิ่มอีก 6 บ่อ รวมทั้งสิ้น 10 บ่อ สำหรับโครงการนี้ เมื่อดำเนินการเจาะบ่อบาดาลและก่อสร้างแล้วเสร็จ ชาวบ้านในพื้นที่ก็จะดำเนินการจัดตั้งกลุ่มผู้ใช้น้ำ ประกอบด้วยชาวบ้านทั้ง 14 หมู่
หลังจากนั้น พล.อ.อ.สถิตย์พงษ์ พร้อมด้วยคณะได้สำรวจพื้นที่โครงการพร้อมให้กำลังใจในการทำงานในการดูแลประชาชนต่อไป
โคราชพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์
ที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นำคณะส่วนราชการ เดินเท้าเข้าไปภายในต้นน้ำลำตะคอง บริเวณเหนือฐานปฏิบัติการเฉพาะกิจคลอง อิเฒ่า อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ระยะทาง 3 กิโลเมตร เพื่อประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยหลังจากการประกอบพิธีตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ใส่ขันสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาได้เชิญขันสาครและที่ตักน้ำขึ้นเสลี่ยง เดินเท้าออกจากป่าเขาใหญ่ระยะทาง 3 กิโลเมตร ก่อนเชิญขึ้นรถบุษบกแห่ไปยังอ.ปากช่อง สีคิ้ว สูงเนิน ขามทะเลสอ มุ่งหน้าสู่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมืองนครราชสีมา และเชิญน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่ลอดซุ้มประตูชุมพลไปยังวัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร เพื่อประกอบพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ในวันอาทิตย์ที่ 7 ก.ค. เวลา 17.09 น. ณ พระวิหารหลวง วัดพระนารายณ์มหาราช วรวิหาร, ประกอบพิธีเวียนเทียนสมโภชน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ วันจันทร์ที่ 8 ก.ค. เวลา 12.00 น. และพิธีเชิญคนโทน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัดไปเก็บรักษาไว้ที่กระทรวงมหาดไทยในวันอาทิตย์ที่ 14 ก.ค.
ขอนแก่นเชิญขันสาครไปวัดธาตุ
ที่บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ (บาราย) วัดกู่ประชาชัย บ้านนาคำน้อย ต.บัวใหญ่ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานในพิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ เพื่อใช้ในพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567
ทั้งนี้ ผวจ.ขอนแก่น พร้อมเจ้าหน้าที่เชิญขันสาคร และที่ตักน้ำไปยังแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ เจ้าหน้าที่เปิดฝาขันสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น หยิบที่ตักน้ำ ตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ใส่ขันสาคร ประมาณร้อยละ 80 ของขันสาคร เจ้าหน้าที่ปิดฝาขันสาครห่อด้วยผ้าขาว ผูกริบบิ้น สีขาว
ผวจ.ขอนแก่นและเจ้าหน้าที่เชิญขันสาครและที่ตักน้ำไปยังรถเชิญโดยขบวนรถเคลื่อนไปยังวัดธาตุ พระอารามหลวง จ.ขอนแก่น เพื่อประกอบพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ในวันอาทิตย์ที่ 7 ก.ค.
สำหรับพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ เพื่อใช้ในพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จัดขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศในเวลา 14.49 น. ณ แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ รวม 107 แห่งวันพฤหัสบดีที่ 4 ก.ค. และในวันอาทิตย์ที่ 7 ก.ค.พิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ โดยในวันจันทร์ที่ 8 ก.ค.ประกอบพิธีเวียนเทียนสมโภชน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นจะมีพิธีเชิญคนโทน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ของทั้ง 76 จังหวัดไปเก็บรักษาไว้ที่กระทรวงมหาดไทยในวันอาทิตย์ที่ 14 ก.ค.
ปลัดมท.เป็นปธ.พิธีพลีกรรม
เมื่อเวลา 14.09 น. วันเดียวกัน ที่บึงพระอาจารย์ ต.พระอาจารย์ อ.องครักษ์ จ.นครนายก นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ เพื่อเชิญไปประกอบพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยได้รับเมตตาจากพระราชสิทธิวราจารย์ (อุดม สุทฺธสีโล) ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 12 เจ้าอาวาสวัดประสิทธิเวช โดยมีนายธงชัย ลิขิตพรสวรรค์ ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย นายธนวัฒน์ ปิ่นแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก นายชนาธิป โคกมณี ปลัดจังหวัดนครนายก น.ส.จิรวดี บรรพบุตร หัวหน้าสำนักงานจังหวัดนครนายก หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่ร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก
โอกาสนี้ นายสุทธิพงษ์ถวายธูปเทียนแพ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้วจุดธูปเทียน บูชา โปรยข้าวตอกดอกไม้ ที่โต๊ะบวงสรวงเพื่อประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ พราหมณ์บัณฑิตอ่านโองการบวงสรวงบูชาเทพยดา เทพารักษ์ ผู้ดูแลรักษาสถานที่แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ นายสุทธิพงษ์อ่านคาถาพลีกรรมตักน้ำ จบแล้ว จากนั้น ในเวลา 14.49 น. นายสุทธิพงษ์ทำพิธีตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์บึงพระอาจารย์ใส่ขันสาคร แล้วปิดฝาขันสาคร ห่อด้วยผ้าขาว ผูกริบบิ้น สีขาว แล้วเชิญขันสาครและที่ตักน้ำไปยังรถเชิญน้ำศักดิ์สิทธิ์ เคลื่อนไปยังวัดอุดมธานี พระอารามหลวง อ.เมือง จ.นครนายก เพื่อเตรียมประกอบพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ตามฤกษ์ต่อไป
“ในวันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ เป็นผู้นำข้าราชการและพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ เพื่อจัดทำน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และเชิญขันสาครและที่ตักน้ำไปยังสถานที่สำหรับประกอบพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ และ พิธีเวียนเทียนสมโภชน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ที่จังหวัดกำหนด ในวันที่ 7 ก.ค.และวันที่ 8 ก.ค.อย่างสมพระเกียรติต่อไป” นายสุทธิพงษ์กล่าว
บรรยายใต้ภาพ
น้ำศักดิ์สิทธิ์ นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผวจ.นครราชสีมา นำประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ เนื่องในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ บริเวณแหล่งน้ำคลองอีเฒ่า ต้นน้ำลำตะคอง อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เมื่อวันที่ 4 ก.ค.
ที่มา: นสพ.ข่าวสด ฉบับวันที่ 6 ก.ค. 2567 (กรอบบ่าย)