เฉลิมพระเกียรติ6รอบ ปล่อยเรือพระที่นั่งลงน้ำ ‘บุรีรัมย์’จัดงานยิ่งใหญ่

ทั่วประเทศทำพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ 108 แห่ง เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครบ 6 รอบ 72 พรรษา

นายกฯติดตาม’พัฒนาคูคลอง’

เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ที่บริเวณสะพาน 6 คลองคูเมืองเดิมหลังกระทรวงกลาโหม (กห.) ถนนสนามไชย เขตพระนคร กรุงเทพฯ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ตรวจติดตามโครงการพัฒนาคูคลอง ในเกาะรัตนโกสินทร์ฯ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมี นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นางวันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม และหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าร่วม

นายกฯรับฟังบรรยายสรุปโครงการพัฒนาคูคลอง ในเกาะรัตนโกสินทร์ และการปรับภูมิทัศน์ จากผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ปลัดกรุงเทพมหานคร และปลัดกระทรวงกลาโหม ที่บรรยายประวัติความเป็นมาของคลองที่อยู่ภายใต้แผนการพัฒนาคูคลองเมืองเดิม ริมคลองหลอดวัดราชบพิธและริมคลองหลอดวัดราชนัดดา พร้อมการปรับปรุงคลองสาขา โดยกลาโหมร่วมกับภาคีเครือข่าย ขณะที่นายชัชชาติกล่าวยืนยันว่า ขณะนี้การพัฒนาด้านคูคลองและพื้นที่โดยรอบมีความคืบหน้าเป็นอย่างดีและกรุงเทพมหานครจะทำทางเดินเท้าจากจุดเชื่อมต่อไปถึงมีนบุรี เมื่อแล้วเสร็จจะสามารถให้บริการประชาชนและเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี ขณะที่นายกฯได้ขอบคุณทางกรุงเทพมหานครและกลาโหมที่เป็นหน่วยหลักในการดำเนินการ

ร่วมกิจกรรมทาสีสะพาน

จากนั้นนายกฯตรวจเยี่ยมการพัฒนาคลองคูเมืองเดิม และขึ้นรถรางจากบริเวณสะพาน 6 หลังกระทรวงกลาโหมไปยังบริเวณสะพาน 6 หลังสวนสราญรมย์ เพื่อเยี่ยมชมการสาธิตการทำงานของเครื่องบำบัดน้ำเสียและบีบอัดตะกอนเลน โดยรับฟังบรรยายและเยี่ยมชมการสาธิตการทำงานของเครื่องบำบัดน้ำเสียและบีบอัดตะกอนเลนจากนางปนัดดา รักษาแก้ว บริษัท UCI โดยการบีบอัดตะกอนแทนการขุดลอกคูคลองแบบเก่าจะประโยชน์ที่จะนำไปใช้ นอกจากการทำให้น้ำสะอาดแล้ว ยังเป็นการลดค่าใช้จ่าย ประหยัดเวลา เพิ่มอัตราการระบายน้ำในคูคลองให้สะอาดมากยิ่งขึ้น และแยกวัสดุที่นำไปใช้ประโยชน์ได้ เช่น ดินและทราย

ต่อมานายกฯเดินจากสะพาน 6 หลังสวนสราญรมย์ ไปยังบริเวณคลองหลอดวัดราชบพิธ ร่วมกิจกรรมพัฒนาพื้นที่กรุงเทพมหานคร บริเวณริมคลองหลอดวัดราชพิธ ร่วมกิจกรรมทาสีบริเวณสะพาน 6 หลังสวนสราญรมย์ ก่อนเดินทางกลับนายกรัฐมนตรียังได้สั่งการปลัดกรุงเทพมหานคร ถึงการจัดระเบียบสายไฟฟ้าและสายเคเบิลของเอกชนเพื่อปรับภูมิทัศน์

‘ชัชชาติ’ลุยปรับทัศนียภาพ

นายชัชชาติกล่าวว่า วันนี้ ลงพื้นที่ทั้งสิ้น 3 จุด ประกอบด้วย จุดที่ 1 บริเวณแยกคอกวัว ถนนราชดำเนินกลาง เขตพระนคร เดินตรวจพื้นที่บริเวณแยกคอกวัว ไปถึงโรงแรมรัตนโกสินทร์ ติดตามการปรับทัศนียภาพถนนราชดำเนินกลาง อาทิ การรื้อถอนป้าย ซ่อมแซมเสาป้าย ทาสีขอบทางเท้า ติดตั้งถังขยะ ย้ายจุดแจกอาหาร รวมถึงรับฟังแนวคิดการออกแบบม้านั่ง และการทำคอกต้นไม้ หลังปรับปรุงระยะที่ 2 ส่วนจุดที่ 2 และจุดที่ 3 จากมติการปรับปรุงภูมิทัศน์ถนนสายหลัก โดยจุดที่ 2 แยกเกียกกาย วัดแก้วฟ้า เขตดุสิต ติดตามโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณแยกเกียกกาย ช่วงที่ 2 ก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา รวมทางขึ้น-ลง โดยภาพรวมโครงการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และจุดที่ 3 ปากซอยร่วมมิตร ถนนประดิพัทธิ์ 5 สวน 15 นาที ซอยร่วมมิตร เขตพญาไท ติดตามการดำเนินการปรับปรุงสวน อาทิ การตัดแต่งไม้ยืนต้น การปรับปรุงทางเดินภายในสวน

‘เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์’ลงน้ำ

วันเดียวกัน เวลา 19.00 น. กองทัพเรือ (ทร.) ได้จัดให้มีการอัญเชิญเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ ลงน้ำ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี เพื่อเตรียมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ในการพระราชพิธี เสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ในวันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม 2567 โดยเมื่อเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ลงจากคาน นายเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ พร้อมกำลังพลประจำเรือ ได้ประกอบพิธีจุดธูปเทียนไหว้แม่ย่านางเรือ และถวายบังคมสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นจึงเคลื่อนเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ จากคลองบางกอกน้อย ออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา มุ่งหน้าสู่ อู่ทหารเรือธนบุรี ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ในเส้นทางสวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา (สถานีรถไฟบางกอกน้อยเดิม) โรงพยาบาลศิริราช ท่ามหาราช ท่าช้าง วัดระฆังโฆสิตาราม ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงเข้าจอดยังอู่หมายเลข 1 อู่ทหารเรือธนบุรี

ทั่วไทยทำพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ว่าราชการ ข้าราชการ เอกชน และประชาชนทั่วประเทศประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ รวม 108 แห่ง เพื่อทำน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 อาทิ ที่บึงพระอาจารย์ ต.พระอาจารย์ อ.องครักษ์ จ.นครนายก นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ เพื่ออัญเชิญไปประกอบพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยได้รับเมตตาจาก พระราชสิทธิวราจารย์ (อุดม สุทฺธสีโล) ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 12 เจ้าอาวาส วัดประสิทธิเวช โดยมี อาจารย์ธงชัย

ลิขิตพรสวรรค์ ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย นายธนวัฒน์ ปิ่นแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก และประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครนายกร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก

ที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อเวลา 14.45 น. นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าฯเชียงใหม่ เป็นประธานพิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์บ่อน้ำวัดบุพพาราม ถนนท่าแพ ต.ช้างม่อย อ.เมือง เพื่อนำไปประกอบพิธีปลุกเสกเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา 6รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ซึ่งบ่อน้ำดังกล่าว เป็น 1 ใน 3 แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ของเชียงใหม่ โดยประดับประดาแบบล้านนา และปรับภูมิทัศน์สถานที่อย่างสวยงาม และสมพระเกียรติ มีคณะสงฆ์ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองท้องถิ่นผู้บริหารสถานศึกษา ภาคเอกชน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีจำนวนมาก

สำหรับบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ วัดบุพพารามมีอายุกว่า 500 ปี เป็บบ่อน้ำ 8 เหลี่ยม ความลึกจากปากบ่อ 7.20 เมตร เคยทำพิธีในโอกาสมหามงคลมาแล้ว 3 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ก่อนอัญเชิญไปประกอบพิธีเจริญน้ำพระพุทธมนต์ ที่วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร ซึ่งอยู่ห่างจากวัดบุพพารามกว่า 2 กิโลเมตร

‘ผู้ว่าฯโคราช-ขอนแก่น’ร่วมพิธี

ที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าฯนครราชสีมา นำคณะส่วนราชการเดินเท้าเข้าไปภายในต้นน้ำลำตะคอง บริเวณเหนือฐานปฏิบัติการเฉพาะกิจคลองอิเฒ่า อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ระยะทาง 3 กม. เพื่อประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ โดยภายหลังจากการประกอบพิธีตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ใส่ขันสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาได้เชิญขันสาครและที่ตักน้ำขึ้นเสลี่ยงเดินเท้าออกจากป่าเขาใหญ่ระยะทาง 3 กม. ก่อนเชิญขึ้นรถบุษบกแห่ไปยัง อ.ปากช่อง อ.สีคิ้ว อ.สูงเนิน อ.ขามทะเลสอ มุ่งหน้าสู่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมืองนครราชสีมา และเชิญน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่ลอดซุ้มประตูชุมพลไปยังวัดพระนาราย์มหาราชวรวิหาร

ทั้งนี้ จ.นครราชสีมา กำหนดประกอบพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ วันที่ 7 กรกฎาคม เวลา 17.09 น. ณ พระวิหารหลวง วัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร พิธีเวียนเทียนสมโภชน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ วันที่ 8 กรกฎาคม เวลา 12.00 น. ณ พระวิหารหลวง วัดพระนารายณ์มหาราช วรวิหาร และพิธีเชิญคนโทน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัดไปเก็บรักษาไว้ที่กระทรวงมหาดไทย ในวันที่ 14 กรกฎาคม

ขณะที่บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ (บาราย) วัดกู่ประชาชัย บ้านนาคำน้อย ต.บัวใหญ่ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าฯขอนแก่น เป็นประธานในพิธีพลีกรรม ตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ ได้ตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ใส่ขันสาคร ประมาณร้อยละ 80 ของขันสาคร เจ้าหน้าที่ปิดฝาขันสาครห่อด้วยผ้าขาว ผูกริบบิ้นสีขาว โดยเจ้าหน้าที่ผู้เชิญขันสาครและที่ตักน้ำไปยังภายในพระอุโบสถ วัดธาตุ พระอารามหลวง เพื่อรอทำพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ในวันที่ 7 กรกฎาคม และจะมีพิธีเวียนเทียนสมโภชน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ในวันที่ 8 กรกฎาคม

บุรีรัมย์จัดเฉลิมพระเกียรติยิ่งใหญ่

นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า จังหวัดบุรีรัมย์เตรียมจัดงานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ฉัตรแก้วคุ้มเกล้าชาวประชา ที่บริเวณด้านหน้าสนามช้างอารีนา จังหวัดบุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 28-30 กรกฎาคม 2567 กิจกรรมในครั้งนี้ ลูกหลานชาวจังหวัดบุรีรัมย์พร้อมใจกันจัดขึ้น โดยมีกิจกรรมมากมาย ซึ่งจะเปิดให้ทั้งชาวบุรีรัมย์ จังหวัดใกล้เคียง รวมถึงพี่น้องชาวไทยทั้งประเทศและนักท่องเที่ยวทั่วโลกได้มาชมการแสดงที่ยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ เป็นระยะเวลา 3 วัน ส่งเสริมให้พสกนิกรทุกหมู่เหล่าได้ร่วมกันทำความดีถวายเป็นพระราชกุศล และเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ คาดว่าการจัดงานครั้งมีจะมีทั้งประชาชนมาชมงานต่อวันมากกว่า 30,000 คน พร้อมแผนสำรอง หากมีจำนวนที่มาเพิ่มมากยิ่งขึ้น โดยเปิดให้ชมฟรีตลอด 3 วัน คาดว่าจะมีผู้ร่วมงานมากกว่า 200,000 คน

นายนฤชากล่าวต่อว่า งานลมหายใจของแผ่นดิน มีกิจกรรมภายในงาน ได้แก่ กิจกรรมการแสดงเทิดพระเกียรติสุดยิ่งใหญ่ด้วยเทคโนโลยีการจัดแสดงระดับโลก อาทิ การแสดงแสงสีเสียงประกอบ 3D Mapping ตระการตา การแสดงวงดนตรีออร์เคสตรา ลูกหลานชาวจังหวัดบุรีรัมย์ร่วมบรรเลงดนตรีและแสดงกว่า 200 ชีวิต เครื่องดนตรีกว่า 120 ชิ้น ผสมผสานเครื่องดนตรีพื้นบ้านอีสานใต้ โดยวงดุริยางค์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ การแสดงมิวสิคัล

บอกเล่าเรื่องราวพระราชกรณียกิจ พระมหากรุณาธิคุณ เป็นต้น

บรรยายใต้ภาพ

ประกอบพิธี – นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ เพื่ออัญเชิญไปประกอบพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ที่บึงพระอาจารย์ ต.พระอาจารย์ อ.องครักษ์ จ.นครนายก เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม

ที่มา:  นสพ.มติชน ฉบับวันที่ 6 ก.ค. 2567 (กรอบบ่าย)