รายงานพิเศษ: ‘สุรจิตต์’ประธานสภากทม.คนที่ 24 ชูโปร่งใส-ไร้ผลประโยชน์ทับซ้อน

 นภัสนันท์ กมลอนันต์กรณ์

ในการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมวิสามัญ สมัยแรก ครั้งที่ 1 ประจำปี 2567 เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ที่ผ่านมา เพื่อนสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (สก.) โหวตเอกฉันท์ เลือก นายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา หรือ ดร.จอห์น สก.เขตลาดกระบัง พรรคเพื่อไทย เป็นประธานสภากรุงเทพมหานคร คนที่ 24 นายวิพุธ ศรีวะอุไร สก.เขตบางรัก พรรคเพื่อไทย เป็นรองประธานสภากรุงเทพมหานคร คนที่ 1 และ นายฉัตรชัย หมอดี สก.เขตบางนา พรรคก้าวไกล เป็นรองประธานสภากรุงเทพมหานคร คนที่ 2

เจ้าตัวประกาศกลางห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร (สภากทม.) ว่า พร้อมปฏิบัติหน้าที่ในฐานะประธานสภากทม. โดยจะแก้ไขเรื่องที่ยังไม่สำเร็จในสมัย ที่ผ่านมา อาทิ เรื่องของเงินคงค้าง การปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ การสร้างความสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้องกับเมืองเป้าหมายที่ยังไม่สำเร็จเพิ่มเติม ทั้งนี้ เพื่อสานต่อนโยบายของประธานสภา คนเดิมให้สำเร็จ นอกจากนี้พร้อมแก้ไขอุปสรรคต่างๆ เพื่อให้การทำงาน มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และพร้อม ผลักดันนโยบายใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้น เพื่อให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่น่าอยู่ของ ทุกคน ตนพร้อมทำงานในฐานะประธานสภากรุงเทพมหานคร กับเพื่อนสมาชิกทั้ง 50 เขต ข้าราชการและฝ่ายบริหาร เพื่อให้กรุงเทพมหานครดียิ่งขึ้น

โดย ประธานสภากทม.สุรจิตต์ เปิดเผยว่า ได้กำหนดแนวทางการทำงานในอีก 2 ปีข้างหน้า ขอให้เป็นปีแห่งการอยู่อย่างมีความหมาย โดยการสร้างความหมายของสภากทม. ในการเป็นองค์กรฝ่ายนิติบัญญัติ ร่วมกับสมาชิกทั้ง 49 คน โดยยึดหลักความเหมาะสม ปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานให้สอดคล้องกับโลกที่เปลี่ยนไป และนำเทคโนโลยีมาใช้เป็นกลไกหลักในการ ขับเคลื่อนการทำงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

ขณะเดียวกันการลงพื้นที่ยังคงเป็นหัวใจหลักในการทำงาน ซึ่งจะลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน

นอกจากนี้ได้เดินหน้าผลักดันมวยไทย บรรจุเป็นหลักสูตรวิชาทางเลือกในกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ให้กับนักเรียนโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานครทั้ง 437 โรงเรียน ต่อยอดเป็นอาชีพหลักได้และยังช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้เยาวชนห่างไกลยาเสพติด ได้ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ยังฝึกฝนความอดทน เป็นศิลปะป้องกันตัว ตลอดจนได้เรียนรู้ ประวัติศาสตร์ เข้าใจวัฒนธรรม เห็นคุณค่าในการอนุรักษ์มรดกทางภูมิปัญญาวัฒนธรรมไทยอีกด้วย

ในส่วนของการสานต่องานของประธานสภากทม.คนเก่านั้น นายสุรจิตต์กล่าวว่า จะทำงานเหมือนสะท้อนปัญหาจากล่างขึ้นบน จากผู้ปฏิบัติสู่ผู้ผลักดัน ซึ่งจะทำหน้าที่ผลักดันการทำงานให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมต่อประชาชน ทั้งร่วมกันตรวจสอบ รับทราบปัญหา และหาแนวทางแก้ไข จากที่สก.ทุกเขตลงพื้นที่ และรวบรวมเป็นกระทู้ หรือญัตติเข้าสู่สภากทม.สะท้อนภาพให้ฝ่ายบริหารรับทราบและเร่งแก้ปัญหา นอกจากนี้ จะสานต่องานด้านต่างประเทศ โดยจะขยายความสัมพันธ์สภาบ้านพี่เมืองน้อง โดยตั้งเป้าขยายความสัมพันธ์ปีนี้ 1 เมือง และปีหน้า 5 เมือง

นายสุรจิตต์กล่าวถึงการตรวจสอบเรื่องทุจริต ว่า จะเน้นการตรวจสอบภายในหน่วยงาน และการให้ความสำคัญต่อสภาพแวดล้อม ซึ่งเป็นกลไกหนึ่งที่ช่วยป้องกันการทุจริตและช่วย ให้เกิดความโปร่งใสได้

“สมาชิกต้องยึดมั่นในคุณธรรมและจริยธรรม มีจิตสำนึกที่ดี ซื่อสัตย์ สุจริต และรับผิดชอบ โดยยึดถือประโยชน์ของประเทศชาติเหนือกว่าประโยชน์ส่วนตนและไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ตลอดจนรักษามาตรฐาน โปร่งใส และตรวจสอบได้” ประธานสุรจิตต์กล่าว

ด้านนายวิพุธ รองประธานสภากทม.คนที่ 1 กล่าวว่า อยากทำให้ประชาชนมองเข้ามาสภากทม.แล้วพบว่าสภากทม.มีความโปร่งใส เข้าถึงได้ง่าย และเข้ามามีส่วนร่วมในการติดตามความคืบหน้าในทุกเรื่อง หรือติดตามการทำงานของสมาชิกได้ เพื่อสร้างความเชื่อใจ จากนี้ประชาชนจะเห็นการทำงานที่เข้มแข็ง เพราะทั้งประธานสภาและรองประธาน รวมถึงสมาชิกเป็นคนวัยเดียวกัน ซึ่งเราจะรู้ว่าคนวัยนี้ต้องการการสื่อสารที่ตรงไป ตรงมา ต้องการผลงานมากกว่าคำพูด ขณะที่เสียงของประชาชนสำคัญมาก ในการรับฟัง เพื่อนำมาพัฒนางานต่อไป โดยประชาชนสามารถแจ้งปัญหาได้ที่สก.ในพื้นที่หรือเพจสภากทม.เพราะจะได้รับการติดต่อที่สะดวกรวดเร็ว

ขณะที่นายฉัตรชัย รองประธานสภากทม.คนที่ 2 กล่าวว่า มีความตั้งใจทำสภากทม.ยุคใหม่ โดยนำปัญหาต่างๆ ที่สภากทม.ไม่สามารถทำได้ ส่งต่อไปยังสภา ผู้แทนราษฎร เพื่อให้ได้รับการแก้ไข เพราะบางหน่วยงานไม่ได้ขึ้นตรงกับกทม. อีกทั้งอำนาจที่กทม.มี บางอย่างถูกลดทอน ลงไป ตนจะทำหน้าที่อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยไม่มีเงื่อนไข เพราะสุดท้ายแล้วประชาชนจะได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง

“รอดูผลงานของสภากทม.ชุดนี้ต่อไป”

บรรยายใต้ภาพ

สุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา

วิพุธ ศรีวะอุไร

ฉัตรชัย หมอดี

 



ที่มา:  นสพ.ข่าวสด ฉบับวันที่ 20 มิ.ย. 2567

แชร์ข่าว:
กรุงเทพฯ มีอะไร อัพเดทข่าวสารฉับไว กิจกรรมที่น่าสนใจ และมีส่วนร่วมได้ รวมไว้ให้ที่นี่

©2022 สงวนลิขสิทธิ์ กรุงเทพมหานคร

สำนักงานประชาสัมพันธ์ สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร 173 ถนนดินสอ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กทม. 10200