เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน ที่ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 ดินแดง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการและสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ทั้ง 50 เขต เข้าร่วมประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมวิสามัญ สมัยแรก (ครั้งที่ 2) ประจำปี พุทธศักราช 2567 โดยมีนายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา หรือ ดร.จอห์น ส.ก.เขตลาดกระบัง เป็นประธานสภากรุงเทพมหานคร ซึ่งมีระเบียบวาระสำคัญในการพิจารณา ได้แก่ การรายงานผลการตรวจสอบรายงานการเงินของ กทม.สำหรับปี สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2566 นายชัชชาติรายงานผลการดำเนินการตามญัตติของสมาชิกสภา กทม. รวม 10 เรื่อง และญัตติที่ ส.ก.เสนอ เกี่ยวกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) แนวทางป้องกันเหตุเพลิงไหม้ เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในตอนหนึ่ง น.ส.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า กทม.เสนอขอความเห็นชอบผูกพันงบประมาณรายการผูกพันโอนตั้งจ่ายเป็นค่าเช่าที่ดินของวัดปากน้ำ เพื่อก่อสร้างโรงพยาบาลพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) โดยมีหลักการและเหตุผล ดังนี้ หลักการ ขอความเห็นชอบผูกพันงบประมาณรายการผูกพันโอนตั้งจ่ายเป็นค่าเช่าที่ดินของวัดปากน้ำ เพื่อก่อสร้างโรงพยาบาล พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) เหตุผล เนื่องจาก กทม.มีความจำเป็นในการเช่าที่ดินของวัดปากน้ำเพื่อก่อสร้างโรงพยาบาลพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ให้ประชาชนได้รับบริการทางการแพทย์ทั้งทางด้านการส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค การรักษาพยาบาลและฟ้นฟูสุขภาพที่มีประสิทธิภาพ ส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในเขตภาษีเจริญ และพื้นที่ใกล้เคียง ได้แก่ เขตบางแค เขตบางบอน เขตราษฎร์บูรณะ เขตจอมทอง เขตธนบุรี เขตบางกอกใหญ่ และเขตตลิ่งชัน เป็นการเพิ่มโอกาสขยายการบริการทางการแพทย์ให้ครอบคลุมทั่วพื้นที่ กทม.
“กทม.จึงเสนอขอความเห็นชอบผูกพันงบประมาณรายการผูกพันโอนตั้งจ่ายเป็นค่าเช่าที่ดินของวัดปากน้ำ เพื่อก่อสร้างโรงพยาบาลพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ระยะเวลาเช่า 30 ปี พ.ศ.2567-2597 วงเงินโครงการ 15,516,495 บาทถ้วน โดยใช้งบประมาณเหลือจ่ายจากการก่อหนี้ผูกพันงบประมาณของสำนักการแพทย์ จึงนำเรียนสภา กทม. ได้โปรดพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป” น.ส.ทวิดากล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นมี ส.ก.หลายคนใช้สิทธิในการอภิปรายและตั้งคำถาม ต่อมา นายสุรจิตต์ ได้ตรวจสอบองค์ประชุมก่อนการลงคะแนน โดยวันนี้มีองค์ประชุมทั้งหมด 29 คน ผลปรากฏว่าเห็นชอบทั้งหมด 29 คน
ที่มา: นสพ.มติชน ฉบับวันที่ 20 มิ.ย. 2567