ทีมข่าวชุมชนเมือง รายงาน
จากเหตุการณ์เพลิงไหม้โครงการตลาดศรีสมรัตน์ โซนจำหน่ายปลากัดและสัตว์เลี้ยงใกล้เคียงตลาดนัดจตุจักร ส่งผลให้มีสัตว์เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก สร้างความสะเทือนใจให้แก่ผู้พบเห็น
กทม.โดย นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. พร้อมคณะผู้บริหาร และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าว ถึงมาตรการป้องกันหลังจากนี้ โดยข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกิจการสัตว์เลี้ยงได้แก่ 1.พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 (ใบอนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตราย ต่อสุขภาพ ใบ อภ.2) ยื่นขอที่หน่วยงานของ กทม.
2.พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์พ.ศ.2558 ประกาศกรมปศุสัตว์เรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาต และการออกใบอนุญาตทางการค้าหรือหากำไร ในลักษณะคนกลางซึ่งสัตว์ประเภทสุนัขและแมว พ.ศ. 2563 (ใบอนุญาตให้ทำการค้าหรือซากสัตว์ ใบ ร.10) ยื่นขอกับกรมปศุสัตว์ และ 3.พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ.2557 ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เรื่องแต่งตั้งพนักงาน เจ้าหน้าที่ ตามพ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 ฉบับที่ 2 พ.ศ 2562 ข้อ 7 (3)
จากนโยบายขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยง “ตลอดช่วงชีวิต” ของผู้ว่าฯชัชชาติ ปี 66 ได้เริ่มทำการสำรวจในส่วนของกิจการที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง ตั้งแต่ เม.ย.-ก.ค. 66 พบกิจการที่เกี่ยวกับสุนัขและแมว 233 ราย มีใบอนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ (ใบ อภ.2) เพียง 6 ราย ไม่มีใบอนุญาต 227 แห่ง ส่วนการขออนุญาตประเภท ร.10 มี ใบอนุญาต 30 แห่ง ไม่มีใบอนุญาต 36 แห่ง
อย่างไรก็ตาม ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา กทม. กลับไม่เคยออกใบอนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ (ใบ อภ.2) ให้แก่ร้านค้าสัตว์ เนื่องจากยังขาดความชัดเจนของกฎหมาย จึงเคยมีหนังสือถามถึงข้อกฎหมายไปยังกรมอนามัย เพื่อสอบถามประเด็นกิจการที่ต้องขอใบอนุญาตกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 66 และได้รับคำตอบกลับมาเมื่อวันที่ 21 พ.ค. 67 ว่ากิจการค้าสัตว์ เป็นกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
ได้ความชัดเจนแล้ว กทม. พร้อมกรมปศุสัตว์ และหน่วยงานเกี่ยวข้อง จึงลงพื้นที่ทำความเข้าใจผู้ค้าในเรื่องการขอใบอนุญาตทั้ง 2 ประเภทอีกครั้ง ในตลาดสังกัดสำนักงานตลาดกรุงเทพฯ คือ ตลาดนัดจตุจักรพลาซ่า สนามหลวง 2 และตลาดจตุจักร 2 มีนบุรี รวมถึงสั่งปูพรม 50 สำนักงานเขต ลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับผู้ค้า ซึ่งผู้ค้าจะต้องขอใบอนุญาตทั้ง 2 ประเภทให้แล้วเสร็จภายใน 15 ก.ค.67
แล้วกิจการใดบ้างที่จะต้องขอใบอนุญาตประกอบกิจการอันเป็นอันตรายต่อสุขภาพ (ใบ อภ.2)…
ในเรื่องนี้ น.ส.ทวิดา กมลเวชช รอง ผู้ว่าฯกทม. ระบุว่า คำว่ากิจการอันเป็นอันตรายต่อสุขภาพ คือ ต่อสุขภาพของคน ดังนั้นใน ส่วนของกิจการที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่ต้องขออนุญาตมี ดังนี้
(1) การเพาะพันธุ์เลี้ยงและการอนุบาลสัตว์ทุกชนิด อาทิ ฟาร์ม, ร้านจำหน่าย สัตว์เลี้ยง
(2) การประกอบกิจการเลี้ยง รวบ รวมสัตว์ หรือธุรกิจอื่นใดอันมีลักษณะทำนองเดียวกัน เพื่อให้ประชาชนเข้าชมหรือเพื่อประโยชน์ของกิจการนั้น ทั้งนี้ ไม่ว่าจะมีการเรียกเก็บค่าดู หรือค่าบริการในทางตรงหรือทางอ้อม หรือไม่ก็ตาม อาทิ คาเฟ่สัตว์เลี้ยง
และ 9(21) ประเภทกิจการสปา อาบน้ำ ตัดขน รับฝากสัตว์เลี้ยงชั่วคราว อาทิ ร้านอาบน้ำ ตัดขนสัตว์ โรงแรมสัตว์
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของแนวทางดำเนินการจากนี้จะติดตามการขึ้นทะเบียนเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงให้ถูกต้อง ครบทั้ง 50 เขต
น.ส.ทวิดา ย้ำว่า สำหรับผู้ที่ประสงค์จะเปิดร้านค้าสัตว์เลี้ยง จะต้องไปขออนุญาต ใบ ร.10 จากกรมปศุสัตว์ และขอใบ อภ.2 จากสำนักงานเขต เมื่อได้ใบอนุญาตเรียบร้อย จึงจะสามารถดำเนินกิจการเกี่ยวกับการค้าสัตว์ได้ นอกจากนี้ กทม. อยู่ระหว่างส่งจดหมายถึงผู้ค้าสัตว์ที่มีร้านอยู่ในสังกัดสำนักงาน ตลาดกรุงเทพฯให้ดำเนินการขออนุญาต ใบ อภ.2 และในสัปดาห์หน้าจะไปตั้งโต๊ะ รับยื่นเอกสารพร้อมกับกรมปศุสัตว์ต่อไป.
ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 21 มิ.ย. 2567