Flag
Search
Close this search box.
กทม. ชี้แจงข่าวร้องเรียน ประจำวันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคม 2567
กทม. เผยหลังติดตั้งเสาเอสการ์ดพื้นที่ภาษีเจริญช่วยลดการฝ่าฝืนจอด-ขับขี่บนทางเท้า เตรียมติดตั้งกล้อง AI ตรวจจับผู้ฝ่าฝืนเพิ่มอีก 100 จุด 
 
นางเยาวะสกุล ทองธัญวีรัตน์ ผู้อำนวยการเขตภาษีเจริญ กทม. กล่าวถึงความคืบหน้าและการประเมินผลภายหลังการติดตั้งเสากั้นรถจักรยานยนต์ขับขี่บนทางเท้าในพื้นที่เขตภาษีเจริญว่า สภาพทางกายภาพของทางเท้าถนนเพชรเกษม มีทางเท้าทั้ง 2 ฝั่ง กว้างประมาณ 4-6 เมตร และมีซอยแยกจำนวนมาก ประกอบกับมีจุดกลับรถไกล จึงมักมีผู้ฝ่าฝืนจอด หรือขับขี่รถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์บนทางเท้ากีดขวางทางสัญจรของประชาชน ก่อให้เกิดอันตรายและทำให้ทางเท้าชำรุด สำนักงานเขตฯ จึงได้ตั้งจุดจับ-ปรับ จอด หรือขับขี่รถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์บนทางเท้าในบริเวณพื้นที่ที่มีผู้ฝ่าฝืน หรือในจุดที่ประชาชนร้องเรียนเป็นประจำ ขณะเดียวกันได้จัดเจ้าหน้าที่เทศกิจออกปฏิบัติหน้าที่กวดขันอย่างต่อเนื่อง รวมถึงติดตั้งกล้องระบบ AI ในบริเวณที่มีผู้ฝ่าฝืนจำนวนมาก เช่น บริเวณซอยเพชรเกษม 28 โดยปีงบประมาณ 2567 สามารถจับกุมเปรียบเทียบปรับผู้กระทำความผิดได้ 75 ราย เป็นเงิน 85,200 บาท ว่ากล่าวตักเตือน 7 ราย (ข้อมูลอ้างอิงระบบจัดเก็บข้อมูลการกระทำผิดเทศกิจพิทักษ์ทางเท้า) แต่ยังพบผู้ฝ่าฝืนกระทำความผิด จึงได้หาวิธีแก้ไขปัญหาเพิ่มเติม โดยติดตั้งเสากั้นในลักษณะเสาเอสการ์ด เพื่อกั้นรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ไม่ให้จอด หรือขับขี่บนทางเท้า ซึ่งคนพิการ หรือผู้สูงอายุที่ใช้รถเข็นวีลแชร์สามารถผ่านได้ตามปกติ โดยได้ดำเนินการในจุดที่พบการร้องเรียน 22 จุด และได้รับการสนับสนุนงบประมาณดำเนินการจากเครือข่ายภาคประชาชนและภาคเอกชน โดยขณะติดตั้งเสาเอสการ์ด สำนักงานเขตฯ ได้ทดสอบการใช้งานจริงของคนพิการ หรือผู้ที่ใช้วีลแชร์แล้วว่า สามารถผ่านได้และไม่สร้างภาระในการเข็นผ่านเกินสมควร ส่วนปัญหาการขับขี่ย้อนศรและใช้ความเร็ว ได้ประสานสถานีตำรวจนครบาลท้องที่ดำเนินการตามพระราชบัญญัติการจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ด้วยแล้ว
 
ทั้งนี้ การติดตั้งเสากั้นรถจักรยานยนต์ในลักษณะเสาเอสการ์ด เป็นมาตรการเพิ่มเติมจากการกวดขันบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่เทศกิจ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผู้ใช้ทางเท้าไม่ให้ได้รับอันตรายจากการขับขี่รถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์บนทางเท้า และไม่ให้กีดขวางการใช้ทางเท้าของคนพิการ หรือผู้ที่ใช้วีลแชร์เกินสมควร ซึ่งจากการติดตั้งเสาเอสการ์ดที่ผ่านมาพบว่า ประชาชนที่ใช้ทางเท้าเห็นว่า การติดตั้งเสาเอสการ์ดเป็นประโยชน์ ลดการฝ่าฝืนการจอด หรือขับขี่รถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์บนทางเท้าได้ ขณะที่ฝ่ายเทศกิจ สำนักงานเขตฯ ยังเข้มงวดกวดขันบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดกับผู้ฝ่าฝืนจอด หรือขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ทางเท้าในการสัญจร โดยใช้มาตรการกวดขันผู้ฝ่าฝืนจอด หรือขับขี่รถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์บนทางเท้าเป็นหลัก อีกทั้งเพิ่มความถี่กวดขันจุดที่มีการฝ่าฝืนจำนวนมาก ควบคู่กับการทำหนังสือเชิญเจ้าของรถ หรือผู้ครอบครองรถที่กล้องวงจรปิด (CCTV) ตรวจจับการกระทำความผิดได้มาให้ถ้อยคำและเปรียบเทียบปรับ 
 
นายสุรเดช อำนวยสาร รองผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ (สนท.) รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ กทม. กล่าวว่า สนท. ได้ดำเนินโครงการกวดขันรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จอด หรือขับขี่บนทางเท้า เพื่อดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนผู้ใช้ทางเท้า โดยให้สำนักงานเขตบังคับใช้กฎหมาย ห้ามมิให้รถจอด หรือขับขี่บนทางเท้าโดยเด็ดขาด เนื่องจากเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 17 (2) แห่ง พ.ร.บ. รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 รวมทั้งให้เจ้าหน้าที่เทศกิจออกตรวจตรา กวดขัน เฝ้าระวังไม่ให้มีการกระทำผิด และตั้งโต๊ะจับ-ปรับรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ จอด หรือขับขี่บนทางเท้าในบริเวณพื้นที่ที่มีผู้ฝ่าฝืนจำนวนมาก หรือในจุดที่ประชาชนร้องเรียนเป็นประจำ โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วน ซึ่งที่ผ่านมาระหว่างเดือน ก.ค. 61-12 พ.ค. 67 สามารถกวดขันจับกุมผู้กระทำความผิดได้ 56,295 ราย เปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 62,671,014 บาท 
      ส่วนแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพการนำเทคโนโลยีกล้อง AI มาช่วยจับภาพผู้กระทำผิดขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า ตั้งแต่วันที่ 12 มิ.ย. 66-12 พ.ค. 67 ผลการดำเนินการ ตรวจพบผู้กระทำผิด 70,008 ราย ออกหนังสือเชิญมาให้ถ้อยคำแล้ว 7,053 ราย ว่ากล่าวตักเตือน 263 ราย เปรียบเทียบปรับ 521 ราย เป็นเงิน 345,700 บาท ซึ่ง สนท. ได้เร่งรัดให้สำนักงานเขตที่ติดตั้งกล้อง AI ออกหนังสือเชิญเจ้าของรถมาให้ถ้อยคำให้ครบทุกรายโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม การติดตั้งเสากั้นรถจักรยานยนต์ขับขี่บนทางเท้าเป็นอีกวิธีการหนึ่ง ซึ่งนำมาทดลองใช้ในบางถนนบางพื้นที่ หากผลการดำเนินงานดังกล่าวเป็นผลดีและประชาชนพึงพอใจจะขยายผลในถนนที่มีผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าฝืนบนทางเท้าจำนวนมากต่อไป
 
นายไทภัทร ธนสมบัติกุล ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) กทม. กล่าวว่า สจส. ได้นำเทคโนโลยีมาช่วยแก้ไขปัญหาการขับขี่บนทางเท้าด้วยการติดตั้งกล้อง CCTV พร้อมระบบ AI เพื่อตรวจจับผู้กระทำผิดฝ่าฝืนขับขี่รถจักรยานยนต์ หรือจอดกีดขวางบนทางเท้า ซึ่งได้ติดตั้งไปแล้ว 15 จุด และอยู่ระหว่างติดตั้งเพิ่มเติมอีก 100 จุด คาดว่า จะแล้วเสร็จได้ภายในเดือน ส.ค. 67 พร้อมเชื่อมโยงข้อมูลการกระทำผิดไปให้สำนักเทศกิจและสำนักงานเขตนั้น ๆ พิจารณาจับปรับสูงสุด ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 ต่อไป
 
 
กทม. เตรียมพร้อมดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด 19 ย้ำมาตรการป้องกันส่วนบุคคลยังสำคัญ

นายสุนทร สุนทรชาติ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย (สนอ.) กทม. กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 สายพันธุ์ KP สายพันธุ์ย่อยใหม่ของสายพันธุ์ JN.1 ว่า สถานการณ์ผู้ป่วยโควิด 19 ในกรุงเทพฯ ข้อมูลจากระบบ API และ EPINET ในสัปดาห์ที่ 17 (วันที่ 28 เม.ย.-4 พ.ค. 67) มีผู้ป่วย 6,266 คน (เฉลี่ยจำนวนผู้ป่วยต่อวัน 895 ราย) ไม่มีผู้เสียชีวิต และมากกว่าร้อยละ 95 อาการไม่หนัก ได้รับการรักษาแบบผู้ป่วยนอก ซึ่งจำนวนผู้ป่วยถือว่าน้อยกว่าจำนวนผู้ป่วยในช่วงสัปดาห์เดียวกันเมื่อปีที่แล้ว และอัตราการเสียชีวิตลดลงมาก อย่างไรก็ตาม กทม. ได้เตรียมความพร้อมสถานพยาบาลในสังกัด ทั้งบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข เตียงรักษา ยาและเวชภัณฑ์ที่จำเป็น ระบบการส่งต่อ ฯลฯ เพื่อรองรับการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคโควิด 19 โดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป รวมทั้งกลุ่มผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ และกลุ่มเด็กเล็ก ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยและเกิดปัญหาทางสุขภาพได้ง่าย
ทั้งนี้ มาตรการส่วนบุคคลยังเป็นปัจจัยหลักในการป้องกันโรคโควิด 19 ได้แก่ การล้างมือบ่อย ๆ และการสวมหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธีทุกครั้ง โดยเฉพาะเมื่อมีอาการป่วยโรคทางเดินหายใจ อยู่ใกล้ชิดกลุ่มเสี่ยง 608 และเด็กเล็ก และอยู่ในพื้นที่ หรือกิจกรรมเสี่ยง เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อและรับเชื้อโควิด 19 ตลอดจนป้องกันการติดเชื้อโรคระบบทางเดินหายใจอื่น ๆ การเว้นระยะห่าง หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่ที่มีผู้คนแออัด หรืออากาศถ่ายเทไม่ดี หมั่นล้างมือให้สะอาดลดความเสี่ยงติดเชื้อโควิด 19 ทุกสายพันธุ์
แชร์ข่าว:
กรุงเทพฯ มีอะไร อัพเดทข่าวสารฉับไว กิจกรรมที่น่าสนใจ และมีส่วนร่วมได้ รวมไว้ให้ที่นี่

©2022 สงวนลิขสิทธิ์ กรุงเทพมหานคร

สำนักงานประชาสัมพันธ์ สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร 173 ถนนดินสอ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กทม. 10200