กทม. เดินหน้าเพิ่มพื้นที่สีเขียว-เร่งเปิดสวนสาธารณะให้ได้ตามเป้า 267 แห่ง
 
 นายประพาส เหลืองศิรินภา ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม  (สสล.) กทม. กล่าวถึงความคืบหน้าการเพิ่มพื้นที่สีเขียวในกรุงเทพฯ ว่า กทม. ได้พัฒนาเมืองในด้านต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเพิ่มพื้นที่สีเขียว เพื่อแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 สอดคล้องตามแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 28 เม.ย. 67) มีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่อยู่ในความดูแลของ สสล. 52 แห่ง และสวน 15 นาที  เปิดให้บริการเพื่อเป็นสถานที่พักผ่อนที่สะดวกสำหรับประชาชน ขณะนี้มีพื้นที่เป้าหมาย 267 แห่ง เปิดให้บริการแล้ว 102 แห่ง โดยอยู่ระหว่างดำเนินการ 165 แห่ง และ DOGPARK (สวนสุนัข) 7 แห่ง ส่วนการปลูกต้นไม้ล้านต้น สร้างพื้นที่สีเขียว และกำแพงกรองฝุ่นทั่วกรุง มียอดจองปลูกต้นไม้จากทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน 1,641,310 ต้น ดำเนินการปลูกแล้ว  899,176 ต้น โดยพื้นที่สีเขียว มีส่วนช่วยลดฝุ่น PM2.5 ลดมลพิษและดูดซับคาร์บอน (CO2) และบรรเทาฝุ่น PM2.5  

นอกจากนั้น ในพื้นที่สวนสาธารณะได้เปิดให้มีพื้นที่กิจกรรมสำหรับประชาชน ทั้งกิจกรรมด้านกีฬา ดนตรีในสวน พื้นที่เสริมสร้างการเรียนรู้และสุขภาวะในสวน อาทิ ห้องสมุดประชาชน ลานกีฬา ลานแอโรบิก ทางจักรยาน ลู่วิ่ง อุทยานผีเสื้อและแมลง โคกหนองนาทวีวัฒนา พื้นที่ลานพักผ่อน สนามหญ้า เพื่อบรรเทาความตึงเครียดในพื้นที่เมือง เสริมสร้างสุขภาวะให้คนเมือง โดย สสล. ได้พัฒนาพื้นที่ เพื่อเมืองน่าอยู่และยั่งยืน รวมถึงปรับปรุงภูมิทัศน์ในส่วนต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ สามารถติดตามการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ได้หลายช่องทาง ดังนี้ เว็บไซต์ การดำเนินงานปลูกต้นไม้ล้านต้น สร้างพื้นที่สีเขียว และกำแพงกรองฝุ่นทั่วกรุง https://tree.bangkok.go.th/  Facebook : สำนักสิ่งแวดล้อม Tik-tok : สำนักสิ่งแวดล้อม หากมีข้อคิดเห็นและเสนอแนะ สามารถแจ้งผ่านระบบ Traffy fondue เพื่อ กทม. จะได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

กทม. กำชับโรงเรียนในสังกัดเตรียมพร้อมป้องกันการแพร่ระบาดโรคไข้หวัดใหญ่ช่วงเปิดเทอม
 
นายธนกร ไชยศรี ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา (สนศ.) กทม. กล่าวถึงมาตรการเชิงรุกของ กทม. ในการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ ว่า สนศ. ได้ประสานสำนักงานเขตแจ้งให้โรงเรียนในสังกัด กทม. ทราบและเตรียมความพร้อมการเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 ของโรงเรียนในสังกัด กทม. ซึ่ง สนศ. ได้กำหนดมาตรการความปลอดภัยในการตรวจสอบความพร้อมของอาคารเรียน ห้องเรียน เครื่องเล่นเด็ก ด้านสภาพแวดล้อม ความสะอาด สุขาภิบาล วัสดุการเรียนการสอน พร้อมทั้งให้สำนักงานเขตกำกับดูแลโรงเรียนในสังกัด กทม. ดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อในสถานศึกษาอย่างเนื่อง

        ขณะเดียวกัน สนศ. ร่วมกับสำนักการแพทย์และสำนักอนามัย กทม. บูรณาการการสื่อสารและประสานเตรียมความพร้อมสถานพยาบาล บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ตลอดจนมาตรการเข้ารับวัคซีนทั้งผู้ปกครอง นักเรียน ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา กทม. และผู้ปฏิบัติงานในโรงเรียน เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดต่อในโรงเรียนสังกัด กทม. รวมทั้งประสานบุคลากรจากสถานพยาบาลในพื้นที่เขตซึ่งอยู่ใกล้บริเวณโรงเรียนร่วมชี้แจงสิทธิการรักษาและการเข้ารับวัคซีนในวันประชุมผู้ปกครองและวันปฐมนิเทศนักเรียน ตลอดจนสนับสนุนพื้นที่ภายในโรงเรียนให้เป็นสถานที่บริการทางเลือก เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักเรียน ครู ผู้ปกครอง บุคลากร และประชาชนกลุ่มเสี่ยงในชุมชนโดยรอบโรงเรียนเข้ารับบริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่จากสถานพยาบาลสังกัด กทม. 

      นอกจากนี้ ยังมีแนวทางการส่งเสริมความรู้ เพื่อสร้างความเข้าใจและความตระหนักให้ประชาชนทุกกลุ่มเห็นถึงความสำคัญและความจำเป็นของการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่และเข้ารับการวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ตามกำหนด โดยประสานสำนักงานเขตให้กำกับดูแลโรงเรียนในสังกัดดำเนินการตามแนวทาง การเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่ พร้อมเผยแพร่ประชาสัมพันธ์การป้องกันโรคให้กับนักเรียน ครู ผู้ปกครอง ผ่านเสียงตามสาย กิจกรรมหน้าเสาธง กิจกรรมโฮมรูม ป้ายนิเทศภายในโรงเรียน สื่อสังคมออนไลน์และกลุ่มโซเชียลมีเดียในรูปแบบต่าง ๆ รวมถึงเฝ้าระวังตรวจสอบเด็กก่อนเข้าห้องเรียนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา กทม. หากพบนักเรียนที่มีอาการป่วยให้แยกเด็กอยู่ที่ห้องพยาบาลและแนะนำผู้ปกครองให้พาไปพบแพทย์ เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงของการแพร่ระบาดในโรงเรียน ทั้งนี้ สนศ. ได้มีหนังสือขอความร่วมมือเตรียมความพร้อมเฝ้าระวังป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ในสถานศึกษาให้เป็นไปตามคำแนะนำและมาตรการป้องกันควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่สำหรับโรงเรียนและสถานศึกษาของกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข หากพบนักเรียนป่วยให้หยุดเรียนพักอยู่บ้านจนกว่าจะหายเป็นปกติ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเด็กนักเรียนและการระบาดในลักษณะกลุ่มก้อน

กทม. ประสาน BTSC เพิ่มความถี่ตรวจสอบบำรุงรักษาลิฟต์โดยสารในสถานีรถไฟฟ้า BTS
 
นายไทภัทร ธนสมบัติกุล ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) กทม. กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบซ่อมแซมลิฟต์โดยสารและการช่วยเหลือเยียวยาชดเชยให้แก่ผู้โดยสารที่ติดภายในลิฟต์โดยสารรถไฟฟ้า BTS สถานีแบริ่ง (E14) ว่า สจส. ได้ประสาน บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC) ในฐานะผู้รับจ้างเดินรถ แจ้งว่า สาเหตุเกิดจากอุปกรณ์ตรวจสอบสถานการณ์ทํางานของชุดขับเคลื่อนลิฟต์มีปัญหา ทําให้ระบบประมวลผลสั่งการลิฟต์ให้หยุดการเคลื่อนที่ในตําแหน่งระหว่างชั้นจำหน่ายตั๋วกับชั้นพื้นถนน และ BTSC ได้ปิดซ่อมลิฟต์ดังกล่าวทันที หลังจากที่ได้ช่วยเหลือคนออกมาจากลิฟต์และได้เปลี่ยนอุปกรณ์ของชุดขับเคลื่อนลิฟต์ใหม่ พร้อมทดสอบการทํางานเรียบร้อยแล้ว โดยสามารถเปิดใช้งานได้ปกติเมื่อวันที่ 28 เม.ย. 67 เวลา 17.30 น.

ส่วนการช่วยเหลือเบื้องต้น BTSC ได้ปฐมพยาบาลผู้ประสบภัย ณ ห้องปฐมพยาบาลของสถานีแบริ่ง จนผู้โดยสารอาการดีขึ้นและปลอดภัยจนสามารถเดินทางต่อได้ 
     
อย่างไรก็ตาม สจส.ได้ประสานบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (KT) ให้แจ้ง BTSC ในฐานะผู้รับจ้างเดินรถให้เพิ่มความถี่การตรวจสอบ บำรุงรักษา รวมทั้งซ่อมแซมเปลี่ยนอุปกรณ์ชุดขับเคลื่อนลิฟต์ตามรอบระยะเวลาให้เร็วขึ้น และให้เพิ่มพนักงานของบริษัทผู้ผลิตลิฟต์โดยสารให้มีความพร้อมแก้ไขเหตุอย่างรวดเร็ว เพื่อให้สามารถช่วยเหลือผู้โดยสารติดลิฟต์ได้ทันท่วงที พร้อมกำหนดการจัดฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ประจำสถานีรถไฟฟ้าต่าง ๆ ให้สามารถขับเคลื่อนลิฟต์โดยสารในโหมดที่ปลอดภัยได้เอง โดยไม่จําเป็นต้องรอพนักงานของบริษัทผู้ผลิตลิฟต์โดยสาร เพื่อลดระยะเวลาที่ผู้โดยสารติดค้างในลิฟต์

เขตบางรักกำชับผู้ค้าถนนสีลมรักษาความสะอาดพื้นที่ทำการค้า

นางธราพร อำนวยสาร ผู้อำนวยการเขตบางรัก กทม. กล่าวว่า ตามที่สื่อสังคมออนไลน์วิจารณ์สภาพร้านค้าบริเวณถนนสีลมหลังเสร็จสิ้นทำการค้ามีสภาพไม่เรียบร้อย ทั้งเศษอาหาร ถุงขยะ รวมถึงมีคราบสกปรกบนทางเท้า นั้น สำนักงานเขตฯ ได้ตรวจสอบพร้อมให้คำแนะนำแจ้งเตือนผู้ค้าปรับปรุงแก้ไขพื้นที่ให้เกิดความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อย พร้อมกำชับเรื่องการล้างทำความสะอาดพื้นที่ ซึ่งผู้ค้าให้ความร่วมมือดำเนินการปรับปรุงแก้ไขในทันที

อย่างไรก็ตาม กรณีจำหน่ายสินค้าในที่สาธารณะ สำนักงานเขตฯ ได้ดำเนินคดีปรับเป็นพินัย ฐานความผิดตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 แล้ว นอกจากนี้ ได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในบริเวณใกล้เคียงทิ้งขยะเป็นเวลาตามที่กำหนด ตั้งแต่เวลา 18:00 น. เป็นต้นไป พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบกวดขันผู้ทิ้งขยะไม่ตรงตามกำหนดเวลา เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

เขตพระนครตรวจสอบการระบายน้ำในชุมชนท่าเรือแดง-ขอความเห็นชอบสั่งรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำที่สาธารณะ

นายโกศล สิงหนาท ผู้อำนวยการเขตพระนคร กล่าวถึงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวชุมชนท่าเรือแดง ซอยท่าเตียน เนื่องจากพื้นที่สาธารณะถูกปิดกั้นด้วยแผงสังกะสี ส่งผลให้เมื่อฝนตกน้ำไม่ระบายว่า สำนักงานเขตฯ ได้ตรวจสอบการระบายน้ำในซอยดังกล่าว มีท่อระบายน้ำสำหรับรองรับน้ำทิ้งจากอาคารและน้ำฝน ซึ่งการปิดกั้นของสังกะสีไม่ส่งผลกระทบต่อการระบายน้ำแต่อย่างใด รวมทั้งในช่วงฤดูน้ำหลาก สำนักการระบายน้ำ กทม. ได้เรียงกระสอบทรายเป็นแนวป้องกันน้ำท่วมจากแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นประจำทุกปี และอยู่ระหว่างพิจารณาดำเนินการก่อสร้างเขื่อนถาวรต่อไป

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา สำนักงานเขตฯ ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาชุมชนท่าเรือแดงตามขั้นตอนทางกฎหมาย เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนมาโดยตลอด แต่เนื่องจากทายาทเจ้าของที่ดินที่โอนกรรมสิทธิ์ได้มีการโต้แย้งสิทธิ์ จึงทำให้เกิดความล่าช้า อย่างไรก็ตาม ล่าสุดสำนักงานเขตได้มีหนังสือที่ กท 4003/1860 ลงวันที่ 30 เมษายน 2567 ขอความเห็นชอบผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในการออกคำสั่งรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำที่สาธารณะ ตามประกาศคณะปฎิวัติ ฉบับที่ 44 แล้ว