ITMS จัดการจราจรอัจฉริยะ แก้รถติด ก้าวสู่ ‘สมาร์ทซิตี้’

 “เดินทางดี” นโยบายผู้ว่าฯ “ชัชชาติ” นำเทคโนโลยี ITMS ช่วยจัดการจราจรแก้รถติด เดินหน้าขยายเชื่อมโครงข่ายระบบควบคุมสัญญาณไฟ ACT ตั้งศูนย์ควบคุมฯจราจรและความปลอดภัย มุ่งสู่ Bangkok Smart City

นายไทภัทร ธนสมบัติกุล ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง กล่าวถึงการบริหารจัดการจราจรในพื้นที่กรุงเทพฯ ด้วยระบบการจัดการจราจรอัจฉริยะ (ITMS) ว่า จากปัญหาการจราจรในพื้นที่ 1,500 ตร.กม. ของกรุงเทพมหานคร ที่มีประชากร 15 ล้านคนอาศัยอยู่ด้วยความหนาแน่นสูงมาก ประกอบกับวิถีชีวิตชาวเมืองเปลี่ยนแปลงไปมีการใช้รถส่วนตัวเพิ่มมากขึ้น หรือใช้ไรเดอร์สั่งอาหารออนไลน์ ทำให้มียานพาหนะเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่มีถนนใช้สัญจรเท่าเดิม การจะขยายถนนรองรับเป็นเรื่องที่ยากมาก จึงทำให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัด

การบริหารจัดการจราจรให้เดินทางดีปลอดภัยดี ของกรุงเทพมหานครเป็นนโยบายสำคัญของผู้ว่าฯกทม.นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ที่มุ่งเน้นพัฒนาปรับปรุงทั้งในด้านโครงข่ายและการกวดขันวินัยจราจร ซี่งจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีมาช่วยบริหารจัดการจราจรให้เหมาะสมกับสภาพและปริมาณการจราจรที่เปลี่ยนแปลงในพื้นที่นั้นๆ โดยได้นำระบบการจัดการจราจรอัจฉริยะ หรือ ITMS (Intelligent Traffic Management System) เข้ามาใช้จัดการจราจรในพื้นที่นำร่อง ซึ่งสำนักการจราจรและขนส่ง(สจส.) มีภารกิจดำเนินการใน 2 ส่วน คือ การควบคุมสัญญาณไฟจราจรเป็นพื้นที่ (Area Traffic Control : ATC) และการบังคับใช้กฎหมายจราจรอัตโนมัติ (Automation Traffic Enforcement: ATE)

ในส่วนการควบคุมสัญญาณไฟจราจรปัจจุบันในพื้นที่กรุงเทพฯ มีทางแยก 537 แห่งถูกควบคุมด้วยระบบสัญญาณไฟจราจร 2 แบบคือ 1. แบบ Fix Time เป็นระบบที่กำหนดเวลาการเปลี่ยนสัญญาณไฟจราจรไว้ล่วงหน้าแบบคงที่ จำนวน 466 แห่ง และ 2. แบบ Loop Detector ปรับเปลี่ยนสัญญาณไฟอัตโนมัติแบบเก่า จำนวน 71 แห่ง

กรุงเทพมหานครได้มีความร่วมมือกับJICA (Japan International Cooperation Agency) ดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาจราจรในกรุงเทพฯ ด้วยการติดตั้งระบบควบคุมสัญญาณไฟจราจรเป็นพื้นที่ ATC (Area Traffic Control)โดยใช้ระบบสัญญาณไฟจราจรแบบใหม่ คือAdaptive Signaling ที่สามารถปรับเปลี่ยนจังหวะเวลาสัญญาณไฟได้ตามสภาพการจราจรณ เวลานั้นๆ ได้นำร่องติดตั้งระบบ ATC ให้กับทางแยกในพื้นที่บนถนนพหลโยธิน ถนนประดิพัทธ์ ถนนพระรามที่ 6 และถนนราชวิถีจำนวน 13 ทางแยก ผลปรากฏว่า ความล่าช้าในการเดินทาง (Delay Time) ในชั่วโมงเร่งด่วน ลดลง 10% และนอกเวลาเร่งด่วน ลดลง30% ตามลำดับ ซึ่งได้ผลดี กทม. จึงมีแผนจะเพิ่มสัญญาณไฟจราจรแบบ Adaptive Signaling ในปีนี้อีก 72 ทางแยก ปีหน้าและปีต่อไปอีกปีละ 100 แห่ง เพิ่มความคล่องตัวของการจราจรดีขึ้น ซึ่งระบบนี้เป็นส่วนหนึ่งของการบริหารจัดการจราจรด้วย ITMS ที่มีไว้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจราจรและการบริหารจัดการจราจรครอบคลุมให้ทั่วกรุงเทพฯ

นายไทภัทร กล่าวอีกว่า นอกจากจะใช้ระบบสัญญาณไฟจราจรในการบริหารจัดการจราจรแล้ว เรายังใช้ระบบกล้อง CCTV ในการบังคับใช้กฎหมายจราจรอัตโนมัติ (Automation Traffic Enforcement : ATE) โดยติดตั้ง AI กับกล้อง CCTV ให้สามารถตรวจจับการฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร และเครื่องหมายจราจรบริเวณทางแยก ซึ่งได้ดำเนินการแล้ว 22 ทางแยก และยังมีระบบกล้อง CCTV เสริมสร้างความปลอดภัยให้คนเดินข้ามในบริเวณทางแยก ซึ่งได้ดำเนินการแล้ว 20 แห่ง และมีแผนในการขยายจุดติดตั้งเพิ่มขึ้นอีกในปีต่อๆไป

การนำระบบกล้อง CCTV มาช่วยในการบังคับใช้กฎหมายจราจร ไม่เพียงเฝ้าตรวจดูพฤติกรรมผู้ขับขี่บนถนนเท่านั้น แต่ได้มีการตรวจจับการฝ่าฝืนขับขี่บนทางเท้าด้วย ซึ่งได้ดำเนินการแล้ว 15 จุด สามารถตรวจจับได้มากกว่า62,000 รายการ ส่งให้สำนักเทศกิจและฝ่ายเทศกิจเขตออกหนังสือเรียกผู้กระทำผิดมาพบเจ้าพนักงาน ตามพ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมืองพ.ศ.2535 เพื่อว่ากล่าวตักเตือนหรือจับปรับเพื่อลดพฤติกรรมการกระทำผิดในพื้นที่นั้นๆอย่างไรก็ดี การติด AI ให้กล้อง CCTV เป็นการลงทุนกับเทคโนโลยี จึงต้องทำพื้นที่นำร่องเพื่อทดสอบก่อนให้มั่นใจว่าใช้งานได้ผลจริงโดยทำแล้วที่ราชประสงค์โมเดลได้ผลดี จึงได้นำเสนอของบประมาณขยายไปพื้นที่อื่นๆ ให้ทั่วกทม.

ทั้งนี้ ระบบ ITMS จะเข้ามาช่วยจัดการจราจรของกรุงเทพฯ มากขึ้น ข้อมูลจราจรทุกทางแยกจะส่งมารวมที่ศูนย์ IOC (Intelligent Operation Control) เป็นการควบคุมการปฏิบัติการอัจฉริยะ ข้อมูลทุกอย่างจะส่งมารวมที่ศูนย์นี้ โดย สจส. ได้รับงบประมาณดำเนินโครงการติดตั้งศูนย์ควบคุมและบริหารจัดการระบบเทคโนโลยีจราจรและความปลอดภัยของกรุงเทพมหานคร (Command Center Room) ระยะที่ 1 ขึ้นที่ อาคารธานีนพรัตน์กทม.2 เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลของระบบต่างๆของสำนักการจราจรและขนส่ง สำนักการระบายน้ำ สำนักการวางผังและพัฒนาเมืองรวมถึงสำนักสิ่งแวดล้อมในส่วนสภาพอากาศและสถานการณ์ฝุ่น มารวมไว้ เพื่อให้การบริหารจัดการจราจรเป็นระบบที่มีประสิทธิภาพสูงประโยชน์จะเกิดกับประชาชนในการใช้ข้อมูลเพื่อการเดินทางได้อย่างสะดวกปลอดภัย และให้ประชาชนได้ปรับตัวค่อยๆ เข้าสู่ Smart City ในอนาคต

 



ที่มา:  นสพ.สยามรัฐ ฉบับวันที่ 15 เม.ย. 2567

แชร์ข่าว:
กรุงเทพฯ มีอะไร อัพเดทข่าวสารฉับไว กิจกรรมที่น่าสนใจ และมีส่วนร่วมได้ รวมไว้ให้ที่นี่

©2022 สงวนลิขสิทธิ์ กรุงเทพมหานคร

สำนักงานประชาสัมพันธ์ สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร 173 ถนนดินสอ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กทม. 10200