– กทม.ตั้งจุดเฝ้าระวังป้องกันฝ่าฝืนคำสั่งห้ามอยู่อาศัย หรือดำเนินกิจการในโรงงานซุกกากแคดเมียมย่านบางซื่อ
นายเจษฎา ประภาสะวัต ผู้อำนวยการเขตบางซื่อ กทม.กล่าวถึงความคืบหน้าการประสานความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามและเฝ้าระวังผลกระทบจากการตรวจพบกากแคดเมียมในโรงงานย่านบางซื่อว่า จากกรณีที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมและกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ผบก.ปทส.) ตรวจสอบพบกากแคดเมี่ยมภายในบริษัท ล้อโลหะไทย เมททอล จำกัด ถนนประชาราษฎร์ แขวง/เขตบางซื่อ ผู้อำนวยการเขตบางซื่อได้ใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยออกประกาศสำนักงานเขตบางซื่อ เรื่อง ห้ามอยู่อาศัย หรือดำเนินกิจการในพื้นที่ที่กำหนด โดยห้ามเข้าอยู่อาศัย หรือดำเนินกิจการภายในพื้นที่บริษัท ล้อโลหะไทย เมททอล จำกัด และจัดกำลังเจ้าหน้าที่เทศกิจร่วมกับกำลังเจ้าหน้าจากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม.ตั้งจุดเฝ้าระวังป้องกันไม่ให้มีการฝ่าฝืนคำสั่งดังกล่าว
นายสุริยชัย รวิวรรณ รองผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม.กล่าวว่า สปภ.ได้จัดทีมปฏิบัติการตอบโต้เหตุสารเคมีและวัตถุอันตราย พร้อมรถกู้ภัยสารเคมีและวัตถุอันตราย และรถไฟฟ้าส่องสว่าง สนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของผู้อำนวยการเขตบางซื่อในฐานะผู้ช่วยผู้อำนวยการกรุงเทพมหานคร โดยดำเนินการร่วมกับเจ้าหน้าที่ของกรมโรงงานอุตสาหกรรม สำนักงานเขตบางซื่อ สำนักอนามัย สำนักสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบกากแคดเมียมที่อยู่ในพื้นที่โรงงานของบริษัท ล้อโลหะไทย เมททอล จำกัด ซึ่งจากการตรวจสอบพบกากแคดเมียมเป็นจำนวนมาก แต่ยังไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่บริเวณใกล้เคียงแต่อย่างใด และหลังจากที่มีประกาศสำนักงานเขตบางซื่อ เรื่อง ห้ามเข้าไปอยู่อาศัย หรือดำเนินกิจการใดในพื้นที่ บริษัท ล้อโลหะไทย เมททอล จำกัด จึงได้จัดกำลังเจ้าหน้าร่วมกับเทศกิจสำนักงานเขตบางซื่อตั้งจุดเฝ้าระวังป้องกันไม่ให้มีการฝ่าฝืนคำสั่งดังกล่าว หากประชาชนพบเหตุเกี่ยวกับสารเคมี หรือวัตถุอันตราย สามารถแจ้งเหตุผ่านโทรศัพท์สายด่วน 199 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
– กทม.เร่งผู้รับจ้างปรับปรุงทางเท้าถนนโชคชัย 4 ให้แล้วเสร็จตามสัญญา พร้อมกำชับปฏิบัติตามมาตรฐานการก่อสร้าง
นายธวัชชัย นภาศักดิ์ศรี ผู้อำนวยการสำนักการโยธา (สนย.) กทม.กล่าวกรณีมีข้อสังเกตการปรับปรุงทางเท้าโชคชัย 4 ล่าช้าว่า สนย.ได้ตรวจสอบงานปรับปรุงทางเท้าถนนโชคชัย 4 ช่วงจากถนนลาดพร้าว – ถนนโชคชัย 4 แยก 84 เริ่มสัญญาเมื่อวันที่ 27 ธ.ค.66 สิ้นสุดสัญญาวันที่ 23 มิ.ย.67 รูปแบบการปรับปรุง ประกอบด้วย งานปรับปรุงคันหินและงานปรับปรุงทางเท้ากระเบื้องซีเมนต์ปูพื้น ปัจจุบันงานก่อสร้างปรับปรุงไปแล้วร้อยละ 45 ช้ากว่าแผนงานร้อยละ 10 อย่างไรก็ตาม สนย.ได้แจ้งผู้รับจ้างให้เร่งจัดหาแรงงานเพิ่มเติมให้เพียงพอและให้ดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จตามสัญญา ทั้งนี้ ระหว่างการก่อสร้างได้กำชับผู้รับจ้างให้เข้มงวดปฏิบัติตามมาตรฐานการก่อสร้างอย่างเคร่งครัด ห้ามวางกองวัสดุกีดขวางทางเดินเท้า โดยให้เก็บเศษวัสดุกลับไปทุกวัน กองทรายต้องเก็บใส่ถุง หรือภาชนะให้เรียบร้อย ก่อนนำมาใช้งาน พร้อมมีมาตรการป้องกันความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกในการสัญจรของประชาชนอย่างเคร่งครัดต่อไป
– กทม.ประสาน รฟม.เข้มงวดตรวจสอบความปลอดภัย-เพิ่มมาตรการป้องกันอุบัติเหตุจากการเดินรถไฟฟ้า
นายไทภัทร ธนสมบัติกุล ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) กทม.กล่าวถึงการกำหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากการเดินรถรถไฟฟ้าว่า สจส.ได้ประสานความร่วมมือการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ซึ่งเป็นผู้ให้สัมปทานเอกชนในการบริหารจัดการเดินรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลือง รวมถึงรถไฟฟ้าสายอื่น ๆ ให้กำกับดูแลและตรวจสอบความปลอดภัยของการบริหารจัดการเดินรถไฟฟ้าที่อยู่ในความรับผิดชอบให้เกิดความปลอดภัยและป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากการเดินรถไฟฟ้าในอนาคต
สำหรับการกำหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาเหตุขัดข้องจากการเดินรถไฟฟ้าและการช่วยเหลือประชาชนในด้านต่าง ๆ รฟม.ได้กำหนดมาตรการป้องกันอุปกรณ์จากตัวรถไฟฟ้าร่วงหล่น โดยปรับปรุงการออกแบบแกนล้อใหม่และตรวจสอบความร้อนจากแถบวัดอุณหภูมิบริเวณแกนล้อโดยใช้กล้องตรวจจับทุก ๆ 2 วัน รวมถึงเพิ่มความถี่การตรวจสอบทุก ๆ 15 วัน/ขบวน ขณะเดียวกันได้เพิ่มมาตรการป้องกันการทำงานที่อาจส่งผลกระทบต่อโครงสร้างคานทางวิ่ง นอกจากนั้น ยังเตรียมการอพยพผู้โดยสารกรณีเกิดเหตุขัดขัดข้อง หรืออุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยจัดให้มีการฝึกซ้อมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น หน่วยกู้ชีพฉุกเฉิน หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด เจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นต้น รวมถึงประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบข่าวสารผ่านช่องทางต่าง ๆ อย่างทันท่วงที และได้ปรับรูปแบบการเดินรถตั้งแต่เกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบสาเหตุที่แน่ชัดของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น รวมถึงการเยียวยาผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบโดยปรับลดค่าโดยสารลง และเปิดรับแจ้งผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ต่าง ๆ เพื่อพิจารณาเยียวยาตามความเหมาะสมต่อไป