กทม.เร่งพัฒนาคุณภาพศูนย์เด็กเล็ก

 กทม.พัฒนาคุณภาพศูนย์เด็กเล็กปี 2567 ปรับกายภาพ 89 ศูนย์ ทำห้องปลอดฝุ่น-แก้กฎหมายเกี่ยวข้อง

นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพ มหานคร เปิดเผยแนวทางการพัฒนาศูนย์พัฒนาเด็กก่อน วัยเรียน (ศพด.) ในปี 2567 ว่า กทม.แบ่งดำเนินงานเป็น 3 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มที่ 1 บริหารจัดการและปรับปรุงด้านกายภาพของ ศพด. จำนวน 89 ศูนย์ ขณะนี้ มีแผนดำเนินการ แล้ว 27 ศูนย์ ปรับปรุงแล้ว 5 ศูนย์ ประกอบด้วย เขตบางขุนเทียน 2 ศูนย์ ได้แก่ ศพด.ชุมชนเพชรทองคำ และ ศพด.ชุมชนสามัคคี, เขตบางนา ได้แก่ ศพด.ชุมชนหมู่บ้านซอยเชลียง 1, เขตสาทร 2 ศูนย์ ได้แก่ ศพด.ชุมชนบ้านมั่นคงสวนพลู และ ศพด.ชุมชนพัฒนาบ่อนไก่ นอกจากนี้ ยังได้รับงบประมาณในการปรับปรุงเพิ่มอีก 14 ศูนย์ และได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนในรูปแบบ CSR จำนวน 8 ศูนย์ อยู่ระหว่างดำเนินการปรับปรุง โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จ ภายในปีนี้ ส่วนอีก 28 ศูนย์ อยู่ระหว่างขอจัดสรรงบประมาณ จำนวน 13,682,291.83 บาท และอีก 10 ศูนย์ อยู่ระหว่าง ประเมินค่าใช้จ่าย และยังมีอีก 34 ศูนย์ อยู่ระหว่างดำเนินการ แบ่งเป็นติดตามรวบรวมข้อมูล 29 ศูนย์ อยู่ระหว่างขออนุญาต 3 ศูนย์ ได้แก่ ศพด.เขตบางซื่อ ซึ่งเป็นพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย การเคหะแห่งชาติ และพื้นที่เอกชน รวมถึง มีอีก 2 ศูนย์ ซึ่งเจ้าของพื้นที่ยังไม่ยินยอมให้ใช้พื้นที่

นายศานนท์กล่าวอีกว่า ในการพัฒนาปรับปรุงด้าน กายภาพ ศพด. กทม.มีแผนจัดทำห้องปลอดฝุ่น 803 ห้อง ใน 241 ศูนย์ แบ่งเป็นห้องปลอดฝุ่นติดตั้งเครื่องปรับอากาศ 227 ห้อง ปัจจุบันดำเนินการแล้วประมาณร้อยละ 33.47 และ ห้องที่ไม่ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ 532 ห้อง ดำเนินการแล้วร้อยละ 66.26 ซึ่งในจำนวนนี้ มีศูนย์ที่พร้อมติดตั้งเครื่องปรับอากาศเพิ่ม 95 ห้อง ทั้งนี้ สาเหตุที่ศูนย์บางแห่งไม่ติดตั้ง เครื่องปรับอากาศ เพราะกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายและค่าบำรุงรักษา รวมถึงสภาพห้องไม่เหมาะกับการติดตั้ง กทม.อยู่ระหว่างหาทางแก้ไข โดยให้หน่วยงานเกี่ยวข้องสำรวจขนาด BTU ของเครื่องปรับอากาศให้เหมาะสมกับการติดตั้งในศูนย์เด็กเล็ก และตรวจสอบเครื่องปรับอากาศที่ติดตั้งไปแล้วให้พร้อมใช้งาน

ส่วนแนวทางดำเนินงาน กลุ่มที่ 2 คือ การปรับปรุง กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคมในประเด็นต่างๆ เพื่อสามารถจัดตั้งศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนในชุมชนได้ เนื่องจากบริบทเมืองเปลี่ยนแปลงไป มีชุมชนย่อยเกิดขึ้นใหม่และพ้นสภาพ ต้องเก็บข้อมูลและมีการขออนุญาตจัดตั้งเป็นชุมชนก่อน เพื่อจัดตั้ง ศพด.ในชุมชนต่อไปได้ ซึ่งต้องผ่านความเห็นชอบจากคนในชุมชนด้วยโดยการยกร่างกฎหมายที่สำคัญ ได้แก่ 1.ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง กองทุนชุมชน เข้มแข็ง พ.ศ. … เพื่อส่งเสริมการกระจายอำนาจให้กับชุมชนในการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ขึ้น ส่งเสริมภาคประชาชนสามารถกำหนดและบริหารงบประมาณ กทม.ได้ด้วยตนเอง คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2568 2.ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การจัดตั้งศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน พ.ศ… โดยแยกออกมาจากระเบียบกรุงเทพมหานครว่าด้วยชุมชนและกรรมการชุมชน พ.ศ. 2564 คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ 3.แก้ระเบียบกรุงเทพมหานคร เรื่อง ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการสนับสนุนการพัฒนาชุมชน พ.ศ… ว่าด้วยการปรับปรุงอัตราค่าตอบแทนอาสาสมัคร ผู้ดูแลเด็ก คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน มิ.ย. 2567 4.แก้ระเบียบกรุงเทพมหานครว่าด้วยชุมชนและกรรมการชุมชน พ.ศ… เรื่องการพ้นสภาพการเป็นชุมชน แก้ไขเกณฑ์อายุอาสาสมัครผู้ดูแลเด็ก เป็นอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 70 ปี คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน ส.ค. 2567 5.แก้ไขหลักเกณฑ์การจัดตั้งชุมชนรูปแบบพิเศษ ตามระเบียบกรุงเทพมหานครว่าด้วยชุมชนและกรรมการชุมชน พ.ศ.2564 เช่น หลักเกณฑ์การจัดตั้ง ต้องมีผู้ยินยอมไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนบ้านในชุมชน และปรับข้อความให้ ชุมชนที่บริหารจัดการตามเจตนารมณ์สามารถจัดตั้งชุมชนได้ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน ส.ค. 2567 โดยการแก้ไข กฎหมายดังกล่าว อยู่ระหว่างดำเนินการตามความเห็นของสำนักงานกฎหมายและคดี เพื่อให้เป็นไปตาม พระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมาย และการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมายพ.ศ. 2562 กำหนดให้ต้องจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของผู้เกี่ยวข้อง

การดำเนินงาน กลุ่มที่ 3 กทม.กำลังเตรียมความพร้อมเปิดชั้นเรียนอนุบาลที่ขยายเพิ่ม จากเดิมมีเพียงระดับอนุบาล 1-2 ปัจจุบันได้ขยายเป็นระดับอนุบาล 1-3 รองรับเด็กอายุ 3-5 ปี ประจำปีการศึกษา 2567 จำนวน 191 โรงเรียน หรือ 215 ห้องเรียน รับเด็กอนุบาล 1 ได้ จำนวน 6,405 คน และอยู่ระหว่าง ขอจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาล และงบประมาณจาก กทม. เพื่ออุดหนุน เด็กชั้นอนุบาล 1 ต่อไป คาดว่าจะจัดสรรงบประมาณเงินอุดหนุนจากรัฐบาลให้แก่สำนักงานเขตได้ภายในเดือน เม.ย.นี้ นอกจากนี้ จะมีการจัดสรรครูผู้ช่วยให้เพียงพอทั้ง 215 ห้องเรียน โดยคัดเลือกเป็นกรณีพิเศษ คาดว่าจะพร้อมปฏิบัติงานได้วันที่ 13 พ.ค. รวมถึง จัดหาพี่เลี้ยง 191 คน โดยวิธีเกลี่ยจากห้องเรียนที่มีนักเรียนน้อยกว่า 10 คน และจ้างเพิ่มอีก 41 คน คาดว่าจะดำเนินการจ้างได้ภายใน 15 พ.ค. 2567

 



ที่มา:  นสพ.แนวหน้า ฉบับวันที่ 11 เม.ย. 2567

แชร์ข่าว:
กรุงเทพฯ มีอะไร อัพเดทข่าวสารฉับไว กิจกรรมที่น่าสนใจ และมีส่วนร่วมได้ รวมไว้ให้ที่นี่

©2022 สงวนลิขสิทธิ์ กรุงเทพมหานคร

สำนักงานประชาสัมพันธ์ สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร 173 ถนนดินสอ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กทม. 10200