ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ชวนรวมพลังปิดไฟ 1 ชั่วโมง ลดโลกร้อน พร้อมกับทั่วโลก เสาร์ 23 มี.ค. 2-3 ทุ่มครึ่ง
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เชิญชวนประชาชนและทุกภาคส่วนร่วมกิจกรรมปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน ปี 2567 (60+ Earth Hour 2024) รณรงค์และกระตุ้นให้ทุกคนเห็นความสำคัญและร่วมกันลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็น โดยในปี 2567 องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF) ประกาศให้วันเสาร์ที่ 23 มีนาคม 2567 เป็นวันจัดกิจกรรม Earth Hour 2024 ซึ่งกรุงเทพมหานคร ได้ร่วมภาคีเครือข่าย ภาครัฐ เอกชน ร่วมกันรณรงค์การลดภาวะโลกร้อนมาอย่างต่อเนื่อง
“เรื่องสภาวะโลกร้อนเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว และอยู่ใกล้ตัวเราจริงๆ สาเหตุสำคัญของการเกิดสภาวะโลกร้อนก็คือการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งหัวใจสำคัญของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกก็มาจาก 2 สาเหตุหลักๆ คือ การใช้พลังงาน ในอาคารต่างๆ และเครื่องยนต์ที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมากิจกรรม Earth Hour คือการรวมพลังกันปิดไฟที่ไม่จำเป็น ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้า ร่วมกันลดใช้พลังงานทุกชนิดเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ซึ่งกรุงเทพมหานครร่วมกับเมืองใหญ่กว่า 7,000 เมืองทั่วโลก อย่างเมื่อปี 2566 จากการคำนวณของการไฟฟ้านครหลวง เราสามารถลดการใช้ไฟฟ้าได้ถึง 36 เมกะวัตต์ เมื่อเทียบกับวันเสาร์ก่อนหน้าของวันจัดกิจกรรม ทำให้เราสามารถลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึงประมาณ 5.2 ตัน นับเป็นจำนวนที่ไม่น้อยเลย แต่หัวใจจริงๆ คงไม่ใช่ จำนวนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ลดลง แต่เป็นการสร้างความตระหนักรู้ ให้ทุกคนเห็นถึง ความสำคัญและมาช่วยปกป้องโลกลดโลกร้อน เพราะจริงๆ แล้ว โลกคือบ้านหลังเดียวของเรา ขอเชิญทุกคนช่วยกัน ในวันเสาร์ที่ 23 มีนาคมนี้ เวลา 20.30-21.30 น. ร่วมกันปิดไฟ เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ถอดปลั๊กออก เพื่อให้เราตระหนักรู้ และตื่นตัวถึงการลดการเกิดก๊าซเรือนกระจกซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของภาวะ โลกร้อน” ผู้ว่าฯ ชัชชาติกล่าว
สำหรับกิจกรรม 60 Earth Hour กรุงเทพมหานคร ได้ร่วมกับองค์การ WWF ประเทศไทย และภาคีเครือข่าย รณรงค์เชิญชวนประชาชนร่วมกิจกรรมปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน (60 Earth Hour) ตั้งแต่ปี 2551 ปัจจุบัน 190 ประเทศ 7,000 เมืองทั่วโลก ด้วยการปิดไฟที่ไม่จำเป็น เป็นเวลา 1 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 20.30-21.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ในปี 2567 กรุงเทพมหานคร ร่วมกับภาคี เครือข่ายเดินหน้ารณรงค์กิจกรรมปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน ในวันเสาร์ที่ 23 มีนาคม ขอความร่วมมือผู้ประกอบการ ร้านค้า และประชาชนลดการใช้พลังงานและปิดไฟที่ไม่จำเป็น เช่น ไฟประดับ ไฟอาคาร ป้ายโฆษณา ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ใช้งาน ลดใช้เครื่องปรับอากาศในอาคารบ้านเรือน ตั้งแต่เวลา 20.30-21.30 น. สถานที่ปิดไฟเชิงสัญลักษณ์ในปีนี้ ประกอบด้วย 5 สถานที่หลัก 1.วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) พระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร 2.วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เขตบางกอกใหญ่ 3.เสาชิงช้า เขตพระนคร 4.สะพานพระราม 8 เขตบางพลัด และ 5.ภูเขาทอง (วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร) เขตป้อมปราบฯ รวมถึงภาคีเครือข่าย ผู้ประกอบการเจ้าของอาคาร/สถานที่ พื้นที่กรุงเทพฯ ทั้ง 50 เขต ร่วมปิดไฟเชิงสัญลักษณ์ด้วย เชิญชวนทุกคนร่วมกิจกรรมและร่วมแชร์การมีส่วนด้วยการติดแฮชแท็ก คำว่า #EarthHour หรือ #BiggestHourForEarth หรือ #MyHourForEarth
บรรยายใต้ภาพ
ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม.
ที่มา: นสพ.แนวหน้า ฉบับวันที่ 21 มี.ค. 2567