ตร.เผยเด็กสติครบถ้วน ชัชชาติกำชับครูค้นอาวุธ
แฉปม ม.2 โรงเรียนดังย่านพัฒนาการแทงกันดับ มือมีดอ้างถูกไถเงินช่วงเที่ยง ครั้งละ 20 บาท และชกต่อยเป็นประจำนานกว่า 2 สัปดาห์ จึงเตรียมมีดปอกผลไม้ติดตัวมา ก่อนลงมือโดนรีดอีก สุดทนชักมีดกะซวกคอ เหยื่อวิ่งหนีตายจากอาคารเรียน มือมีดหนีไม่รอดจะแทงซ้ำ แต่ครูมาล็อกตัวไว้ได้ ตำรวจยันสติสัมปชัญญะครบถ้วน ไม่เคยขึ้นโรงพักอย่างที่เป็นข่าว แต่ยอมรับเคยสูบกัญชา 1 ครั้ง “บิ๊กท็อป” แสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสีย เตรียมส่งสหวิชาชีพหาสาเหตุแท้จริง “ผู้ว่าฯ ชัชชาติ” เผยผู้ก่อเหตุไม่มีหลักฐานยืนยันเป็นเด็กพิเศษ เร่งออกมาตรการตรวจค้นอาวุธ 100% ก่อนเข้าโรงเรียนทันที แนะครูสังเกตพฤติกรรมเด็ก หวั่นเกิดเหตุซ้ำ ครูผู้สอนชี้ผู้ก่อเหตุเป็นเด็กสมาธิสั้น ก่อนนำตัวส่งตรวจว่าเป็นเด็กพิเศษหรือไม่ ตำรวจแจ้ง 2 ข้อหาหนัก
เมื่อเวลา 08.40 น. วันที่ 29 ม.ค. ร.ต.อ.พยัคฆ์สยาม ผู้มีสัตย์ รอง สว.(สอบสวน) สน.คลองตัน รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาท มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ภายในโรงเรียนแห่งหนึ่งย่านซอยพัฒนาการ แขวงและเขตสวนหลวง กทม. ไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผบก.น.5 พ.ต.อ.วชิรากรณ์ วงศ์บุญ ผกก.สน.คลองตัน มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุ อยู่บริเวณลานอเนกประสงค์กลางโรงเรียน พบ ด.ช.เอ (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2/2 นอนจมกองเลือด หายใจรวยริน เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันปฐม พยาบาล ก่อนนำตัวส่ง รพ.วิภาราม และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ที่เกิดเหตุพบมีดปอกผลไม้ยาวประมาณ 5 นิ้ว ตกอยู่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วน ด.ช.ต่าย (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี ชั้น ม.2/3 ผู้ก่อเหตุถูกจับกุมตัวได้ในเวลาต่อมา ซึ่งเบื้องต้นมีลักษณะคล้ายเป็นเด็กพิเศษ
นายศราวุธ สวัสดิ์พล เจ้าหน้าที่ กู้ภัย อายุ 45 ปี เปิดเผยว่า มาถึงจุดเกิดเหตุได้ทำการห้ามเลือด และทำ CPR เพื่อช่วยเหลือทันที ด.ช.เอ ผู้บาดเจ็บหมดสติและชีพจรอ่อน มีแผลฉกรรจ์ 2 จุด ที่บริเวณคอด้านขวา และท้ายทอย และมีเลือดนองอยู่ทั่วบริเวณ เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันปั๊มหัวใจตั้งแต่ที่โรงเรียน ไปจนถึงโรงพยาบาลก่อนที่แพทย์จะช่วยยื้อชีวิตไม่สำเร็จและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ด้านเจ้าหน้าที่ของโรงเรียน เล่าว่า ช่วงเวลาเกิดเหตุประมาณ 08.30 น. เห็นเด็กที่เสียชีวิตวิ่งลงมาจากอาคารเรียน ในสภาพที่มีเลือดเต็มหัว และล้มลงบริเวณกลางสนามโรงเรียน ทางเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนจึงได้เข้าให้ความช่วยเหลือในการห้ามเลือด ก่อนเห็นเด็กผู้ก่อเหตุวิ่งตามลงมาและถูกครูล็อกตัวไว้ ส่วนลักษณะนิสัยของเด็กที่ก่อเหตุ เป็นเด็กพิเศษ มีนิสัย ไม่ค่อยพูดกับใครแต่ไม่ถึงกับขรึม มีเพื่อนและหยอกล้อกันปกติ ซึ่งช่วงเช้าก่อนเกิดเหตุไม่พบเด็กมีอาการผิดปกติ มาโรงเรียนเหมือนเช่นเคย จากข้อมูล เด็กทั้ง 2 ไม่ได้เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน ไม่สนิทกัน และไม่ทราบสาเหตุว่าทะเลาะกันเรื่องอะไร
รายงานข่าวแจ้งว่า ในช่วงเวลาเกิดเหตุเป็นช่วงหลังเข้าแถวเคารพธงชาติและปล่อยแถวขึ้นห้องเรียนแล้ว ขณะนั้นผู้ก่อเหตุกับผู้เสียชีวิตมีการหยอกล้อกันบนอาคารเรียน ทำให้ผู้ก่อเหตุเกิดความไม่พอใจ จึงใช้มีดปอกผลไม้ที่เตรียมมาแทงเข้าที่บริเวณหลังคอของผู้เสียชีวิต จากนั้นผู้เสียชีวิตวิ่งหนีลงมาจากอาคาร และผู้ก่อเหตุได้วิ่งตามมาแทงซ้ำที่บริเวณคอด้านขวา ก่อนที่ผู้เสียชีวิตจะล้มลงจมกองเลือดดังกล่าว
ด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวว่า เบื้องต้นได้ทราบว่ามีเหตุเกิดขึ้นที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งเป็นเด็กชั้น ม.2 แต่ยังไม่ได้รับการยืนยันว่าเป็นเด็กพิเศษหรือไม่ ข้อมูลเบื้องต้นทราบเพียงว่า เด็กอยู่ชั้น ม.2 ต่างห้องเรียนกัน ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของ เด็กที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ทางกระทรวงฯ จะส่งสหวิชาชีพเข้าประสานงานกับทางโรงเรียน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยงานในพื้นที่ต่อไป
ต่อมาเวลา 12.30 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. นำคณะลงพื้นที่โรงเรียนเกิดเหตุสลด โดยนายชัชชาติ กล่าวว่า จากหลักฐานที่เรามีผู้ก่อเหตุไม่ได้เป็นเด็กพิเศษและไม่ได้เข้าคอร์สเรียนเด็กพิเศษ ไม่มีเอกสารยืนยัน แต่ที่พูดกันว่าเขาเป็นเด็กพิเศษอาจจะมาจากการสังเกต ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ต้องระวัง เนื่องจากเรามีเด็กพิเศษอยู่ในโรงเรียนกทม. หลายคน อาจจะกลายเป็นว่า ทุกคนกลัวไปกันหมด ขออย่าเอามาเป็นประเด็น อยากให้รอการสืบสวนให้ชัดเจนว่าปัญหามาจากอะไร รวมถึงเรื่องการ บูลลี่ด้วย
สำหรับมาตรการป้องกันเหตุ จะต้องตรวจสอบอาวุธอย่างเข้มข้นก่อนเข้าโรงเรียน และในโรงเรียนด้วย โดยโรงเรียนนี้มีปัญหาเยาวชนจากด้านนอกมีพฤติ กรรมเกเร ผู้ปกครองให้ความเห็นว่าไม่อยากให้แต่งชุดไพรเวต เพราะไม่สามารถแยกออกจากเด็กเกเร ซึ่งวันไหนที่โรงเรียนให้เด็กแต่งไพรเวตก็จะมีเด็กเกเรมาคุกคาม สำหรับการถอดบทเรียน สิ่งแรกคือการตรวจสอบที่มาของอาวุธ นำเข้ามาโรงเรียนได้อย่างไร อีกส่วนคือการแยกพฤติกรรมที่ต้องได้รับการบำบัด เราต้องสร้างความไว้วางใจให้เด็กกล้าเข้ามาเล่าให้ฟัง หาช่องทางที่สื่อสารกับเราได้อย่างรวดเร็ว
ขณะที่การสร้างความน่าเชื่อมั่น เป็นความรับผิดชอบของผู้ว่าฯ กทม.โดยตรงที่ต้องออกนโยบาย มาตรการ และข้อปฏิบัติให้เข้มแข็ง เรามีนักเรียนที่ต้องดูแล 250,000 คน 437 โรงเรียนสังกัด กทม. ทั้งนี้มาตรการเร่งด่วนต้องประสานงานเทศกิจ และตำรวจเข้ามาช่วยดูแลตรวจอาวุธ คุยกับเด็ก การเข้าไปดูในชุมชนที่มีปัญหา รวมถึงการขายน้ำกระท่อมรอบโรงเรียน แม้จะเป็นเรื่องปลายเหตุแต่ก็ทำให้เกิดเหตุได้ ส่วนนักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเป็นบุคลากรที่ กทม.ขาดอยู่นั้น เบื้องต้นอาจจะยังไม่ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญมาดูแลโดยตรง แต่ครูควรจะฝึกสังเกตพฤติกรรมเด็ก เพื่อลดภาวะเครียด และทำให้เด็กกล้าเข้ามาพูดคุย มากขึ้น
ที่ศาลาว่าการ กทม. เสาชิงช้า เขตพระนคร พญ.วันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงเรื่องดังกล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น สาเหตุของการก่อเหตุ คาดว่าเด็กนักเรียนที่ก่อเหตุโดนกลั่นแกล้งอย่างต่อเนื่องมา 2 สัปดาห์ จึงมีความคับแค้นใจ อย่างไรก็ตามขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบหาข้อเท็จจริงที่แน่ชัด สำหรับการประเมินจากคุณครูผู้สอน ได้ให้ความเห็นว่าเด็กนักเรียนผู้ก่อเหตุเป็นเด็กสมาธิสั้น ไม่นิ่ง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญไปสอบสวนที่ สน.คลองตัน พร้อมกับผู้ปกครอง เพื่อตรวจสอบว่ามีพฤติ กรรมเป็นเด็กพิเศษหรือไม่
พ.ต.อ.วชิรากรณ์ วงศ์บุญ ผกก.สน.คลองตัน กล่าวว่า เท่าที่พูดคุยนักเรียนที่ก่อเหตุให้การได้ปกติ ไม่มีอาการเป็นลักษณะเด็กพิเศษ เมื่อสอบถามจากทางโรงเรียนก็ไม่มีประวัติการรักษา กฎหมายจึงไม่สามารถยืนยันได้ว่า เป็นเด็กที่มีปัญหาด้านสุขภาพจิต ซึ่งต้องส่งให้แพทย์ไปตรวจสอบ การสอบถามถึงสาเหตุการก่อเหตุ เบื้องต้นผู้ก่อเหตุให้การว่า มีปัญหาทะเลาะวิวาทกับนักเรียนผู้เสียชีวิต แต่ยังไม่ให้รายละเอียดเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามตำรวจได้ประสานทางสหวิชาชีพและผู้ปกครองเข้าร่วมสอบปากคำเด็กผู้ก่อเหตุเพิ่มเติม เบื้องต้นคาดว่าจะแจ้งข้อกล่าวหากับนักเรียนผู้ก่อเหตุคือ ฆ่าผู้อื่น และพกพาอาวุธมีด
ต่อมาเมื่อเวลา 15.50 น. พ.ต.อ. วชิรากรณ์ เปิดเผยภายหลังสอบปากคำผู้ก่อเหตุว่า สอบปากคำเด็กและพยานทั้งคุณครูที่เห็นเหตุการณ์ และแม่ผู้เสียชีวิต สำหรับสาเหตุการก่อเหตุ เกิดจากความคับแค้นใจ ที่ถูกผู้ตายบังคับขอเงินผู้ก่อเหตุในช่วงเที่ยง ครั้งละ 20 บาท อ้างว่าจะนำไปซื้อบุหรี่ และมีการชกที่ศีรษะและใบหน้า เป็นแบบนี้ประมาณ 3-4 ครั้งในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยความคับแค้นใจจึงไปซื้อมีดพกติดตัวมาโรงเรียนในเช้าวันนี้ก่อนก่อเหตุดังกล่าว
จากการสอบปากคำพบว่าพฤติกรรมของเยาวชน 14 ปี มีสติสัมปชัญญะเต็ม 100% สามารถตอบคำถามได้ชัดเจน นักจิตวิทยาและบุคคลที่ร่วมสอบปากคำลงความเห็นว่าเด็กมีสภาพจิตที่ปกติ แต่ในทางคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งผู้ก่อเหตุไปตรวจสุขภาพจิตอีกครั้ง ตรวจปัสสาวะไม่พบสารเสพติดในร่างกาย แต่เจ้าตัวยอมรับว่า เคยดูดกัญชา 1 ครั้งเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ทั้งนี้ยืนยันว่าผู้ก่อเหตุไม่ได้มีประวัติเข้าออกสถานีตำรวจเป็นประจำตามที่เป็นกระแสข่าว
ด้านนางบวรลักษณ์ แก้วกล้าปัญญาเจริญ ผู้อำนวยการโรงเรียน กล่าวว่า ทางโรงเรียนได้มีมาตรการสุ่มตรวจอาวุธนักเรียนอยู่บ่อยครั้ง แต่จากเหตุ การณ์ที่เกิดขึ้นเชื่อว่าเด็กผู้ก่อเหตุลักลอบนำอาวุธเข้ามาโดยการแอบเอาไว้ตามมุมต่าง ๆ ของโรงเรียน ส่วนประวัติของเด็กผู้ก่อเหตุไม่เคยมีประวัติการใช้ความรุนแรง และไม่มีประวัติการใช้กัญชา ตามที่มีกระแสข่าวออกมาก่อนหน้านี้ ที่ผ่านมาทางโรงเรียนได้เน้นย้ำไม่ให้ใช้ความรุน แรงกับเด็กนักเรียน ส่วนเรื่องประวัติการรักษาว่าเป็นเด็กกลุ่มพิเศษหรือไม่ ทางโรงเรียนยังไม่เคยมีประวัติ แต่ลักษณะนิสัยของเด็กนักเรียนคนดังกล่าวเป็นเด็กที่ชอบอยู่คนเดียวเล่นของเล่นเด็กเพียงลำพัง.
บรรยายใต้ภาพ
แทงดับ…เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสถานที่เกิดเหตุนักเรียน ม.2 โรงเรียนย่านพัฒนาการ เขตสวนหลวง แทงกันตาย คาโรงเรียน เบื้องต้นมือมีดสารภาพอ้างแค้นใจถูกผู้ตายข่มขู่ไถเงิน ทำร้ายร่างกายมากว่า 2 สัปดาห์จึงเตรียมมีดมาพอถูกไถเงินอีกจึงสุดทน
ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 31 ม.ค. 2567 (กรอบบ่าย)