ร้องซ้ำแก้แล้วไม่แจ้ง-หวั่นกระทบประเมินเขต
ระบบทราฟฟี่ฟองดูว์ กทม.รวน บันทึกข้อมูลมั่ว ผอ.เขตหวั่นใช้ประเมินผลงานด้านปลัด กทม. เรียกประชุม Lunch Meeting สื่อสารตรง ผอ.เขตดูแล-แก้ไขปัญหาให้ประชาชน
เมื่อวันที่ 25 ม.ค.67 ที่ศาลาว่าการ กทม. พญ.วันทนีย์ วัฒนะ ปลัด กทม.เปิดเผยว่า จากการประชุม Lunch Meeting ร่วมกับ ผอ.เขตผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ทุกวันอังคารระหว่างเวลา 12.30-13.30 น.เพื่อติดตามการดำเนินการตามนโยบายผู้บริหารกทม. และเพื่อแจ้งข้อราชการข้อสั่งการต่างๆจากผู้ว่าฯ พบว่า จำนวนการแก้ปัญหาและผู้แจ้งเรื่องผ่านระบบทราฟฟี่ฟองดูว์ ยังคงที่ไม่มากเหมือนช่วงแรกๆที่เปิดรับเรื่อง ในจำนวนนี้พบปัญหาบางเขตได้รับการร้องเรียนเรื่องเดิมซ้ำๆจำนวนมาก เนื่องจากผู้ร้องไม่ทราบว่าบางเรื่องอาจต้องรอมาตรการทางกฎหมายจึงสามารถแก้ไขได้ ทำให้ผู้ร้องเข้าใจว่าเรื่องที่แจ้งไปไม่ได้รับการแก้ไข จึงร้องเรียนซ้ำ สำหรับข้อมูลจากhttps://share.traffy.in.th/teamchadchart วันที่ 25 ม.ค.67 ระบุมีผู้แจ้งเรื่องผ่านระบบทราฟฟี่ ฟองดูว์ ทั้งหมด 496,310 เรื่อง แก้ไขแล้วเสร็จ 379,023 เรื่องกำลังดำเนินการ 9,673 เรื่อง รอรับเรื่อง 1,649 เรื่องส่งต่อหน่วยงานที่รับผิดชอบ 95,640 เรื่อง “การประชุม Lunch Meeting เป็นการสื่อสารและแจ้งนโยบายกับผู้เกี่ยวข้องโดยตรงไม่ผ่านตัวแทน โดยใช้เทคโนโลยีลดการเดินทาง หากมีปัญหาอะไรให้บอกกันตรงๆเพื่อช่วยกันแก้ไขและให้กำลังใจกัน ทำให้แต่ละเขตเข้าใจตรงกัน และดำเนินงานไปในทิศทางเดียวกันปลัด กทม. กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมดังกล่าวได้รายงานการแก้ไขปัญหาผ่านระบบทราฟฟี่ ฟองดูว์ โดยเฉพาะเรื่องการติดตั้งป้ายโฆษณาผิดกฎหมาย พบว่าเขตหนองจอกเป็นเขตที่มีเรื่องร้องเรียนและยังไม่ได้รับการแก้ไขในเรื่องดังกล่าวมากที่สุด ขณะที่ ผอ.เขตได้ยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวไม่มีการร้องเรียนแต่อย่างใด เพราะมีการติดตามตรวจสอบเรื่องการแก้ปัญหาข้อร้องเรียน ซึ่งเขตหนองจอกส่วนใหญ่ประชาชนจะร้องเรียนเรื่องถนนชำรุดเป็นหลุมเป็นบ่อมากกว่า โดยเขตได้พยายามแก้ไขปัญหามาโดยตลอด จากนั้น เขตได้ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงทำให้ทราบว่าระบบหลังบ้านทราฟฟี่ฟองดูว์ล่มทำให้เกิดการเข้าใจผิดว่าเป็นเรื่องร้องเรียนที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขและเรื่องดังกล่าวก็เงียบไป โดยไม่มีการแก้ไขว่า สาเหตุเกิดจากระบบหลังบ้านล่ม ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้นทำให้หลายเขตกังวลเป็นอย่างมากเพราะผู้บริหารได้ประกาศว่าจะใช้ระบบทราฟฟี่ ฟองดูว์มาเป็นตัวชี้วัดในการประเมินผลการทำงาน หากระบบหลังบ้านล่มอีก และไม่มีการตรวจสอบสาเหตุที่เกิดขึ้นอย่างแท้จริง จะทำให้การประเมินผลการทำงานมีปัญหา.
ที่มา: นสพ.ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 26 ม.ค. 2567