(19 ธ.ค.65) ณ สำนักงานเขตปทุมวัน : นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร สมาชิกสภากรุงเทพมหานครเขตจอมทอง ในฐานะประธานคณะกรรมการการเศรษฐกิจ การเงิน การคลัง และการงบประมาณ สภากรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งที่ 14/2565 โดยในวันนี้เป็นการประชุม เพื่อติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างอาคารสำนักงานเขตปทุมวันแห่งใหม่ พร้อมรับทราบปัญหา อุปสรรค ในการดำเนินงาน โดยผู้ร่วมประชุม ประกอบด้วย คณะกรรมการฯ นางเมธาวี ธารดำรงค์ สมาชิกสภากรุงเทพมหานครเขตปทุมวัน นางสาวสุขวิชญาณ์ นสมทรง ผู้อำนวยการเขตปทุมวันและคณะผู้บริหารเขตปทุมวัน ร่วมประชุมและให้ข้อมูล
“สำนักงานเขตได้รับงบไปแล้วเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อคณะกรรมการวิสามัญพิจารณางบประมาณถามเหตุผลความจำเป็น เขตได้ชี้แจงความจำเป็น และรายละเอียดการตั้งงบกว่า 600 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ดูแล้วยังไม่มีความคืบหน้า ที่สำคัญคือ กทม.ได้ซื้อที่เพื่อสร้างเขตแล้ว แต่ยังไม่มีการดำเนินการแต่อย่างใด พื้นที่เขตปัจจุบันคับแคบ ไม่สะดวกต่อการทำงาน ข้อมูลที่ผ่านมา เขตต้องเช่าที่เดือนนึงมากกว่า 1.6 ล้านบาท ประกอบกับประชาชนร้องเรียนว่าไม่ได้รับความสะดวกจากการมาใช้บริการ ซึ่งคณะกรรมการต้องติดตาม ความล่าช้า ช้าไปปีนึงต้องเสียงบกว่า 16-17 ล้านบาท หลังตรวจสอบต้องสอบถามฝ่ายบริหารด้วยว่าเหตุใดไม่เร่งดำเนินการ” ส.ก.สุทธิชัย กล่าวเพื่อเปิดประชุม
จากนั้นเขตฯ ได้รายงานผลการพิจารณารูปแบบอาคารสำนักงาน โดยคณะกรรมการกลั่นกรองความเหมาะสมการก่อสร้างอาคารของกรุงเทพมหานคร ซึ่งคณะกรรมการฯ เห็นควรที่ให้มีการก่อสร้างอาคารตามรูปแบบที่เขตเสนอ แต่ขอให้สร้างให้เต็มศักยภาพที่ดิน ให้มีรูปแบบรวมถึงพื้นที่ใช้สอยเป็นไปตามมาตรฐานและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยคำนึงถึงการอนุรักษ์พลังงานเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และให้คำนึงถึงความจำเป็นของเขตและส่วนราชการอื่นๆที่จะเข้าใช้อาคารเป็นหลักและมอบให้สำนักการโยธาช่วยสำนักงานเขตพิจารณาเพิ่มเติม ทั้งนี้คณะกรรมการการเศรษฐกิจฯ สภากทม. ได้ร่วมกันหารือความเหมาะสมของการใช้พื้นที่อาคารเป็นที่ตั้งหน่วยงาน และสอบถามปัญหา อุปสรรค ความล่าช้าการดำเนินการ
ในที่ประชุม นายนภาพล จีรกุล สมาชิกสภากรุงเทพมหานครเขตบางกอกน้อย ในฐานะรองประธานกรรมการ คนที่ 2 กล่าวว่า เมื่อครั้งเสนอเข้าขอจัดสรรงบประมาณ รูปแบบอาคารคือ 11 ชั้น แต่ในขณะนี้ได้ปรับรูปแบบให้เหมาะสม โดยเพิ่มเป็น 15 ชั้น โดยรวมศูนย์บริการสาธารณสุขไว้ด้วย ซึ่งที่ผ่านมาได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับที่จอดรถ โดยให้เพิ่มชั้นจอดรถ เพื่อรองรับจำนวนของเจ้าหน้าที่และผู้มาใช้บริการที่จะมากขึ้น ซึ่งความคุ้มค่าไม่ใช่กำไรหรือการคิดในเชิงธุรกิจ แต่ความคุ้มค่าคือการได้บริการประชาชน ทำให้ประชาชนได้รับความสะดวกสบายเพราะเงินที่ลงทุนทั้งหมดคือภาษีของประชาชน ตนในฐานะประธานคณะกรรมการการโยธา สภากรุงเทพมหานคร จะติดตามเรื่องความล่าช้าของการก่อสร้างอย่างใกล้ชิดต่อไป เนื่องจากยิ่งดำเนินการช้างบประมาณจะต้องเพิ่มขึ้น รวมถึงทำให้กรุงเทพมหานครขาดประโยชน์มากขึ้นด้วย
ด้าน นายประพฤทธ์ หาญกิจจะกุล สมาชิกสภากรุงเทพมหานครเขตห้วยขวาง ในฐานะรองประธานกรรมการ คนที่ 1 และนายพุทธิพัชร์ ธันยาธรรมนนท์ สมาชิกสภากรุงเทพมหานครเขตยานนาวา ได้ตั้งข้อสังเกตว่า หากมีหน่วยงานราชการเข้ามาใช้พื้นที่อาคารของสำนักงานเขตเพิ่มขึ้นจะทำให้ที่จอดรถที่เตรียมไว้ไม่เพียงพอ ดังนั้นจึงไม่ควรที่จะให้หน่วยงานอื่นเข้ามาใช้พื้นที่เพิ่ม ซึ่งทุกฝ่ายต้องช่วยกันอย่างจริงจัง รวมถึงเคร่งครัดในการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องและจริงจัง
*ก่อสร้างล่าช้าทำภาครัฐสูญเสียงบประมาณกว่า 2.3 ล้าน ต่อเดือน
ส.ก.สุทธิชัย เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ ว่า “ในวันนี้คณะกรรมการฯ ได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามและเร่งรัดการสร้างสำนักงานเขตปทุมวัน เนื่องจากมีความล่าช้า ในฐานะที่เป็นประธานคณะกรรมการวิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี และส.ก.พื้นที่เห็นพ้องต้องกันว่าต้องเร่งรัดการก่อสร้างสำนักงานเขตปทุมวันให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่มาติดต่อราชการ นอกจากนี้ในปัจจุบันเขตได้เช่าพื้นที่อาคารทำการเดือนละ 1.6 ล้านบาท รวมถึงศูนย์บริการสาธารณสุขก็ได้เช่าพื้นที่เดือนละกว่า 7 แสนบาท เช่นกัน กรุงเทพมหานครต้องใช้งบประมาณเพื่อเช่าอาคารทำการของทั้ง 2 หน่วยงาน เดือนละกว่า 2.3 ล้านบาท ซึ่งหลังพิจารณาอนุมัติงบประมาณให้ไปแล้วกว่า 6 เดือน ควรอยู่ในขั้นตอนของการจัดซื้อจัดจ้างแล้ว แต่พบว่าตัวอาคารยังอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาความคุ้มค่าของอาคารอยู่ ซึ่งฝ่ายบริหารมีความเห็นให้เปลี่ยนรูปแบบและปรึกษากองออกแบบ สำนักการโยธาก่อน ทำให้งานล่าช้า ซึ่งสมาชิกสภากรุงเทพมหานครทุกท่านในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติพร้อมที่จะเร่งรัดทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชน โดยผู้ที่ทำให้ขั้นตอนต่างๆ ล่าช้า ต้องรับผิดชอบในส่วนของความเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งนอกจากพื้นที่ของเขตปทุมวันแล้ว เขตวัฒนาและธนบุรีก็ไม่มีสถานที่เช่นเดียวกัน ”
*ส.ก.ปทุมวัน วอนฝ่ายบริหารให้ความสำคัญ ขอให้เขตได้มีบ้านของตัวเอง
ส.ก.เมธาวี เปิดเผยว่า ในช่วงระยะเวลากว่า 17 ปีที่ผ่านมา สำนักงานเขตปทุมวันได้ย้ายอาคารที่ทำการไปแล้ว 3 แห่ง โดยพื้นที่ที่หาได้ล่าสุดมีทำเลที่สวยที่สุดและราคาถูกที่สุด หากรีบดำเนินการสร้างจะทำให้สามารถประหยัดเงินงบประมาณได้เดือนละกว่า 2.3 ล้านบาทและยิ่งล่าช้าจะทำให้วัสดุก่อสร้างมีราคาสูงขึ้น จะเห็นได้ว่าหลายโครงการของสำนักการโยธาผู้รับจ้างทิ้งงาน เนื่องจากความล่าช้าของการดำเนินการทำให้วัสดุมีราคาแพงขึ้น จึงขอให้กรุงเทพมหานครให้ความสำคัญและให้เขตได้มีบ้านของตัวเอง เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวก