Search
Close this search box.
กทม.ชี้แจงข่าวร้องเรียน ประจำวันอังคารที่ 26 ธันวาคม 2566

กทม.เฝ้าระวังควบคุมการแพร่ระบาดโรคติดต่อช่วงฤดูหนาว แนะ 7 วิธีดูแลสุขภาพให้แข็งแรง


นางเลิศลักษณ์ ลีลาเรืองแสง ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ (สนพ.) กทม.กล่าวถึงมาตรการเชิงรุกในการส่งเสริมความรู้และให้คำแนะนำแก่ประชาชนเกี่ยวกับวิธีดูแลรักษาสุขภาพ เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยจากโรคติดต่อและภัยสุขภาพในช่วงฤดูหนาวว่า สนพ.ได้จัดทำแนวทางการดำเนินงานควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดต่อในฤดูหนาว รวมถึงภัยสุขภาพต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น โดยสั่งการให้ทุกโรงพยาบาลในสังกัดเฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาด รวมถึงวินิจฉัยและให้การรักษาที่ถูกต้องตามแนวทางการรักษาของโรค และจัดการสำรองยาให้เพียงพอต่อการรักษาผู้ป่วย พร้อมจัดเตรียมวัคซีนป้องกันควบคุมโรคในฤดูหนาว ได้แก่ โรคไข้หวัด โรคไข้หวัดใหญ่ โรคปอดบวม โรคหัด โรคอีสุกอีใส โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลันจากเชื้อไวรัส และโรคโควิด 19 ให้กับผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง ขณะเดียวกันได้มอบหมายกลุ่มงานอนามัยชุมชนของโรงพยาบาลในสังกัดทั้ง 11 แห่ง ให้บริการเชิงรุกในการให้ความรู้ เช่น การจัดกิจกรรมเกี่ยวกับโรคในฤดูหนาวแก่ประชาชนที่มารับบริการและประชาชนในพื้นที่โดยรอบโรงพยาบาลให้ตระหนักถึงการดูแลและป้องกันสุขภาพของตนเอง

นอกจากนั้น ได้เตรียมความพร้อมระบบเฝ้าระวัง ติดตาม ประเมินสถานการณ์และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดต่อ พร้อมแนะนำให้ประชาชนระมัดระวังดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอด้วย 7 วิธีดูแลสุขภาพ เมื่ออากาศเย็นลง ดังนี้ รับประทานอาหารที่ปรุง สุก ใหม่ ดื่มน้ำอุ่น หรือดื่มน้ำสมุนไพรเผ็ดร้อน เพื่อเพิ่มการไหลเวียนโลหิต รับประทานผักผลไม้ และสมุนไพรรสเปรี้ยวบรรเทาอาการไอทำให้ชุ่มคอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ ไม่ควรดื่มสุราแก้หนาว เพราะอาจทำให้หัวใจวายและเสียชีวิตได้ ออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอ และสวมเสื้อผ้าหนา ๆ หรือห่มผ้าช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกาย สำหรับผู้ป่วยควรพักผ่อนอยู่บ้าน ไม่ควรเข้าไปที่ชุมชน แต่หากจำเป็นให้สวมหน้ากากอนามัย หรือใช้ผ้าปิดปาก ปิดจมูกเวลาไอ หรือจาม ทั้งนี้ ประชาชนสามารถพบแพทย์ผ่าน Telemedicine แอปพลิเคชัน “หมอ กทม.” เพื่อตรวจวินิจฉัยอาการได้อย่างรวดเร็ว สามารถปรึกษาเรื่องสุขภาพ โทร.1646 สายด่วนสุขภาพ สนพ.ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

 

 

 

กทม.เร่งตรวจสอบแก้ปัญหาไฟฟ้าส่องสว่างชำรุดบริเวณแยกอโศกฯ ถนนพระรามที่ 6 และถนนพหลโยธิน
 
นายธวัชชัย นภาศักดิ์ศรี ผู้อำนวยการสำนักการโยธา (สนย.) กทม.กล่าวถึงการตรวจสอบและแก้ไขปัญหาไฟฟ้าส่องสว่างบริเวณหน้าโรงแรมเรดิสันบลู แยกอโศกมนตรี เขตคลองเตย ว่า สนย.ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสาเหตุไฟฟ้าส่องสว่างบนทางเท้า (เสาเขียว) บริเวณถนนสุขุมวิทดับชำรุด พบว่า เกิดจากสายไฟใต้ดินชำรุด จึงได้ขอรับจัดสรรงบประมาณซ่อมแซมไฟฟ้าบริเวณดังกล่าว โดย สนย.ได้รับงบประมาณปี 2566 (เพิ่มเติม) ให้ดำเนินโครงการปรับปรุงไฟฟ้าสาธารณะบริเวณถนนสุขุมวิท จากถนนสุขุมวิทซอย 1 ถึงถนนสุขุมวิทซอย 53 (ทั้งสองฝั่ง) ในพื้นที่เขตวัฒนาและเขตคลองเตย ปัจจุบันได้ผู้รับจ้างแล้ว อยู่ระหว่างการตรวจร่างสัญญา คาดว่า จะเริ่มดำเนินการได้ประมาณปลายเดือน ม.ค.67 ส่วนไฟฟ้าส่องสว่างบริเวณเกาะกลางถนนสุขุมวิทตั้งแต่ซอย 1-81 อยู่ในความรับผิดชอบของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ซึ่ง สนย.ได้ประสาน กฟน.เข้าตรวจสอบและเร่งแก้ไขโดยด่วนแล้ว สาเหตุคาดว่า อาจเกิดจากความชื้น ทำให้เบรคเกอร์ทริปและเป็นผลให้ไฟฟ้าดับ

        นอกจากนั้น สนย.ยังได้ลงพื้นที่ตรวจสอบไฟฟ้าส่องสว่างในบริเวณถนนพระรามที่ 6 ใต้ทางพิเศษฉลองรัชจากแยกประดิพัทธ์ถึงแยกตึกชัย ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบและประมาณราคา ส่วนถนนพหลโยธินขาเข้าจากห้าแยกลาดพร้าวถึงสถานีรถไฟฟ้า BTS สถานีหมอชิต ตรวจสอบพบว่า ระบบสายใต้ดินและอุปกรณ์ตัดต่อวงจรชำรุด ซึ่งได้แก้ไขปัญหาชั่วคราวและสามารถใช้การได้แล้วบางส่วน ปัจจุบันได้สำรวจและประมาณราคา พร้อมทั้งดำเนินการหาผู้รับจ้าง เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างถาวรต่อไปภายในเดือน ม.ค.67

 

 

กทม.ยกเลิกทางข้ามหน้า รพ.พระมงกุฎฯ เตรียมจัดทำคันหินปิดเกาะกลางถาวร

นายไทภัทร ธนสมบัติกุล ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) กทม.กล่าวกรณีประชาชนร้องเรียนทางม้าลายบนถนนราชวิถีบริเวณหน้าโรงพยาบาลพระมงกุฎฯ ได้ถูกยกเลิก แต่เกาะกลางยังเปิดอยู่โดยไม่มีสิ่งกีดขวาง เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุว่า สจส.ได้ยกเลิกทางข้าม (ทางม้าลาย) บริเวณหน้าโรงพยาบาลพระมงกุฎฯ แล้ว โดย สจส.จะนำแบร์ริเออร์พลาสติกมาปิดที่เกาะกลางไว้ชั่วคราว จากนั้นจะได้ประสานสำนักการโยธา กทม.จัดทำคันหินปิดเกาะกลางถาวรต่อไป

 

 

กทม.-สน.ทองหล่อร่วมกวดขันเพิ่มความถี่ตรวจตราแก้ปัญหาเด็กเช็ดกระจก-ขายพวงมาลัยบริเวณแยกอโศกฯ

นางเบญญา อินทรวงศ์โชติ ผู้อำนวยการเขตคลองเตย กทม.กล่าวกรณีสื่อออนไลน์โพสต์คลิปพร้อมระบุบริเวณแยกอโศกฯ พบเด็กเช็ดกระจกมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมว่า สำนักงานเขตคลองเตย ได้ลงพื้นที่บริเวณสี่แยกอโศกฯ ฝั่งเขตคลองเตย เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.66 เวลาประมาณ 11.30 น. โดยขณะตรวจสอบไม่พบเด็กเช็ดกระจก หรือขายพวงมาลัยแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม สำนักงานเขตฯ ได้จัดทำแผนปฏิบัติการตรวจตรา กวดขัน คนเร่ร่อน ขอทาน และกลุ่มเด็กเช็ดกระจกบริเวณสี่แยกคลองเตย ถนนรัชดาภิเษก และถนนพระรามที่ 4 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาล (สน.) ทองหล่อ เป็นประจำทุกวัน สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นตามคลิป คาดว่า เป็นเด็กเช็ดกระจกที่ลักลอบมาเช็ดกระจกรถยนต์ขณะที่ไม่มีเจ้าหน้าที่ตรวจตรา ซึ่งสำนักงานเขตฯ ได้ประสานขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อที่ประจำที่ป้อมตำรวจให้ช่วยกวดขันปฏิบัติงานตามแผนปฏิบัติการตามที่กำหนดและได้กำชับเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทศกิจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคม สำนักงานเขตฯ เพิ่มความถี่ลงพื้นที่ตรวจตราเด็กเช็ดกระจก ขอทาน และคนเร่ร่อน เพื่อป้องปราม มิให้มีการเช็ดกระจกรถยนต์และข่มขู่ประชาชนต่อไป

นายสุรเดช อำนวยสาร รองผู้อํานวยการสำนักเทศกิจ (สนท.) รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ กทม.กล่าวว่า สนท.ได้ประสานความร่วมมือสำนักงานเขตคลองเตยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบและปฏิบัติตามหลักการปฏิบัติที่ถูกต้อง เพื่อแก้ไขปัญหาเด็กเช็ดกระจกและเด็กขายของริมถนนอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ปัญหาเด็กเช็ดกระจกและขายพวงมาลัยบริเวณทางแยกต่าง ๆ เป็นปัญหาที่หลายหน่วยงานต้องบูรณาการร่วมกัน เนื่องจากผู้ก่อเหตุ หรือสร้างความเดือดร้อนรำคาญเป็นเด็ก หรือเยาวชน เป็นช่วงวัยที่มีความเปราะบาง อ่อนไหว จึงไม่สามารถใช้ความรุนแรง หรือเด็ดขาดได้ ต้องมีหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงเกี่ยวกับเด็กและเยาวชนเข้ามาร่วมปฏิบัติการ ที่ผ่านมา สนท.และสำนักงานเขตได้บูรณาการร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่โดยตรงในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ร่วมกับ สน.ท้องที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง

 

 

เขตจตุจักรเดินหน้าแก้ปัญหารถยนต์เก่าจอดทิ้งภายในซอยเทศบาลรังสฤษดิ์เหนือ


นางสาวภัทร์กร สินสุข ผู้อำนวยการเขตจตุจักร กทม.กล่าวกรณีประชาชนร้องเรียนพบรถยนต์เก่าจอดทิ้งภายในซอยเทศบาลรังสฤษดิ์เหนือ เขตจตุจักร ว่า สำนักงานเขตจตุจักรได้ตรวจสอบและแก้ไขกรณีการนำรถยนต์เก่า มาจอดทิ้งบริเวณซอยเทศบาลรังสฤษดิ์เหนือ ถนนเทศบาลสงเคราะห์เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.66 พร้อมปิดประกาศสำนักงานเขตฯ ให้เคลื่อนย้ายซากรถยนต์ออกจากพื้นที่สาธารณะภายใน 15 วันนับจากวันปิดประกาศ 

      จากนั้นสำนักงานเขตฯ ได้สืบค้นหาผู้เป็นเจ้าของ/ผู้ครอบครอง เพื่อแจ้งให้เคลื่อนย้ายรถยนต์เก่าภายในเวลาที่กำหนด ทั้งนี้ หากครบกำหนดที่ปิดประกาศแล้ว ผู้เป็นเจ้าของ/ผู้ครอบครองไม่เคลื่อนย้าย สำนักงานเขตฯ จะเคลื่อนย้ายซากรถยนต์ดังกล่าวไปยังศูนย์เก็บซากรถยนต์หนองแขม เพื่อเข้าสู่กระบวนการและขั้นตอนประกาศขายซากยานยนต์ต่อไป

 

 

แชร์ข่าว:
กรุงเทพฯ มีอะไร อัพเดทข่าวสารฉับไว กิจกรรมที่น่าสนใจ และมีส่วนร่วมได้ รวมไว้ให้ที่นี่

©2022 สงวนลิขสิทธิ์ กรุงเทพมหานคร

สำนักงานประชาสัมพันธ์ สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร 173 ถนนดินสอ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กทม. 10200