กทม.ตรวจประเมินสุขลักษณะห้องน้ำสาธารณะ-ดูแลความสะอาดพื้นที่รองรับนักท่องเที่ยว
นายสุนทร สุนทรชาติ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย (สนอ.) กทม.กล่าวถึงการพัฒนาห้องน้ำสาธารณะในสถานที่ต่าง ๆ ให้ได้มาตรฐานและการดูแลความสะอาดของพื้นที่ เพื่อเตรียมพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในกรุงเทพฯ ว่า สนอ.มีแนวทางพัฒนาห้องน้ำสาธารณะในพื้นที่กรุงเทพฯ ตามนโยบายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร “ห้องน้ำสาธารณะที่ดีในพื้นที่สาธารณะ” โดยกำหนดเป้าหมายความสำเร็จประจำปีงบประมาณ 2567 ได้แก่ ห้องน้ำสาธารณะที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานห้องน้ำสาธารณะระดับประเทศ (HAS) ของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (ร้อยละ 70) ห้องน้ำสาธารณะที่ผ่านการประเมิน HAS ได้รับการนำเข้าในฐานข้อมูลระบบแผนที่ดิจิทัล (ร้อยละ 100) และห้องน้ำสาธารณะที่ไม่ผ่านการประเมินจากปีที่ผ่านมา (ร้อยละ 50) แล้วได้รับการแก้ไขโดยดำเนินการผ่านคณะกรรมการพัฒนาห้องน้ำสาธารณะในพื้นที่สาธารณะของกรุงเทพฯ การสร้างเสริมเครือข่ายความร่วมมือของสถานที่กลุ่มเป้าหมายในการทำข้อตกลงความร่วมมือพัฒนาห้องน้ำในกลุ่มสถานีบริการเชื้อเพลิง และกลุ่มอื่น ๆ ในปีงบประมาณถัดไป รวมทั้งกระตุ้นให้เกิดการแข่งขันพัฒนาสถานที่ โดยจัดประกวดสุดยอดห้องน้ำแห่งปีของ กทม.ประจำปี 2567 ซึ่งจะมีรางวัลห้องน้ำขวัญใจมหาชนเป็นปีแรก เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเกิดความตื่นตัวและตระหนักถึงความสำคัญของห้องน้ำสาธารณะ
นอกจากนั้น ยังได้รวบรวมผลการสำรวจและตรวจประเมินสุขลักษณะห้องน้ำสาธารณะ ตามมาตรฐานห้องน้ำสาธารณะของ กทม.ในสถานที่สาธารณะ จำนวน 12 กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ตลาด ร้านอาหาร โรงพยาบาล สถานศึกษา สถานที่ราชการ แหล่งท่องเที่ยว สถานีขนส่ง สวนสาธารณะ สถานีบริการเชื้อเพลิง ศาสนสถาน ห้างสรรพสินค้า/ศูนย์การค้า และห้องน้ำริมทาง ปรากฏว่า มีห้องน้ำสาธารณะ 7,207 แห่ง ตรวจประเมินได้ 4,775 แห่ง พบผ่านมาตรฐานฯ 3,950 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 54.80 (คำนวณเทียบกับจำนวนห้องน้ำสาธารณะที่สำรวจได้ทั้งหมด) กลุ่มเป้าหมายที่ผ่านมาตรฐานมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ แหล่งท่องเที่ยว (ร้อยละ 100) ห้องน้ำริมทาง (ร้อยละ 100) และโรงพยาบาล (ร้อยละ 98.63) ส่วนกลุ่มเป้าหมายที่ผ่านมาตรฐานน้อยที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ศาสนสถาน (ร้อยละ 62.69) ตลาดสด (ร้อยละ 63.43) และสถานีขนส่ง (ร้อยละ 66.67) (ข้อมูล ณ วันที่ 3 ต.ค.66)
นายประพาส เหลืองศิรินภา ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม (สสล.) กทม.กล่าวว่า กทม.มุ่งเน้นดูแลรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมืองอย่างต่อเนื่อง โดยจัดให้มีบริการเก็บขยะครอบคลุมทุกพื้นที่ ในแต่ละพื้นที่ต้องได้รับบริการจัดเก็บขยะไม่น้อยกว่า 2 ครั้ง/สัปดาห์ ในบางพื้นที่โดยเฉพาะย่านพาณิชยกรรมและแหล่งท่องเที่ยว ริมถนนสายหลัก ถนนสายรอง ได้จัดเก็บขยะทุกวัน โดยนัดเวลาทิ้งระหว่างเวลา 18.00 – 03.00 น. และเก็บให้แล้วเสร็จก่อนเวลา 05.00 น. เพื่อไม่ให้มีขยะตกค้าง อีกทั้งมุ่งลดปริมาณขยะที่ต้องจัดเก็บและกำจัดโดยส่งเสริมการลดและคัดแยกขยะและนำไปใช้ประโยชน์ตามหลัก Zero Waste to Landfill ตั้งแต่ต้นทาง เพื่อส่งเสริมการนำขยะหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ให้มากที่สุด โดยตรวจสอบควบคุมการทิ้งขยะในที่ว่าง ที่สาธารณะ และแหล่งน้ำ รณรงค์ให้ประชาชนทิ้งขยะให้ถูกที่ถูกถัง
นอกจากนั้น ได้จัดเจ้าหน้าที่กวาดทำความสะอาดทางเท้าและไหล่ทางบริเวณถนนสายหลัก สายรอง เป็นประจำทุกวัน และจัดให้มีรถกวาด ดูดฝุ่นบริเวณผิวจราจร อุโมงค์ ทางข้าม ทางลอด รวมถึงล้างทำความสะอาดถนน ทางเท้า ริมถนนสายหลัก และสถานที่สำคัญทุกวันเสาร์ พร้อมทั้งล้างทำความสะอาดตลาดเป็นประจำ เพื่อให้บ้านเมืองสะอาดปราศจากขยะ ฝุ่นละออง คราบสกปรกต่าง ๆ หากประชาชนพบเห็นพื้นที่ใดมีขยะตกค้างสามารถแจ้งเบาะแสผ่านระบบ Traffy Fondue
กทม.แจ้ง สน.ลุมพินี ทราบความเห็นประชาชนให้คงทางข้าม-สัญญาณไฟระหว่าง รพ.จุฬาฯ กับสวนลุมฯ
นายไทภัทร ธนสมบัติกุล ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) กล่าวกรณีการพิจารณายกเลิกทางข้ามและสัญญาณไฟคนข้ามระหว่างโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์กับสวนลุมพินีว่า สถานีตำรวจนครบาล (สน.) ลุมพินี ได้มีหนังสือแจ้งมติที่ประชุมการบริหารจัดการจราจรในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยเห็นว่า ปัจจุบันบริเวณดังกล่าวมีสะพานลอยคนเดินข้ามและมีลิฟต์สำหรับผู้พิการ ซึ่งอยู่ห่างออกไปจากทางข้ามเดิมประมาณ 30 เมตร ให้ใช้แล้ว จึงให้ยกเลิกทางข้ามบริเวณหน้าอาคาร อปร. โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เพื่อลดผลกระทบจากการจราจรติดขัดบนถนนราชดำริ สจส.จึงได้ติดป้ายประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนผู้ใช้ทางข้ามรับทราบ พร้อมทั้งเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนก่อนดำเนินการ ซึ่งส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยที่จะให้ยกเลิกทางข้ามบริเวณดังกล่าว สจส.จึงถอดป้ายยกเลิกทางข้ามดังกล่าวออกเรียบร้อยแล้วและจะมีหนังสือแจ้ง สน.ลุมพินี ได้รับทราบความคิดเห็นของประชาชนที่จะให้คงทางข้ามไว้เช่นเดิมต่อไป
กทม.แจ้ง BTSC เร่งแก้ไขบันไดเลื่อนทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้า BTS บริเวณเกาะพญาไท
นายไทภัทร ธนสมบัติกุล ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) กทม.กล่าวกรณีประชาชนร้องเรียนขอให้เร่งปรับปรุงซ่อมแซมบันไดเลื่อนทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้า BTS ตรงเกาะพญาไทว่า บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC เป็นผู้รับผิดชอบการบริหารจัดการทางเดินยกระดับ (Sky Walk) บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ รวมถึงบันไดเลื่อนทางขึ้น-ลงสถานีบริเวณดังกล่าว สจส.จึงได้แจ้ง BTSC เร่งซ่อมแซมบันไดเลื่อนบริเวณเกาะพญาไท ฝั่งศูนย์การค้าเซ็นเตอร์วัน พร้อมทั้งกำชับให้ตรวจสอบแก้ไขให้อยู่ในสภาพใช้งานได้ตามปกติโดยเร็ว ในเบื้องต้น BTSC แจ้งว่า บันไดเลื่อนที่ชำรุดดังกล่าวมีสาเหตุจากอายุการใช้งานและยังพบว่า อะไหล่ที่สำคัญจำเป็นต่อความปลอดภัยได้ถูกยกเลิกการผลิตไปแล้ว ซึ่งบริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์อยู่ระหว่างการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยอาจจำเป็นต้องพิจารณาเปลี่ยนบันไดเลื่อนชุดใหม่แทนทั้งหมด อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ขออภัยในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้นและจะเร่งแก้ไขบันไดเลื่อนดังกล่าวให้ใช้งานได้ตามปกติโดยเร็วต่อไป
เขตปทุมวันกำชับมาตรการความปลอดภัย-แนวทางปฏิบัติงานของพนักงานขับรถเก็บขนมูลฝอย
นางสาวสุขวิชญาณ์ นสมทรง ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน กทม.กล่าวถึงการเพิ่มความเข้มงวดกำชับมาตรการความปลอดภัยและแนวทางปฏิบัติงานของพนักงานขับรถขยะ กทม.หลังเกิดอุบัติเหตุรถเก็บขนมูลฝอยชนเสาโครงเหล็กกั้นความสูง เชิงสะพานข้ามแยกศรีพัฒน์ ถนนพัฒนาการขาออกว่า สำนักงานเขตฯ ได้ตรวจสอบสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว พบว่าพนักงานขับเครื่องจักรเบา ประจำรถเก็บขนมูลฝอย ฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะ ได้หักหลบรถจักรยานยนต์ขับปาดหน้าในระยะกระชั้นชิด เป็นเหตุให้พนักงานฯ ได้รับบาดเจ็บ และได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเพชรเวช ด้วยอาการบาดเจ็บบริเวณต้นคอและบริเวณกราม แพทย์ให้พักดูอาการเป็นเวลา 1 คืน ปัจจุบันได้กลับบ้านไปพักฟื้น ส่วนรถยนต์ที่เสียหายได้ประสานศูนย์เช่ารถเอกชน เพื่อเคลื่อนย้ายออกจากที่เกิดเหตุพร้อมลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจนครบาลคลองตัน ไว้เป็นหลักฐานแล้ว
อย่างไรก็ตาม สำนักงานเขตฯ ได้กำชับมาตรการความปลอดภัยและแนวทางปฏิบัติงานของพนักงานขับเครื่องจักรเบา (เก็บขนมูลฝอย) ให้ปฏิบัติตามกฎจราจรและมารยาทการขับรถ เคารพกฎจราจร รวมถึงตรวจสอบและบำรุงรักษารถยนต์ให้พร้อมปฏิบัติงานอยู่เสมอ