กทม.เฝ้าระวังการแพร่ระบาดโควิด 19-โรคระบบทางเดินหายใจช่วงเทศกาลปีใหม่
นายสุนทร สุนทรชาติ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย (สนอ.) กทม. กล่าวถึงการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์การติดเชื้อโรคโควิด 19 และโรคปอดอักเสบในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า สนอ.โดยสำนักงานโรคติดต่อทางสาธารณสุขและศูนย์บริการสาธารณสุข กทม.ทั้ง 69 แห่ง ได้ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์โรคโควิด 19 และโรคปอดอักเสบในพื้นที่กรุงเทพฯ จากรายงานของสถานพยาบาลต่าง ๆ เพื่อติดตามและประเมินสถานการณ์และเตรียมความพร้อมรับมือกับการระบาดของโรคตั้งแต่ระยะเริ่มต้น จัดทีมสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็ว (SRRT) เพื่อให้บริการสอบสวนและควบคุมโรคกรณีเกิดการระบาดของโรคโควิด 19 รวมทั้งเตรียมความพร้อมการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด 19 และโรคระบบทางเดินหายใจต่าง ๆ ขณะเดียวกันได้ให้บริการฉีดวัคซีนโควิด 19 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ระหว่างเดือน ต.ค.65 – พ.ย.66 จำนวนผู้รับบริการสะสม 140,714 ราย อีกทั้งศูนย์บริการสาธารณสุข กทม.ทั้ง 69 แห่ง ยังเปิดให้บริการฉีดวัคซีนโควิด 19 ทุกวันพุธ โดยประชาชนสามารถเข้ารับบริการแบบ walk in ได้ที่ศูนย์บริการสาธารณสุข กทม.ใกล้บ้าน
นอกจากนั้น ยังได้เน้นย้ำให้ประชาชนป้องกันตนเองจากโรคโควิด 19 และโรคติดเชื้อโรคระบบทางเดินหายใจอื่น ๆ โดยขอให้ประชาชนออกจากบ้านเมื่อจำเป็น สวมหน้ากากอนามัย โดยเฉพาะเมื่อมีอาการป่วยโรคทางเดินหายใจ เว้นระยะห่างอย่างน้อย 1-2 เมตรในทุกสถานที่ หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสหน้ากากอนามัย ปาก จมูก และตา แยกของใช้ส่วนตัวไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น ทำความสะอาดพื้นผิวที่ถูกสัมผัสบ่อย ๆ ผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปี และผู้มีโรคเรื้อรังออกจากบ้านเท่าที่จำเป็น เลือกรับประทานอาหารที่ร้อนและใช้ช้อนกล้าง ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจล ทั้งก่อนรับประทานอาหาร หลังใช้ห้องน้ำ หลังไอ จาม หรือสัมผัสจุดสัมผัสร่วมกับผู้อื่น และหากสงสัยว่า ตนเองมีความเสี่ยงควรตรวจหาเชื้อโควิด 19 (Antigen Test Kit : ATK) เพื่อยืนยันว่าติดเชื้อหรือไม่ อีกทั้ง สนอ.ได้สนับสนุนสื่อประชาสัมพันธ์ เช่น โปสเตอร์ แผ่นพับ แผ่นปลิว สื่ออินเทอร์เน็ตให้ศูนย์บริการสาธารณสุข กทม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาสัมพันธ์ความรู้การดูแลรักษาสุขภาพผ่านช่องทางต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนป้องกันตนเองจากการเจ็บป่วย
สำหรับการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในช่วงเทศกาลปีใหม่ กทม.ได้รณรงค์เน้นย้ำให้ประชาชนเพิ่มความต้องระมัดระวังป้องกันโรคโควิด 19 ในการจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ปีใหม่ทั้งในครอบครัว บุคคลใกล้ชิด หรือในสถานที่ทำงาน และหลังเทศกาลปีใหม่ให้สังเกตอาการตนเอง 7 วัน โดยระหว่างนี้หลีกเลี่ยงใกล้ชิดผู้สูงอายุ หรือผู้มีโรคประจำตัวเรื้อรัง หากมีอาการป่วยให้ตรวจ ATK เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่กระจายเชื้อโควิด 19
กทม.เตรียมความพร้อมด้านความปลอดภัย-จัดสิ่งอำนวยความสะดวก รองรับนักท่องเที่ยว
นายสิงห์ ลิ้มพิรัตน์ รองผู้อำนวยการสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว (สวท.) รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กทม.กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทาง เข้ามาในกรุงเทพฯ ว่า กทม.ได้จัดเตรียมความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนกรุงเทพฯ ในด้านต่าง ๆ อาทิ สวท.จัดทำข้อมูลพื้นฐานด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่รับผิดชอบ จัดทำข้อมูลวิเคราะห์ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้นในสถานที่ท่องเที่ยว และเส้นทางการท่องเที่ยวในพื้นที่ สำนักเทศกิจ (สนท.) บูรณาการกำลังเจ้าหน้าที่ออกตรวจร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่รับผิดชอบ สำนักงานเขตจัดเก็บถังขยะแบบทึบออกจากบริเวณสถานที่ท่องเที่ยวและเปลี่ยนเป็นถังขยะแบบใส จัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบกระถางต้นไม้ ท่อระบายน้ำ หรือพื้นที่ล่อแหลมที่อาจใช้ซุกซ่อนวัตถุระเบิด หรือวัตถุอันตรายไว้ได้ในบริเวณสถานที่ท่องเที่ยว และให้เจ้าหน้าที่เทศกิจ พนักงานรักษาความสะอาด รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมเฝ้าระวังสังเกตสิ่งแปลกปลอม หรือความผิดปกติต่าง ๆ ทั้งยานพาหนะ บุคคล และวัตถุต้องสงสัยบริเวณพื้นที่ท่องเที่ยวทั้งหมด หากพบเห็นสิ่งผิดปกติให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) ตรวจสอบและซ่อมบำรุงกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ในความรับผิดชอบบริเวณพื้นที่ท่องเที่ยวทั้งหมด ให้สามารถใช้งานได้และให้บันทึกภาพตลอดเวลา สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) สนับสนุนรถดับเพลิง รถอุปกรณ์กู้ภัย รถไฟฟ้าส่องสว่าง รถกระเช้า และรถอุปกรณ์พิเศษ พร้อมเจ้าหน้าที่ประจำบริเวณสถานที่จัดงานต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือกรณีเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง หรือเหตุฉุกเฉิน และสำนักอนามัย (สนอ.) และสำนักการแพทย์ (สนพ.) จัดเตรียมแพทย์ พยาบาล รถพยาบาล ประชาชนจิตอาสา พร้อมอุปกรณ์ที่จำเป็นสนับสนุนกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ร่วมปฏิบัติทางการแพทย์
นอกจากนี้ ในการเตรียมความพร้อมด้านความปลอดภัย สวท.ได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานช่วยเหลือนักท่องเที่ยว เพื่อเป็นศูนย์กลางประสานและสร้างความร่วมมือของทุกภาคส่วนให้ความช่วยเหลือ การอำนวยความสะดวก การแก้ไขปัญหาการหลอกลวง การดูแลความปลอดภัย และการบรรเทาทุกข์แก่นักท่องเที่ยว ณ อาคารส่วนการท่องเที่ยว ถนนพระอาทิตย์ เขตพระนคร และแต่งตั้งคณะทำงานประจำศูนย์ประสานงานช่วยเหลือนักท่องเที่ยวในพื้นที่กรุงเทพฯ รวมทั้งจัดจุดให้บริการนักท่องเที่ยว 17 จุด ประกอบด้วย จุดบริการส่วนหน้าส่วนการท่องเที่ยว จุดประชาสัมพันธ์อุโมงค์หน้าพระลาน ซุ้มบริการการท่องเที่ยวท่าช้าง ซุ้มบริการการท่องเที่ยวท่าเตียน ซุ้มบริการการท่องเที่ยววัดบวรนิเวศวิหาร เขตพระนคร ซุ้มบริการการท่องเที่ยวมาบุญครอง ซุ้มบริการการท่องเที่ยวสยามพารากอน เขตปทุมวัน ซุ้มบริการการท่องเที่ยวผ่านฟ้า เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ซุ้มบริการการท่องเที่ยวแพลทินัม ซุ้มบริการการท่องเที่ยวอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซุ้มบริการการท่องเที่ยวพญาไท เขตราชเทวี ซุ้มบริการการท่องเที่ยวเยาวราช ซุ้มบริการการท่องเที่ยว ริเวอร์ชิตี้ เขตสัมพันธวงศ์ ซุ้มบริการการท่องเที่ยวจตุจักร เขตจตุจักร ซุ้มบริการการท่องเที่ยวเบญจสิริ เขตคลองเตย ซุ้มบริการการท่องเที่ยวแอมบาสเดอร์ เขตวัฒนา และซุ้มบริการการท่องเที่ยวการบินไทย เขตบางรัก
ส่วนการเตรียมความพร้อมด้านสิ่งอำนวยความสะดวก กทม.ได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้เมืองมีความพร้อมในการเดินทาง อำนวยความสะดวกกับประชาชนและผลพลอยได้แก่นักท่องเที่ยว โดยพัฒนาเชิงกายภาพ ทางเท้า ทางเดินที่สะดวกต่อผู้คนทุกกลุ่มตามนโยบาย Bangkok for all และจัดกิจกรรมนำร่องท่องเที่ยวย่านพระนครโดยกลุ่มผู้พิการ กลุ่มผู้ใช้ Wheelchair ในแหล่งท่องเที่ยวบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ และพัฒนาระบบป้ายสื่อความหมายแนะนำแหล่งท่องเที่ยวให้เป็นรูปแบบใหม่ที่สามารถ Scan รับข้อมูลแผนที่ท่องเที่ยวผ่านระบบออนไลน์ รวมถึงกำหนดให้มีช่องทางการรับเรื่องร้องเรียน หรือแจ้งปัญหาความไม่ปลอดภัยของนักท่องเที่ยวผ่านจุดให้บริการนักท่องเที่ยวในพื้นที่กรุงเทพฯ 17 จุด ทางโทรศัพท์หมายเลข 0 2225 7612 ทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ [email protected] และเพจเฟซบุ๊ก Bangkok Tourism Division
สำหรับการเตรียมความพร้อมด้านการประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการท่องเที่ยวและข้อมูลการท่องเที่ยว สวท.ได้ประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการท่องเที่ยวและข้อมูลการท่องเที่ยว โดยจัดพิมพ์คู่มือท่องเที่ยวย่านประวัติศาสตร์ เพื่อให้บริการนักท่องเที่ยวทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ จำนวน 32,000 ฉบับ ประกอบด้วย 8 พื้นที่ ได้แก่ ย่านหัวตะเข้ ย่านบางลำพู ผ่าน Litte India ย่านตลาดน้อย ย่านรัตนโกสินทร์ ผ่านเยาวราช – สำเพ็ง ผ่านตลาดพลู และย่านคลองบางหลวง อีกทั้งได้จัดทำ E-book และอินโฟกราฟิกเผยแพร่ผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ขณะเดียวกันได้พัฒนาเว็บไซต์การท่องเที่ยว กทม. Visitbangkok.go.th ในลักษณะ Web Base Application เพื่อรองรับข้อมูลด้านการท่องเที่ยวและการเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มความสามารถการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวให้อยู่ในระดับสากล พัฒนาระบบให้รองรับการลงข้อมูลภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ รวมไม่น้อยกว่า ๓ ภาษา ได้แก่ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาจีน โดยจัดทำข้อมูลการท่องเที่ยวของ กทม.เช่น ข้อมูลแหล่งท่องเที่ยว ร้านอาหาร/ภัตตาคาร ที่พัก กิจกรรมการท่องเที่ยว คำแนะนำ วิธีการเดินทาง ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับกรุงเทพฯ ข้อมูลด้านความปลอดภัย บทความด้านการท่องเที่ยวกรุงเทพฯ ปฏิทินกิจกรรม 12 เดือน และข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวและนำเสนอรูปถ่ายแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่มีความสวยงามทั้ง 50 เขต
เขตบางรักล้างทำความสะอาดทางเท้าถนนสีลมต่อเนื่อง กวดขันผู้ค้างดลากถุงขยะป้องกันความสกปรกบนทางเท้า
นางธราพร อำนวยสาร ผู้อำนวยการเขตบางรัก กทม.กล่าวกรณีมีข้อวิจารณ์ทางเท้าบริเวณถนนสีลม สกปรกและเป็นคราบดำ อาจเกิดจากการลากขยะของผู้ค้าหาบเร่แผงลอยบริเวณดังกล่าวมายังจุดทิ้งขยะว่า สำนักงานเขตฯ ได้ตรวจสอบพบว่า บริเวณดังกล่าวเป็นจุดพักขยะ โดยสำนักงานเขตฯ ได้จัดเจ้าหน้าที่ล้างทำความสะอาดทางเท้าและถนนเป็นประจำวันเว้นวัน และล้างจุดพักขยะ ก่อนเวลา 09.00 น. เป็นประจำทุกวันจันทร์ – ศุกร์ ส่วนการตั้งวางถังขยะขนาดใหญ่ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีประชาชนสัญจรจำนวนมาก การตั้งวางถังขยะขนาดใหญ่จะกีดขวางทางสัญจร และบริเวณดังกล่าวเป็นเพียงจุดพักขยะรอการเก็บขนในช่วงเวลาหลังเวลา 18.00 น.เป็นต้นไป ประกอบกับใกล้บริเวณนั้นมีถังขยะแบบแยกประเภทตั้งถาวรอยู่แล้ว โดยในแต่ละวันเจ้าหน้าที่จะเข้าจัดเก็บขยะตั้งแต่ช่วงเย็นจนถึงเช้ามืดของอีกวัน รวมทั้งกวาดทางเท้าและถนนก่อนที่จะล้างทำความสะอาด ขณะเดียวกันได้ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการร้านค้าบริเวณใกล้เคียง รวมถึงประชาชนที่นำขยะมาทิ้งที่จุดรวมขยะไม่ให้ลากขยะออกมา เนื่องจากจะทำให้พื้นเป็นรอยและคราบน้ำ อย่างไรก็ตาม สำนักงานเขตฯ จะหมั่นตรวจตราอย่างต่อเนื่อง หากพบเห็นจะแจ้งให้แก้ไขโดยมัดถุงขยะให้เรียบร้อยและไม่ลากจูงถุงขยะทำให้น้ำขยะรั่วไหลสกปรกบนทางเท้า
นอกจากนั้น สำนักงานเขตฯ ได้จัดเจ้าหน้าที่เทศกิจลงพื้นที่ตรวจตรากวดขันผู้ค้าหาบเร่แผงลอยบริเวณดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกวัน เพื่อไม่ให้มีผู้ฝ่าฝืนตั้งวางจำหน่ายสินค้าบริเวณถนนสีลม กีดขวางทางสัญจรของประชาชน หากพบเห็นการฝ่าฝืนจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ หากพบเห็นความไม่สะอาดและไม่เป็นระเบียนเรียบร้อยสามารถแจ้งฝ่ายรักษาความสะอาด สำนักงานเขตบางรัก โทร. 02 234 3609