ที่ศาลาว่าการ กทม.(เสาชิงช้า) นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึงการดำเนินการป้องกันฝุ่นในโรงเรียนสังกัด กทม.ว่า กทม.มีห้องเรียนชั้นอนุบาล 429 แห่ง รวม 1,743 ห้อง หัวใจหลักการทำห้องเรียนปลอดฝุ่นคือ การทำห้องเรียนระบบปิด ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ เติมเครื่องฟอกอากาศและใช้นวัตกรรมทำห้องปลอดฝุ่น ปัจจุบันดำเนินการไปแล้ว 758 ห้อง คิดเป็นร้อยละ 43.5 ที่เหลืออีก 985 ห้องคิดเป็นร้อยละ 56.50
ทั้งนี้ ในปี 2567 มีการประสานหน่วยงานภายนอกจัดทำ CSR ห้องเรียนสู้ฝุ่น เพื่อให้ครบทั้งจำนวน คู่ขนานไปกับการสร้างความตื่นตัว โดยล่าสุดอยู่ระหว่างทำหลักสูตรเรื่องฝุ่นเป็นส่วนหนึ่งด้านภัยพิบัติที่เด็กต้องเรียนรู้ เช่นเดียวกับเรื่องภัยอื่น ๆ ให้เด็ก ๆ ตื่นตัวในการใช้ชีวิตในเมือง
เบื้องต้นช่างโรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร สำนักพัฒนาสังคม ดำเนินการปรับปรุงสภาพกายภาพของห้องให้เป็นระบบปิดโดยการกรุช่องเปิด ย้ายเครื่องปรับอากาศจากห้องที่ใช้งานน้อย ที่มีมาใช้ในห้องปลอดฝุ่น
“ช่วงนี้เป็นช่วงที่โรงเรียน กทม.ต้องเฝ้าระวังเข้มข้น ต้องปฏิบัติตามมาตรการและรายงานผู้บริหารทุกเช้า หลายโรงเรียนทำการปักธงสีแจ้งเตือนตามระดับของฝุ่น และกำชับไม่ให้มีการทำกิจกรรมกลางแจ้งในวันที่ค่าฝุ่นสูง”
พร้อมยกตัวอย่าง การยกเลิกเข้าแถวในช่วงค่าฝุ่นเป็นสีส้ม โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เช่น เด็กเล็ก หรือผู้มีโรคประจำตัว หรือป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ การให้เด็กเข้ามาอยู่ในห้องปลอดฝุ่น หรือห้องที่เป็นระบบปิด
อย่างไรก็ตาม นายศานนท์ ระบุว่า หากสถานการณ์ฝุ่นมีความรุนแรงติดต่อกัน ถือเป็นอำนาจของ ผอ.โรงเรียนจะพิจารณาสั่งหยุดเรียนชั่วคราว ให้เด็กเรียนทางออนไลน์ได้
ด้านสำนักการศึกษามีการรายงานที่ประชุมผู้บริหาร คาดว่าในปีการศึกษา 2567 จะสามารถทำห้องเรียนปลอดฝุ่นสำหรับห้องเรียนอนุบาล 1 (3 ขวบ) เพิ่มเติมให้โรงเรียนอย่างน้อย 191 แห่ง 191 ห้อง ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนจัดหาเครื่องฟอกตามกระบวนการ e-bidding ในส่วน 985 ห้องที่เหลือสำนักงานเขตจะเร่งรัดปรับปรุงกาพภาพให้เป็นระบบปิด จัดหาเครื่องปรับอากาศ.
ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 20 ธ.ค. 2566 (กรอบบ่าย)