นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยกับสื่อมวลชน ถึงมาตรการดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนในช่วงเทศกาลลอยกระทงของกรุงเทพมหานครในปีนี้ ว่า ลอยกระทงปีนี้จะเน้นเรื่องความปลอดภัยในพื้นที่รับผิดชอบ ทั้ง คลองโอ่งอ่าง คลองผดุงกรุงเกษม และที่วัดอรุณฯ สิ่งที่ต้องเฝ้าระวังคือคนเข้า-ออกในพื้นที่ ไม่ให้มีจำนวนเกิน เรื่องความปลอดภัยของท่าเรือ โป๊ะ สวนสาธารณะ ทั้ง 34 แห่งที่เปิดให้ประชาชนเข้าไปลอยกระทง ซึ่งหน่วยงานได้แบ่งการตรวจความพร้อมตามที่รับผิดชอบไปแล้ว เช่น เทศกิจดูแลความปลอดภัย สำนักสิ่งแวดล้อมดูแลเรื่องการจัดเก็บกระทง สำนักการจราจรและขนส่งดูแลความปลอดภัยของท่าน้ำ สำนักการแพทย์ดูแลเรื่องฉุกเฉิน สำนักการระบายน้ำ เริ่มปล่อยน้ำเข้ามายังคลองต่างๆ เพื่อเตรียมให้ประชาชนได้ลอยกระทง ซึ่งจะเห็นได้ว่าคุณภาพน้ำดีขึ้น และเขตดูแลเรื่องการจัดกิจกรรม โดยได้กำชับให้การจัดกิจกรรมต้องทำให้คนในพื้นที่ได้ประโยชน์ การขายของในงานต้องให้คนในชุมชนก่อนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่
“เรามีบทเรียนจากเหตุการณ์อีแทวอน ประเทศเกาหลีใต้ เรื่องของการดูแลทางเข้า-ออก จึงได้เตรียมรูปแบบไว้ ให้มีจุดเข้า-ออกที่ชัดเจน มีการประสานงานหากมีคนเข้ามามากก็ต้องหยุด นอกจะป้องกันเรื่องแออัดแล้ว ยังเป็นการป้องกันการเบียดกันจนตกน้ำด้วย โดยเฉพาะคลองโอ่งอ่างที่มีพื้นที่แคบกว่าที่อื่น ซึ่งต้องเน้นเรื่องความปลอดภัยมาก่อนเรื่องอื่น สำหรับเรื่องการตรวจอาวุธ การสแกนโลหะ ก็ต้องประสานกับตำรวจให้ร่วมดูแล” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว
• เตรียมเปิดลอยกระทงออนไลน์ ผ่านTraffy Fondue ลอยปัญหา เรื่องร้องเรียนให้ถึงมือกทม.
สถิติการจัดเก็บกระทงในปี65 พบว่าเป็นกระทงธรรมชาติร้อยละ 95.7 และกระทงโฟม ร้อยละ 4.3 เรื่องขยะในปีนี้ได้กำชับให้เร่งดำเนินการ ภายในเวลา 05.00 น.ของวันรุ่งขึ้นต้องเก็บให้หมด ไม่ปล่อยให้เน่าอยู่ในลำน้ำ หากเป็นกระทงธรรมชาติจะแยกไปทำปุ๋ยหมัก ส่วนกระทงที่เป็นโฟมจะถูกส่งไปกำจัดให้ถูกวิธี ซึ่งเชื่อว่าสถานการณ์โควิดที่ดีขึ้นและมีการเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น คาดว่าในปีนี้จำนวนกระทงจะมากขึ้นด้วย แต่หากเป็นไปได้อยากให้ประชาชนลอยกระทงแบบออนไลน์เพื่อประหยัดเวลาในการเดินทาง “ที่เน้นอีกเรื่องการลอยกระทงอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะจัดที่คลองโอ่งอ่าง และการเปิดให้ลอยกระทงผ่านระบบทราฟฟี่ ฟองดูว์ หากมีเรื่องที่อยากให้ผู้บริหารกรุงเทพมหานครดำเนินการ หรือมีเรื่องร้องเรียนก็ให้ลอยเป็นกระทงมาให้ผู้บริหารทราบ เพื่อส่งต่อไปยังเขตหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้แก้ไข ปรับปรุง ให้เป็นรูปธรรม
รณรงค์แนวคิด 3 ปลอด สร้างความมั่นใจในช่วงเทศกาลลอยกระทง
ในที่ประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร วันนี้ (20 พ.ย.66) หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักเทศกิจ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักการจราจรและขนส่ง สำนักการระบายน้ำ สำนักการแพทย์ สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว และสำนักงานประชาสัมพันธ์ ได้รายงานมาตรการดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนในช่วงเทศกาลลอยกระทงของกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย มาตรการก่อนลอยกระทง อาทิ การออกประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง มาตรการป้องกันอันตรายในช่วงเทศกาลลอยกระทง ประจำปี 2566 การตรวจสถานที่ผลิต สะสม จำหน่ายพลุ และการตรวจท่าเทียบเรือ โป๊ะ มาตรการในวันลอยกระทง อาทิ การจัดส่งเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกตามสถานที่ลอยกระทง การตั้งจุดกองอำนวยการตั้งแต่เวลา 17.00 น.เป็นต้นไป 2 จุด คือใต้สะพานพระราม 8 (ฝั่งธนบุรี) และคลองโอ่งอ่าง การจัดเจ้าหน้าที่ประจำจุดท่าเรือ โป๊ะ จุดละ 2 นาย พร้อมอุปกรณ์ช่วยชีวิต การดูแลความปลอดภัยริมแม่น้ำเจ้าพระยาโดยจัดให้มีเรือดับเพลิง ขนาด 38 ฟุต เรือท้องแบน เจ้าหน้าที่กู้ภัยทางน้ำ เรือตรวจการณ์ ดูแลตั้งแต่สะพานพระราม 7 ถึงสะพานพระราม 9 มาตรการหลังวันลอยกระทง ได้แก่ การรายงานการจัดเก็บขยะ จำนวนกระทง และรายงานผลอุบัติภัย
ในส่วนของการรณรงค์ประชาสัมพันธ์เรื่องความปลอดภัยในช่วงเทศกาลลอยกระทงในปีนี้ สำนักงานประชาสัมพันธ์ จะรณรงค์ภายใต้แนวคิด 3 ปลอด คือ 1.ปลอด…จากวัสดุไม่ธรรมชาติ 100% 2.ปลอด…จากประทัด โคมลอย พลุ 3.ปลอด…อันตรายจากโป๊ะ-ท่าเรือไม่แข็งแรง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน
—–