กทม.ประสานหน่วยงานสาธารณูปโภคร่วมกวดขันรถบรรทุกในโครงการก่อสร้าง ควบคุมน้ำหนักไม่ให้เกินกฎหมายกำหนด
นายธวัชชัย นภาศักดิ์ศรี ผู้อำนวยการสำนักการโยธา (สนย.) กทม. กล่าวถึงการบูรณาการความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเจ้าหน้าที่ร่วมตรวจสอบและกวดขันรถบรรทุกที่วิ่งบนถนนสายต่าง ๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ ในการบรรทุกน้ำหนักให้เป็นไปตามกฎหมายกำหนดว่า กรุงเทพมหานคร โดยสำนักการโยธา (สนย.) สำนักเทศกิจ (สนท.) และกรมทางหลวง (ทล.) ร่วมกวดขันการปฏิบัติตามประกาศผู้อำนวยการทางหลวงท้องถิ่น เรื่อง ห้ามใช้ยานพาหนะที่มีน้ำหนัก น้ำหนักบรรทุก หรือน้ำหนักลงเพลาเกินกว่าที่ได้กำหนด หรือโดยที่ยานพาหนะนั้นอาจทำให้ทางหลวงเสียหายเดินบนทางหลวงท้องถิ่นในเขตความรับผิดชอบของ กทม. ลงวันที่ 31 มีนาคม 2565 หากตรวจพบยานพาหนะที่มีน้ำหนักบรรทุกเกินกว่าประกาศดังกล่าวจะมีความผิดตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ทางหลวง พ.ศ.2535 (แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 2 พ.ศ.2549) มาตรา 61 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยเจ้าพนักงานทางหลวงจะดำเนินการจับกุมนำส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
นอกจากนั้น กทม.ยังได้ประสานความร่วมมือเจ้าของอาคารที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง หน่วยงานสาธารณูปโภคต่าง ๆ รวมถึงผู้รับจ้างของ กทม.ที่อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างโครงการให้ร่วมกวดขันรถบรรทุกในโครงการ เพื่อควบคุมให้บรรทุกน้ำหนักไม่เกินกฎหมายที่กำหนดและปฏิบัติตามข้อกฎหมายอย่างเคร่งครัด ขณะเดียวกันได้ประสานความร่วมมือหน่วยงานสาธารณูปโภค อาทิ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) การประปานครหลวง (กปน.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เพื่อตรวจสอบกำลังการรับน้ำหนักรถบรรทุก ยานพาหนะต่าง ๆ ว่า โครงการสร้างฝาบ่อพักชั่วคราว หรือฝาบ่อพักต่าง ๆ ออกแบบให้สามารถรองรับน้ำหนักในการสัญจรตามที่กฎหมายกำหนดและกรณีที่มากเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดได้หรือไม่ พร้อมทั้งให้สำรวจตรวจสอบสภาพฝาบ่อพักต่าง ๆ ในพื้นที่ขณะที่ก่อสร้างว่า มีการชำรุดเสียหายเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุหรือไม่ รวมทั้งให้หน่วยงานสาธารณูปโภคต่าง ๆ เสนอมาตรการและตรวจสอบเป็นประจำ
อีกทั้ง ได้มีการประชุมกำกับหน่วยงานสาธารณูปโภคที่ดำเนินการในผิวจราจร ซึ่งมีรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (รศ.วิศณุ ทรัพย์สมพล) เป็นประธานการประชุม โดยมีข้อสรุปให้กำชับทุกหน่วยงานควบคุมการใช้รถบรรทุกไม่ให้บรรทุกน้ำหนักเกินมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด พร้อมเข้มงวดตรวจสอบมาตรการด้านความปลอดภัยของโครงสร้างชั่วคราวงานก่อสร้างให้มีความมั่นคงแข็งแรง หากพบว่า มีความเสี่ยงให้เร่งแก้ไขซ่อมแซมให้มีความมั่นคงแข็งแรง รวมทั้งให้ทุกหน่วยงานตรวจสอบสภาพผิวฝาบ่อพักชั่วคราวทุกจุดให้เรียบในช่วงเวลาคืนสภาพผิวจราจร เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น พร้อมหาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดหลุม หรือพื้นถนนยุบตัว โดยพิจารณาใช้เครื่องสแกนตรวจสอบผิวจราจรเป็นระยะ ๆ โดยเฉพาะบริเวณถนนสายหลัก ซึ่งเป็นจุดที่มีผลกระทบต่อประชาชนมาก
นายสุราษฎร์ เจริญชัยสกุล ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ (สนน.) กทม. กล่าวว่า สนน.ได้แจ้งผู้รับจ้างที่อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างโครงการต่าง ๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่ใช้รถบรรทุกขนย้ายสิ่งของ หรือบรรทุกดิน ให้ตรวจสอบน้ำหนักรถบรรทุกที่อยู่ภายในโครงการไม่ให้บรรทุกน้ำหนักเกิน หากพบว่า มีการฝ่าฝืนจะสั่งระงับการก่อสร้างทันที พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมทางหลวง เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อหาบทลงโทษในลำดับต่อไป ขณะเดียวกัน กทม.มีมาตรการตรวจสอบและควบคุมงานก่อสร้างงานที่กระทบต่อผิวจราจรและการใช้เส้นทางสัญจรของประชาชน โดยเน้นย้ำมาตรการด้านความปลอดภัยระหว่างการก่อสร้าง ตลอดจนตรวจสอบการคืนสภาพผิวจราจรชั่วคราวในบริเวณที่มีการก่อสร้างให้อยู่ในสภาพเรียบร้อยและไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้รถใช้ถนน รวมทั้งตรวจสอบความแข็งแรงของโครงสร้างชั่วคราวในพื้นที่โครงการอย่างสม่ำเสมอ เพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
นุ่นนุ่น กทม.ประสาน กฟน.แก้ไขฝาบ่อพักชั่วคราว-ตรวจสอบผิวจราจรแนวรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ถ.ศรีนครินทร์
นายธวัชชัย นภาศักดิ์ศรี ผู้อำนวยการสำนักการโยธา (สนย.) กทม. กล่าวกรณีประชาชนร้องเรียนบริเวณแยกพัฒนาการ ใกล้สถานีรถไฟฟ้าหัวหมาก สายสีเหลือง ถนนทรุดทั้งสองฝั่งว่า สนย.ได้ตรวจสอบจุดเกิดเหตุดังกล่าวพบว่า เป็นงานก่อสร้างบ่อพักท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดินของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเหลืองบนถนนศรีนครินทร์ จึงได้ประสาน กฟน.ดำเนินการแก้ไขฝาบ่อพักชั่วคราวให้อยู่ในสภาพที่มั่นคงแข็งแรง ปลอดภัยต่อผู้ใช้รถใช้ถนนและสามารถสัญจรได้ตามปกติแล้ว
ส่วนการก่อสร้างของหน่วยงานสาธารณูปโภคต่าง ๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ สนย.ได้ประสานหน่วยงานสาธารณูปโภคเพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบสภาพผิวจราจรให้พร้อมใช้งานและตรวจสอบมาตรการความปลอดภัยระหว่างการก่อสร้าง รวมถึงเร่งปรับปรุงถนน เพื่อคืนพื้นที่ผิวจราจรให้เรียบร้อยแล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนและเพิ่มความคล่องตัวในการสัญจร
เขตบึงกุ่มตรวจสอบต้นไม้ใหญ่ในที่ดินส่วนบุคคลในซอยนวมินทร์ 80
นายสมพร มีหาดทราย ผู้อำนวยการเขตบึงกุ่ม กทม. กล่าวกรณีประชาชนขอให้ตรวจสอบต้นไม้ใหญ่ภายในซอยนวมินทร์ 80 เนื่องจากช่วงนี้ฝนตกลมแรงเกรงต้นไม้จะหักโค่นว่า สำนักงานเขตฯ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบต้นพญาสัตบรรณขนาดใหญ่ ขนาดรอบโคนประมาณ 150-200 เซนติเมตร (ซม.) จำนวน 2 ต้น บริเวณด้านข้างบ้านเลขที่ 30/184 หมู่บ้านศรีนครพัฒนา ซอยนวมินทร์ 80 ซอยแยก 10 โดยขณะตรวจสอบไม่พบเจ้าของบ้าน ซึ่งก่อนหน้านี้สำนักงานเขตฯ ได้ประสานเจ้าของต้นไม้ให้ตัดแต่งแล้ว แต่เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นที่ดินส่วนบุคคล ซึ่งต้องเสียค่าธรรมเนียมตามระเบียบของ กทม. เจ้าของบ้านจึงแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่า จะตัดแต่งต้นไม้เอง ทั้งนี้ หากเจ้าของบ้านมีความประสงค์จะให้สำนักงานเขตฯ ตัดต้นไม้ให้จะต้องเสียค่าธรรมเนียมตามข้อบัญญัติ กทม.เรื่องค่าบริการ พ.ศ.2530 หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะ สำนักงานเขตฯ โทร.0 2364 7419