กทม.บูรณาการความร่วมมือแก้ปัญหาสุนัขจรจัด-ออกหน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่เชิงรุกครอบคลุม 50 เขต
นายสุนทร สุนทรชาติ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย (สนอ.) กทม.กล่าวถึงมาตรการแก้ไขปัญหาสุนัขและแมวจรจัดในกรุงเทพฯ ว่า กรุงเทพมหานคร โดย สนอ. ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาสุนัขและแมวจรจัดในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยประสานความร่วมมือกับหน่วยงาน มูลนิธิ องค์กร เเละสมาคมที่เกี่ยวข้อง ในรูปแบบคณะกรรมการพิจารณาแก้ไขปัญหาสุนัข เเละเเมวจรจัดพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อบูรณาการการดำเนินงานร่วมกัน และ สนอ.ได้ทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับมูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย (Soi Dog Foundation) ออกหน่วยผ่าตัดทำหมัน เพื่อควบคุมจำนวนสุนัขและการป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ส่วนการเเก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนจากสุนัขเเละเเมวจรจัด สนอ. สำนักงานเขต และตัวแทนคณะกรรมการเเก้ไขปัญหาสุนัขเเละเเมวจรจัดฯ จะลงพื้นที่ร่วมกันเพื่อพิจารณาแก้ปัญหา โดยหากสุนัขกัด ทำร้ายคน เเละมีพฤติกรรมดุร้าย หรือมีความเสี่ยงที่จะสร้างความไม่ปลอดภัยจะพิจารณานำออกจากพื้นที่เข้าสู่ศูนย์ควบคุมสุนัข กทม.เพื่อกักสังเกตอาการ ป้องกันการก่อเหตุซ้ำ รวมทั้งผ่าตัด ทำหมัน เเละฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า กรณีสุนัขเเละเเมวจรจัดก่อเหตุเดือดร้อนรำคาญจะผ่าตัด ทำหมัน ควบคุมประชากรสัตว์ ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า เเละปล่อยกลับคืนพื้นที่เดิม เพื่ออยู่ร่วมกับชุมชน ป้องกันไม่ให้สัตว์จรจัดใหม่เข้ามาแทนที่ พร้อมทั้งให้ข้อเเนะนำแก่ประชาชนในการเลี้ยงสัตว์อย่างรับผิดชอบ ไม่ปล่อยทิ้งให้เป็นสัตว์จรจัดที่อาจก่อปัญหาเหตุเดือดร้อนกับสังคม
นอกจากนั้น สนอ.ยังได้ออกหน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่ผ่าตัดทำหมันควบคุมจำนวนสุนัขและแมว ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเชิงรุกในพื้นที่ 50 เขตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งดำเนินการตามลำดับความสำคัญของเรื่องจากประชาชน ชุมชน หน่วยงาน และองค์กรต่าง ๆ ตลอดจนการบูรณาการระหว่างหน่วยงานของ กทม.ทั้งศูนย์บริการสาธารณสุข กทม.สำนักงานเขต และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการในชุมชน วัด ศาสนสถานต่าง ๆ ขณะเดียวกัน สนอ.ได้เพิ่มอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ในการดำเนินงานและเพิ่มการออกหน่วยเชิงรุกครอบคลุม 50 เขต ทั้งในวันเวลาราชการและวันหยุดราชการ ส่วนการประชาสัมพันธ์การออกหน่วยสัตวเเพทย์เคลื่อนที่จะดำเนินการผ่านช่องทางออนไลน์ทั้งเพจเฟซบุ๊ก กลุ่มควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า สำนักงานสัตวแพทย์สาธารณสุข เฟซบุ๊ก สนอ.และเฟซบุ๊ก กรุงเทพมหานคร โดยประชาชนสามารถแจ้งเรื่องเกี่ยวกับสุนัขเเละเเมวได้ตามช่องทางต่าง ๆ ดังนี้ (1) เรื่องร้องเรียนผ่านระบบ Traffy Fondue และสายด่วน กทม.1555 (2) กรณีสุนัขกัดทำร้ายคน หรือมีพฤติกรรมดุร้าย หรือมีความเสี่ยงที่จะสร้างความไม่ปลอดภัยแก่ประชาชน ติดต่อกลุ่มควบคุมและพักพิงสุนัข สำนักงานสัตวแพทย์สาธารณสุข สนอ.หมายเลขโทรศัพท์ 02 328 7460 และ (3) กรณีสุนัข หรือแมวสงสัย หรือสัมผัสโรคพิษสุนัขบ้า ติดต่อกลุ่มควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า สำนักงานสัตวแพทย์สาธารณสุข สนอ.หมายเลขโทรศัพท์ 02 248 7417 หรือ 02 328 7460 หรือสายด่วน กทม.1555
กทม.เร่งปรับปรุงทางเท้าแยกประตูน้ำ-ถ.ศรีอยุธยา ลดผลกระทบผู้ใช้เส้นทาง
นายธวัชชัย นภาศักดิ์ศรี ผู้อำนวยการสำนักการโยธา (สนย.) กทม.กล่าวกรณีสื่อออนไลน์โพสต์ภาพและข้อความวิจารณ์การปรับปรุงทางเท้าบริเวณถนนราชปรารภล่าช้า ประชาชนไม่ได้รับความสะดวกในการสัญจรว่า สนย.ได้ตรวจสอบพบว่า บริเวณดังกล่าวอยู่ระหว่างการปรับปรุงทางเท้า ช่วงจากแยกประตูน้ำถึงถนนศรีอยุธยา โดยทางเท้าบริเวณทางข้าม (ทางม้าลาย) อยู่ระหว่างปรับปรุงทางลาดคนพิการ เพื่อให้คนพิการที่ใช้วีลแชร์สามารถข้ามถนนได้อย่างสะดวกมากขึ้น ทั้งนี้ ได้กำชับผู้รับจ้างดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนที่ใช้เส้นทางดังกล่าว
กทม.ประสาน กปน.กำชับผู้รับจ้างคืนผิวจราจรให้เรียบร้อยระหว่างก่อสร้างรางระบายน้ำในซอยอินทามระ 47
นายสุราษฎร์ เจริญชัยสกุล ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ (สนน.) กทม.กล่าวกรณีมีข้อวิจารณ์การปรับปรุงฝาท่อระบายน้ำบริเวณซอยอินทามระ 47 ว่า บริเวณดังกล่าวอยู่ระหว่างการก่อสร้างรางระบายน้ำ เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังผิวจราจรบริเวณถนนประชาสุข ซึ่งระหว่างการก่อสร้างพบอุปสรรคท่อประปาขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 300 มิลลิเมตร กีดขวางแนวก่อสร้างบริเวณปากซอยอินทามระ 47 และซอยอินทามระ 51 สนน.จึงได้ประสานการประปานครหลวง (กปน.) ให้รื้อย้ายท่อประปาดังกล่าวแล้วเสร็จและคืนผิวจราจรชั่วคราวไว้ เพื่อจะดำเนินการก่อสร้างรางระบายน้ำต่อไป ทั้งนี้ ปัจจุบันได้ให้ผู้รับจ้างเข้าแก้ไขปูยางแอสฟัลต์ปิดร่องถนนชั่วคราวแล้ว และจำเป็นต้องขุดเปิด-ปิด เพื่อทำงานก่อสร้างรางระบายน้ำให้แล้วเสร็จภายในเดือน พ.ย. นี้ โดยได้กำชับผู้รับจ้างคืนสภาพผิวจราจรให้เรียบร้อยและไม่เป็นหลุมบ่อขรุขระ เพื่อความปลอดภัยของประชาชนในการสัญจร
กทม.เดินหน้าออกหน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่สุ่มตรวจสัตว์ปีกเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนก
นายสุนทร สุนทรชาติ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย (สนอ.) กทม.กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมเฝ้าระวังและป้องกันโรคไข้หวัดนกในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า กรุงเทพมหานคร โดย สนอ.ได้เตรียมความพร้อมเฝ้าระวังและป้องกันโรคไข้หวัดนกในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยประสานความร่วมมือกับสำนักงานเขต 50 เขต และสำนักงานปศุสัตว์พื้นที่กรุงเทพมหานคร กรมปศุสัตว์ ในพื้นที่เขตต่าง ๆ ร่วมออกหน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่เฝ้าระวังโรคเเละติดตามสถานการณ์ของโรคไข้หวัดนกในฟาร์มสัตว์ปีก สนามชนไก่ สถานประกอบการที่เกี่ยวกับสัตว์ปีก และสถานที่ที่มีนกพิราบรวมฝูงกันจำนวนมาก โดยมีผลการดำเนินงานในพื้นที่ 50 เขต ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 31 ต.ค.66 ดังนี้ ออกหน่วยสัตวเเพทย์เคลื่อนที่ตรวจเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนกจำนวน 182 ครั้ง ดำเนินการแก้ไขปัญหาร้องเรียนจากประชาชน ลงพื้นที่สอบสวนและเฝ้าระวังโรค จำนวน 22 ครั้ง และสุ่มเก็บตัวอย่างจากสัตว์ปีก จำนวน 1,046 ตัวอย่าง ซึ่งผลการสุ่มตรวจตัวอย่างไม่มีรายงานการตรวจพบเชื้อไข้หวัดนก
ส่วนกรณีพบสัตว์ปีกป่วยตายจากเชื้อไข้หวัดนก กทม.จะประสานความร่วมมือกับสำนักงานปศุสัตว์พื้นที่กรุงเทพมหานครและสำนักงานเขต เพื่อลงพื้นที่สอบสวนควบคุมโรคทั้งในคนและในสัตว์ กักกันโรค พ่นน้ำยาทำลายเชื้อโรค และวางแผนลดจำนวนสัตว์ปีกในพื้นที่พบโรค ขณะเดียวกันได้ร่วมกับสำนักงานเขตทั้ง 50 เขตและสำนักงานปศุสัตว์พื้นที่กรุงเทพมหานคร กรมปศุสัตว์ ออกหน่วยเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนกและแจกจ่ายสื่อประชาสัมพันธ์ แนะนำวิธีการป้องกันโรคไข้หวัดนก และแจ้งเตือนประชาชนห้ามบริโภคสัตว์ปีกที่ป่วยตายผิดปกติ ทั้งนี้ หากจำเป็นต้องสัมผัสสัตว์ปีกป่วยตาย ผู้เลี้ยงสัตว์ปีกต้องสวมใส่ถุงมือป้องกันและล้างมือให้สะอาดหลังการสัมผัสซาก กรณีพบผู้ป่วยจากการสัมผัสสัตว์ปีกให้แจ้งสายด่วนสำนักอนามัย กทม.โทร. 02 203 2872 หรือสายด่วน กทม.1555 ทันที