กทม.เผย เตาเผาขยะสายไหม งบปี’67 วงเงิน 4,410 ล้านบาท (ค่ากำจัด 600 บาท/ตัน) อยู่ในแผน จัดซื้อจัดจ้าง คาดเริ่มสร้างปี’69/ที่อ่อนนุช-หนองแขม ยังรอใบอนุญาตประกอบกิจการพลังงาน อนาคตมี 3 เตาเผาขยะผลิตไฟฟ้าเป็นมิตรสิ่งแวดล้อม
นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการกำจัดมูลฝอยโดยระบบเตาเผามูลฝอย ที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยสายไหม ว่า เป็นเตาเผาขยะผลิตกระแสไฟฟ้าขนาด ไม่น้อยกว่า 1,000 ตัน/วัน อยู่ในงบประมาณปี 2567 ซึ่งผ่านสภากรุงเทพมหานครแล้ว โดยตั้งราคากลาง ค่าจัดการขยะ 600 บาท/ตัน ปรับลดลงจากผลการศึกษาไว้ 1,000 บาท/ตัน
โดยระบบเตาเผามูลฝอยที่ศูนย์ฯ สายไหม รายละเอียดผลการศึกษา ดังนี้ เป็นเทคโนโลยี เตาเผาแบบตะกรับ (Stoker Type) ปริมาณขยะ ไม่น้อยกว่า 1,000 ตัน/วัน กำลังการผลิต 24 เมกะวัตต์/ ขายไฟฟ้า 19 เมกะวัตต์ ค่า Tipping Fee 900 บาท/ตัน วงเงินทั้งโครงการ 6,600 ล้านบาท (ค่ากำจัด 6,570 ล้านบาท) (ค่าจ้างที่ปรึกษาคุมงานก่อสร้างโรงงาน 30 ล้านบาท) รูปแบบการลงทุน Build – Operate – Transfer (BOT) ระยะเวลาดำเนินการ 24 ปี (หาตัวผู้รับจ้าง 1 ปี ก่อสร้างและทดสอบระบบ ขนาด กว้าง 3 คอลั้มน์ x สูง 4 นิ้ว 3 ปี เดินระบบ 20 ปี) เป็นการให้เอกชนร่วมลงทุนก่อสร้างโรงงานพร้อมเดินระบบกำจัดมูลฝอย โดยใช้เทคโนโลยีในการเผาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถได้ประโยชน์จากการเผามูลฝอยกลับคืนมาในรูปของพลังงานไฟฟ้า และเป็นไปตามมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม ในส่วนราคากลางค่าจัดการขยะ สำนัก สิ่งแวดล้อมได้สืบราคาเพื่อประกอบการพิจารณาขอตั้ง งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ซึ่ง บมจ. ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ เสนอราคาต่ำสุดตันละ 600 บาท สำนักสิ่งแวดล้อมจึงเสนอได้รับงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 วงเงิน 4,410,000,000 บาท (ค่ากำจัด 4,380 ล้านบาท) (ค่าจ้างที่ปรึกษาคุมงานก่อสร้างโรงงาน 30 ล้านบาท) ขณะนี้อยู่ระหว่างลงแผนการจัดซื้อจัดจ้าง คาดจะได้เริ่มก่อสร้างปี 2569
ส่วนโครงการเตาเผาขยะ 2 โรง ขนาดไม่น้อยกว่า 1,000 ตันต่อวัน ที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยหนองแขม และอ่อนนุช ที่ประมูลได้บริษัทผู้ก่อสร้างแล้ว อยู่ระหว่างขั้นตอนผู้ให้สัญญาดำเนินการยื่นขอใบอนุญาตประกอบกิจการพลังงานตามพระราชบัญญัติการประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2550 และดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งถ้าได้แล้วก็จะเริ่มก่อสร้างได้ โดยค่าจัดการขยะที่หนองแขม 775 บาท/ตัน ปรับลดลงจากผลการศึกษาไว้ 1,000 บาท/ตัน โดยผู้ให้สัญญาคือ บริษัท ซีแอนด์จี เอ็นไวรอนเมนทอล โปรเท็คชั่น (ประเทศไทย) จำกัด วงเงินดำเนินการ 5,657,500,000 บาท (ราคาต่อหน่วย 775 บาท/ตัน) ส่วนที่อ่อนนุช 789 บาท/ตัน ปรับลดลงจากผลการศึกษาไว้ 1,000 บาท/ตันเช่นกัน โดยผู้ให้สัญญาคือ บริษัท นิวสกาย เอ็นเนอร์จี (แบงค็อก) จำกัด วงเงินดำเนินการ 5,759,700,00 บาท (ราคาต่อหน่วย 789 บาท/ตัน) ทั้ง 2 โรง กำลังการผลิตไฟฟ้า 30 เมกะวัตต์ ค่า Tipping Fee 1,000 บาท/ตัน ระยะเวลาดำเนินการ ออกแบบก่อสร้างจริง 150 วันก่อสร้าง 1,000 วัน-ดำเนินการบริหารจัดการ 20 ปี ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการ โดยผู้ให้สัญญายื่นขอใบอนุญาตประกอบกิจการพลังงานตามพระราชบัญญัติการประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2550 และดำเนินการ ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ที่มา: นสพ.แนวหน้า ฉบับวันที่ 17 ต.ค. 2566