นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยหลังกิจกรรมผู้ว่าฯ สัญจรสำนักวางแผนและพัฒนาเมืองว่า เนื่องจากเป็นสำนักที่มีบทบาทสำคัญในการจัดผังเมืองที่กำหนดทิศทางเมืองในอนาคตได้ ในโอกาสนี้จึงหารือหลายเรื่องตั้งแต่ การจัดการฐานข้อมูลวิจัยของเมือง ซึ่งเคยศึกษาวิจัยกันเป็นจำนวนมาก แต่ไม่ได้นำไปใช้ รวมถึงการขาดบุคลากรด้านการศึกษาและพัฒนาอย่างนักเศรษฐศาสตร์เมือง ปัจจุบัน กทม.มีนักวางผังเมือง ซึ่งมองเพียง จากฝั่ง Supply Side แต่ยังขาดความรู้ฝั่ง Demand Side ว่ามีความต้องการพื้นที่แต่ละประเภทอย่างไร
รวมถึงบุคลากรด้านโบราณคดี ซึ่ง จะขอความร่วมมือบูรณาการจากองค์กรอื่น ๆ แทนการหาอัตรา เพื่อเลี่ยงปัญหาความก้าวหน้าทางอาชีพของบุคลากร จากนั้นจะจัดการให้มีนักผังเมืองประจำกลุ่มเขตทั้ง 6 โซน เพื่อการจัดการผังเมืองแต่ละโซนเฉพาะ
ผู้ว่าฯกทม. ยังกล่าวถึงผังเมืองรวมฉบับแก้ไข ครั้งที่ 4 ซึ่งทบทวนใหม่ให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.การผังเมือง พ.ศ. 2562 มีการเพิ่มผังแนบท้ายประกาศ ที่เป็นโอกาสนี้ในการปรับปรุงเนื้อหาจากเดิมบอกเพียงพื้นที่ใช้สอย ให้สามารถบอกความน่าจะเป็นของเมืองในอนาคตได้ด้วย โดยใช้เครื่องมือ เช่น FAR Bonus ซึ่งจะสามารถเพิ่มพื้นที่สำหรับที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้น้อยในเมือง หรือศูนย์สำหรับหาบเร่แผงลอย ซึ่งจะเร่งให้แล้วเสร็จภายในปีหน้า
อีกปัญหาของผังเมืองคือ ผังด้านขนส่ง และผังที่โล่ง มีการกำหนดถนนและคลองในอนาคต แต่การนำไปใช้แต่ละครั้งมักไม่ทันกันเพราะสีผังเมืองเปลี่ยนไปก่อน ดังนั้น หน่วยงานจำเป็นต้องบูรณาการกัน โดยจะพยายามก่อสร้างถนนหรือเส้นทางระบายน้ำให้เป็นไปตามผังเมือง ตลอดจนปรับปรุงข้อบัญญัติผังเมืองจำนวนมากที่ล้าสมัย อยู่ระหว่างยกเลิก 11 ฉบับและอยู่ระหว่างศึกษาปรับปรุงอีกจำนวนหนึ่ง.
ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 30 พ.ย. 2565 (กรอบบ่าย)