ในการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมวิสามัญ สมัยที่2 ครั้งที่2 ประจำปีพุทธศักราช 2566 ณ อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (ดินแดง) วันนี้ (27 ก.ย.66) : นายเอกกวิน โชคประสพรวย สมาชิกสภากรุงเทพมหานครเขตราชเทวี ตั้งกระทู้ถามสด เรื่อง แนวทางการแก้ไขปัญหาจราจรบริเวณหน้าศูนย์การค้า เดอะ แพลทินัม แฟชั่น มอลล์ เขตราชเทวี
เนื่องจากมีรถยนต์โดยเฉพาะรถแท็กซี่จอดรอรับผู้โดยสารบริเวณหน้าศูนย์การค้า เดอะ แพลทินัม แฟชั่น มอลล์ เขตราชเทวี จำนวนมาก ทำให้การจราจรติดขัด ซึ่งเดิมบริเวณดังกล่าวก็มีการจราจรที่หนาแน่นอยู่แล้ว เกิดการร้องเรียนจากประชาชนต่อเนื่อง ทั้งนี้สาเหตุอาจมาจากศูนย์การค้าฯ นำที่จอดรถบางส่วนจัดทำเป็นตลาด ทำให้ที่จอดรถรองรับลูกค้าไม่เพียงพอ อย่างไรปัญหาดังกล่าวอาจไม่ใช่ความรับผิดชอบของกรุงเทพมหานครโดยตรง แต่ขอให้กรุงเทพมหานครประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ประกอบการเพื่อเร่งแก้ไข ลดความเดือดร้อนให้ประชาชน รวมถึงขอสอบถามแนวทางการแก้ไขปัญหาจราจรบริเวณหน้าศูนย์การค้า เดอะ แพลทินัม แฟชั่น มอลล์ เขตราชเทวี ของกรุงเทพมหานคร ว่ามีการเตรียมแนวทางไว้อย่างไรบ้าง
“เข้าใจว่าเรื่องนี้อาจไม่ได้อยู่ในความดูแลของกรุงเทพมหานครทั้งหมด แต่ขอใช้พื้นที่สภากทม.ในวันนี้ชี้แจงเพื่อให้ผู้ประกอบการได้รับทราบปัญหา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไข เพราะสก.ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนมาอย่างต่อเนื่องและเมื่อได้รับเรื่องร้องเรียน สก.ก็ไม่ได้นิ่งเฉย ได้นำเรื่องมาสะท้อนในที่ประชุมสภากทม.เพื่อให้ร่วมหาแนวทางการแก้ไข โดยเฉพาะเรื่องปัญหารถติดหน้าศูนย์การค้า เดอะ แพลทินัมฯ ซึ่งต่อเนื่องไปยังถนนสายอื่น ๆ อยู่บ่อยครั้ง การนำที่จอดรถมาเป็นสถานที่ขายของไม่แน่ใจว่าเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ จึงขอให้ผู้ประกอบการให้ความร่วมมือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่สัญจรไปมา” นายเอกกวิน กล่าว
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ปัญหาการจราจรเป็นปัญหาใหญ่ จุดนี้ได้ลงพื้นที่มากกว่า 10 ครั้ง อย่างเช่นที่สก.เข้าใจว่าไม่ใช่อำนาจของกทม.ในการที่จะลงไปจับปรับบนผิวถนนได้ กทม.มีอำนาจเฉพาะบนฟุตบาททางเท้า ส่วนบนถนนต้องอาศัยความร่วมมือจากตำรวจจราจรและกองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งปัญหาไม่ใช่แค่ที่จุดนี้ ยังมีจุดบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิล์ด และห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ โดยรวมพบว่ามีปัญหาจุดฝืดลักษณะนี้ 127 จุด การแก้ปัญหาในระยะสั้นต้องร่วมมือกับตำรวจให้มากขึ้น ส่วนในระยะยาวต้องทำให้เป็นรูปธรรมและบูรณาการ ที่ผ่านมากทม.มีปัญหาในแง่ของการบูณาการกับหลายหน่วยงาน ทั้งตำรวจนครบาล การไฟฟ้านครหลวง และการประปานครหลวง อย่างไรก็ดีเมื่อได้มีโอกาสหารือกับนายกรัฐมนตรี ทำให้ได้รับการเห็นชอบให้จัดตั้งเป็นคณะทำงานพัฒนากรุงเทพมหานคร จำนวน 6 ท่าน โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ร่วมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และปลัดกรุงเทพมหานครเป็นเลขานุการ เพื่อผลักดันการแก้ไขปัญหา โดยเรื่องจราจรจะเป็นเรื่องแรกที่จะหารือกัน โดยนำจุดฝืดต่าง ๆ เป็นเป้าหมายการสั่งการแบบบูรณาการ ให้มีการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน ซึ่งต้นเดือนหน้าจะเริ่มการหารืออย่างเป็นทางการ
“ต่อไปจะมีการเอาเทคโนโลยีมาใช้มากขึ้น อย่างในเรื่องของการใช้กล้อง CCTV จับมอเตอร์ไซค์บนทางเท้า หากมีความร่วมมือกับตำรวจและกรมการขนส่งทางบกซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงคมนาคม การเอากล้อง CCTV มาจับปรับ น่าจะเป็นเรื่องที่เห็นชัดมากขึ้น เพื่อเอากฎหมายมาบังคับผู้กระทำความผิด ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ฝ่ายบริหารจะเร่งดำเนินการแก้ปัญหาจราจรไม่ใช่เฉพาะหน้าแพลททินัมเท่านั้น แต่จะแก้ไขปัญหาในทุกจุดให้เป็นรูปธรรมอย่างเร็วที่สุด” ผู้ว่าฯชัชชาติ กล่าว
‐————–