เปิดพิมพ์เขียวรถไฟฟ้า กทม.

สีเทามี 5 จุดตัด-สีเงินจอดป้ายสุวรรณภูมิ

เมกะโปรเจ็กต์รถไฟฟ้าในมือกรุงเทพมหานคร (กทม.)กำลังจะถึงจุดเปลี่ยนอีกครั้ง ภายใต้ยุค “ทีมชัชชาติ”ด้วยธีมการบริหารมหานครเมืองหลวงแนวใหม่ เชิดชูเป้าหมาย ให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง ปลุกปั้นให้กรุงเทพฯ เป็นมหานครน่าอยู่สำหรับทุกคน ให้ความสำคัญกับการสร้างฟาซิลิตี้ระดับเส้นเลือดฝอยทุกอณูของเมือง

กทม.สนลงทุนสีเขียว บางหว้า-ตลิ่งชัน

ล่าสุด “รศ.วิศณุ ทรัพย์สมพล” รองผู้ว่าราชการ กทม. กำกับดูแลงานด้านโครงสร้างพื้นฐาน ให้สัมภาษณ์กับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า เมกะโปรเจ็กต์รถไฟฟ้าที่ กทม.ศึกษาความเป็นไปได้มี 3 โครงการ ด้วยกัน ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายบางหว้า-ตลิ่งชัน, รถไฟฟ้าสายสีเทา วัชรพล-พระราม 9-ท่าพระ และรถไฟฟ้าสายสีเงิน บางนา-สุวรรณภูมิ

เบื้องต้น กทม.สนใจลงทุนเองเพียงโครงการเดียวคือ สายสีเขียว บางหว้า-ตลิ่งชัน วงเงินไม่สูงมากนักอยู่ที่ 14,000 ล้านบาทเชื่อมต่อ กับสายสีแดง ตลิ่งชัน-บางซื่อ-รังสิต ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งตลิ่งชันเป็นย่านชานเมืองที่ความเจริญกำลังคืบคลานออกไป

และสำคัญที่สุดสำหรับการเป็นระบบราชการก็คือ มีพื้นที่อยู่ในขอบอำนาจของ กทม.โดยตรง

ขณะที่อีก 2 เส้นทางมีแนวนโยบายส่งต่อให้รัฐบาลโดยกระทรวงคมนาคม ซึ่งคาดว่าจะไปสุดทางการเป็นเจ้าภาพที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เป็นคนทำ

ประกอบด้วย สาย “สีเทา” เหตุผลเพราะมีจุดตัดจำนวนมาก ทำให้ในอนาคตจะเกิดปัญหาการเดินทางข้ามสายทาง จะทำให้ ผู้โดยสารต้องจ่าย “ค่าแรกเข้า” ที่เป็นค่าใช้จ่ายดับเบิลหรือซ้ำซ้อน

อีกเส้นทางคือ สาย “สีเงิน” แนวเส้นทางทอดยาวตั้งแต่บางนา ถึงสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ ทำให้ล้ำเส้นทางปกครองของ กทม. ไปชนกับขอบอำนาจของจังหวัดสมุทรปราการ

สายสีเทาเต็มโครงการ 40 กม. 40 สถานี

ล่าสุด “ปัญญา ชูพานิช” ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและ แผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กระทรวงคมนาคม เปิดเผยเพิ่มเติมว่า โครงการรถไฟฟ้า 3 เส้นทางของ กทม. ถูกบรรจุอยู่ในแผนแม่บท M-Map2 อยู่แล้ว

โฟกัสรถไฟฟ้าสายสีเทา เส้นทางวัชรพล-พระราม 9-ท่าพระ ระยะทางรวม 40 กิโลเมตร จำนวน 40 สถานี ออกแบบเป็นรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (Monorail) ตัวรถและโครงสร้างเป็นรางเดี่ยว และทางวิ่งมีขนาดเล็ก การก่อสร้างทำได้ง่ายและรวดเร็ว ไม่กีดขวางจราจร สามารถผลิตจากโรงงานและยกประกอบ หน้างานได้รวดเร็ว รองรับผู้โดยสาร 8,000-20,000 คน/ชั่วโมง/ทิศทาง ความเร็วเฉลี่ย 35-80 กม./ชั่วโมง

ในเชิงวิศวกรรมการออกแบบ ยังรวมถึงด้านผลกระทบสิ่งแวดล้อม ทั้งในระหว่างการก่อสร้างและช่วงหลังการก่อสร้างมีน้อย เนื่องจาก ระบบรถไฟฟ้าโมโนเรล เป็นรถไฟฟ้ารางเดี่ยว ใช้ล้อยางเป็นตัวขับเคลื่อน ซึ่งทำให้มีเสียงดังน้อยกว่าระบบราง

ตามแผนแบ่งพัฒนา 3 เฟส คือ เฟส 1 ช่วงวัชรพล-ทองหล่อ ระยะทาง 16.3 กิโลเมตร จำนวน 15 สถานี, เฟส 2 ช่วงพระโขนง-พระราม 3 ระยะทาง 12.2 กิโลเมตร จำนวน 16 สถานี และเฟส 3 ช่วงต่อขยายพระราม 3-ท่าพระ 11.5 กิโลเมตร จำนวน 9 สถานี (ดูกราฟิกประกอบ)

“วัชรพล-ทองหล่อ” มี 5 จุดตัดรถไฟฟ้า

ทั้งนี้ วงเงินการลงทุน 2.9 หมื่นล้านบาท เป็นวงเงินการพัฒนา เฟส 1 ช่วงวัชรพล-ทองหล่อ ซึ่งได้รับอนุมัติรายงานผลกระทบ สิ่งแวดล้อม หรือ EIA เรียบร้อยแล้วตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2565 จึงเป็นโครงการรถไฟฟ้าที่มีความพร้อมมากที่สุดในขณะนี้ ในการนำออกมาเปิดประมูลหาเอกชนร่วมลงทุนในรูปแบบ PPP

ช่วงวัชรพล-ทองหล่อ มีระยะทาง 16.3 กิโลเมตร จำนวน 15 สถานี ประกอบด้วย 1.สถานีวัชรพล 2.สถานีนวลจันทร์ 3.สถานีเกษตร-นวมินทร์ 4.สถานีคลองลำเจียก 5.สถานีโยธินพัฒนา 6.สถานีลาดพร้าว 71 7.สถานีสังคมสงเคราะห์

8.สถานีฉลองรัช 9.สถานีศรีวรา 10.สถานีประชาอุทิศ 11.สถานีพระราม 9 12.สถานีเพชรบุรี-ทองหล่อ 13.สถานีแจ่มจันทร์ 14.สถานีทองหล่อ 10 และ 15.สถานีทองหล่อ

ไฮไลต์อยู่ที่มีจุดตัดหรือจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายอื่น 5 จุดตัดด้วยกัน ได้แก่

1.จุดตัดรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่ “สถานีวัชรพล” บริเวณจุดตัดถนนรามอินทรากับถนนประดิษฐ์มนูธรรม

2.จุดตัดรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลที่ “สถานีคลองลำเจียก”ของสายสีเทา กับ “สถานีต่างระดับฉลองรัช”ของสายสีน้ำตาล (แผนบนกระดาษ) ที่บริเวณทางต่างระดับฉลองรัชตัดกับถนนประเสริฐมนูกิจ

3.จุดตัดรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่ “สถานีฉลองรัช”ของสายสีเทา กับ “สถานีลาดพร้าว 71” ของสายสีเหลือง บริเวณจุดตัด ถนนลาดพร้าว กับถนนประดิษฐ์มนูธรรม

4.จุดตัดรถไฟฟ้าสายสีส้มที่ “สถานีพระราม 9” บริเวณจุดตัดถนนพระราม 9 กับถนนประดิษฐ์มนูธรรม

5.จุดตัดรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่ “สถานีทองหล่อ”ของสายสีเทากับ “สถานี BTS ทองหล่อ” เชื่อมด้วยสกายวอล์กห่าง 130 เมตร

สายสีเงิน บางนา 19.7 กม. 14 สถานี

สำหรับรถไฟฟ้าสายสีเงิน บางนา-สุวรรณภูมิ ออกแบบเป็นรถไฟฟ้ารางคู่ขนาดเบา (LRT-Light Rail Transit) รองรับ ผู้โดยสารสูงสุด 15,000-30,000 คน/ชั่วโมง/ทิศทาง โดยสามารถ ทำระดับดินหรือยกระดับได้ เป็นข้อเด่นที่สุดของระบบนี้ เพราะมีความคล่องตัว โดยหากอยู่ในพื้นที่เขตเมืองชั้นในทำเป็นรถไฟฟ้าใต้ดินเพื่อเลี่ยงปัญหาจราจร เมื่อออกนอกเมืองก็ใช้ระดับดินเช่นเดียวกับรถยนต์

โดยการศึกษาความเป็นไปได้โครงการ สรุปผลออกมาว่า จะก่อสร้างเป็นทางยกระดับตลอดเส้นทาง

ทั้งนี้ สายสีเงิน บางนา-สุวรรณภูมิ มีระยะทางรวม 19.7 กิโลเมตร จำนวน 14 สถานี แผนภาพรวมแบ่งเป็น 2 เฟส ได้แก่ เฟส 1 ระยะทาง 14.6 กิโลเมตร จำนวน 12 สถานี กับเฟส 2 ระยะทาง 5.1 กิโลเมตร จำนวน 2 สถานี โดยมีโรงจอดและศูนย์ซ่อมบำรุง หรือดีโป้ (Depot) พื้นที่ 29 ไร่ อยู่ติดกับสถานีธนาซิตี้

รายละเอียดระยะทาง 19.7 กิโลเมตร จำนวน 16 สถานี ประกอบด้วย

1.เริ่มต้นที่หัวถนนบางนา-ตราด สถานีแยกบางนา อยู่ห่างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ระหว่างสถานีอุดมสุข ห่าง 1.1 กิโลเมตร และสถานีบางนา ห่าง 1 กิโลเมตร ปัจจุบัน กทม.ได้ก่อสร้างสกายวอล์ก ทางเดินยกระดับเสร็จเรียบร้อยแล้ว ในอนาคตสามารถเชื่อมต่ออีกเพียง 150 เมตร เข้าสู่รถไฟฟ้าสายสีเงิน

2.สถานีประภามนตรี ใกล้โรงเรียนนานาชาติเบิร์คลีย์ และเยื้องกับโรงเรียนประภามนตรี

3.สถานีบางนา-ตราด กม.17 อยู่หน้าปากซอยบางนา-ตราด 17 4.สถานีบางนา-ตราด กม.25 ใกล้ห้างเซ็นทรัล บางนา และบิ๊กซี5.สถานีวัดศรีเอี่ยม สร้างคร่อมทางต่างระดับวัดศรีเอี่ยม อยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง 2 สถานี คือ ห่างสถานีศรีเอี่ยม ระยะทาง 200 เมตร กับห่างสถานีศรีลาซาล 1.25 กิโลเมตร

6.สถานีเปรมฤทัย ตรงข้ามอาคารเนชั่นทาวเวอร์7.สถานีบางนา-ตราด กม.6 ตรงข้ามบางนาทาวเวอร์8.สถานีบางแก้ว ใกล้ทางเข้า ม.รามคำแหง 2 9.สถานีกาญจนาภิเษก ตรงข้ามห้างเมกา บางนา10.สถานีวัดสลุด เยื้องซอยวัดสลุด และเยื้องห้างบุญถาวร11.สถานีกิ่งแก้ว อยู่หน้าตลาดกิ่งแก้ว12.สถานีธนาซิตี้ อยู่หน้าหมู่บ้านธนาซิตี้ ซึ่งจะมีดีโป้ขนาด 29 ไร่ อยู่ที่นี่

13.สถานีมหาวิทยาลัยเกริก อยู่หน้า ม.เกริกและ 14.สถานีสุวรรณภูมิใต้ อยู่ภายในสนามบินสุวรรณภูมิส่วนทิศใต้

ข้อมูลจำเพาะ สายสีเงินรูปแบบ LRT มีขนาดรางสแตนดาร์ดเกจ 1.435 เมตร มีระยะทางเฉลี่ยระหว่างสถานี 1 กิโลเมตร ความเร็ว สูงสุด 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง และความเร็วเฉลี่ย 36 กิโลเมตร/ชั่วโมง มีระยะเวลาเดินทางไปกลับตลอดเส้นทางอยู่ที่ 1 ชั่วโมง

ในด้านการกำหนดอัตราค่าโดยสาร ณ ปี 2564 อยู่ที่ 14-37 บาท มีอัตราแรกเข้า 12 บาท ค่าใช้จ่ายเพิ่ม 2 บาท/กิโลเมตร

รวมทั้งหมายเหตุการก่อสร้างเฟส 2 มีปัจจัยคำนึงมาจากแผนลงทุนสนามบินสุวรรณภูมิของ AOT-บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ด้วย ซึ่งในปี 2564 แจ้งว่ามีการขยับแผนพัฒนา สนามบินสุวรรณภูมิ โดยส่วนต่อขยายด้านทิศใต้ คาดว่าจะเปิดบริการในปี 2578

ส่งผลให้ส่วนต่อขยายของสายสีเงินอีก 5.1 กิโลเมตร จากปากทางถนนสุขุมวิทเข้าสู่สนามบิน จำนวน 2 สถานี ต้องขยับไปเปิดให้ตรงกันในปี 2578 ด้วย

 

 

ที่มา:  นสพ.ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 7 – 10 ก.ย. 2566

แชร์ข่าว:
กรุงเทพฯ มีอะไร อัพเดทข่าวสารฉับไว กิจกรรมที่น่าสนใจ และมีส่วนร่วมได้ รวมไว้ให้ที่นี่

©2022 สงวนลิขสิทธิ์ กรุงเทพมหานคร

สำนักงานประชาสัมพันธ์ สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร 173 ถนนดินสอ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กทม. 10200