กทม.เตรียมพร้อมมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร บรรเทาผลกระทบจากปัญหาขาดแคลนน้ำ
นายแสนยากร อุ่นมีศรี ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาสังคม (สพส.) กทม.กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมมาตรการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและเกษตรกรในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่อาจได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญว่า กรุงเทพมหานคร โดย สพส.ได้เตรียมความพร้อมแก้ไขปัญหาตั้งแต่ต้นปี 2566 โดยจัดประชุมคณะกรรมการพัฒนาท้องถิ่นการเกษตรฝั่งพระนครและธนบุรี ประกอบด้วย กรมชลประทาน กรมส่งเสริมการเกษตร กรมวิชาการเกษตร กรมการข้าว กรมปศุสัตว์ กรมประมง กรมพัฒนาที่ดิน กรมส่งเสริมสหกรณ์ สภาเกษตรกรของ กทม. สำนักการระบายน้ำ กทม. เพื่อวางแผนการบริหารจัดการน้ำ รวมทั้งการเพาะปลูก เพื่อไม่ให้ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง และติดตามแก้ไขปัญหาสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่กรุงเทพฯ ขณะเดียวกันได้ประสานกรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมด้านต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์และการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ เพื่อรับมือผลกระทบปรากฏการณ์เอลนีโญ รวมถึงขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานเกษตรพื้นที่ สำนักงานเกษตรเขต สำนักงานประมงพื้นที่ สำนักงานปศุสัตว์พื้นที่ สำนักการระบายน้ำ กทม. กรมชลประทาน ออกตรวจเยี่ยมสำนักงานเขต เกษตรกรและพื้นที่การเกษตรในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง เพื่อแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกร นอกจากนั้น สพส.ยังร่วมกับสำนักการระบายน้ำ กทม.และสำนักงานเขตหนองจอก จัดตั้งศูนย์ประสานงานการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่กรุงเทพฝั่งตะวันออก พร้อมทั้งติดตามข่าวสารสถานการณ์และปริมาณน้ำ หาวิธีการป้องกัน แก้ไข และหลีกเลี่ยงความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นให้มากที่สุดสำหรับมาตรการช่วยเหลือประชาชนและเกษตรกรในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่อาจได้รับผลกระทบจากปัญหาขาดแคลนน้ำ สพส.ได้ประสานโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษา กรมชลประทาน และสำนักการระบายน้ำ กทม.เพื่อติดตามสถานการณ์ปริมาณน้ำ และการเปิด – ปิดประตูระบายน้ำในพื้นที่เขต ตลอดจนประสานสำนักงานเขตประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้รับทราบข้อมูลสถานการณ์และปริมาณน้ำ เพื่อเตรียมตัวรับสถานการณ์ พร้อมทั้งได้ประสาน
นายกสมาคมชาวนาไทย เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำในคลองอย่างใกล้ชิด รวมถึงประสานผู้แทนสภาเกษตรกร เจ้าหน้าที่เขตบางขุนเทียน เขตบางบอน และเขตทุ่งครุ วัดค่าความเค็มติดตามสถานการณ์น้ำเค็มรุกล้ำเข้าพื้นที่เกษตร ทั้งนี้ หากเกิดเหตุความเสียหายจากภัยแล้ง สพส.จะให้ความช่วยเหลือเกษตรกร กทม.ที่ประสบภัยพิบัติ ตามแนวทางการให้ความช่วยเหลือเยียวยาจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรณีเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์) และแนวทางของกรุงเทพมหานคร (กรณีเกษตรกรที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนเกษตรกร)
ทั้งนี้ สพส.ได้ประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรในพื้นที่กรุงเทพฯ รับทราบข้อมูลสถานการณ์น้ำ เพื่อวางแผนการเพาะปลูกพืชและวางแผนการใช้น้ำอย่างเหมาะสม ขณะเดียวกันได้ขอความร่วมมืองดทำนาปีอย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมการปลูกพืชผัก หรือพืชไร่ที่มีอายุสั้นทดแทน เช่น แตงโม เมล่อน ตลอดจนลงพื้นที่ส่งเสริมความรู้ จัดฝึกอาชีพ และให้คำแนะนำ แก่เกษตรกรในพื้นที่กรุงเทพฯ ส่งเสริมตลาดเกษตรกร Farmer Market สนับสนุนช่องทางการจำหน่ายผลผลิตให้เกษตรกรอย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงสนับสนุนความร่วมมือรณรงค์สร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วมจากประชาชนและทุกภาคส่วนในการประหยัดน้ำและใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า เพื่อให้มีน้ำสะอาดใช้อย่างเพียงพอทั้งน้ำอุปโภคบริโภค การเกษตร อุตสาหกรรมและการรักษาระบบนิเวศ
กทม.เตรียมพร้อมป้องกันควบคุมโรคฝีดาษลิง เข้มงวดมาตรการคัดกรองผู้ป่วยใน รพ.-คลินิกเฉพาะทาง
นายสุนทร สุนทรชาติ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย (สนอ.) กทม.กล่าวถึงการติดตามแนวโน้มสถานการณ์และเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิงในพื้นที่กรุงเทพฯ หลังจากพบผู้เสียชีวิตจากโรคฝีดาษลิงรายแรกของไทยว่า จากการตรวจสอบจำนวนผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงในระบบเฝ้าระวังทางระบาดวิทยา (Epinet) และระบบรายงานการเฝ้าระวัง (รง.506) ในพื้นที่กรุงเทพฯ ช่วงเดือน ก.ค.66 พบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิง 46 คน ซึ่งมีจำนวนใกล้เคียงกับเดือน มิ.ย.66 ที่พบผู้ป่วย 48 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 11 ส.ค.66) ขณะที่ กทม.มีรายงานผู้ป่วยรวม 136 ราย ในจำนวนนี้ เป็นชาย 133 คน และเป็นหญิง 3 คน เป็นคนไทย 117 ราย ชาวต่างชาติ 19 ราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย 121 คน และติดเชื้อเอชไอวีร่วมด้วย ปัจจัยเสี่ยงหลักคือ การมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักที่เป็นผู้ติดเชื้อฝีดาษลิง
ทั้งนี้ กทม.มีระบบเฝ้าระวังติดตามกลุ่มเสี่ยงเชิงรับ โดยตรวจจับการระบาดจากระบบรายงานโรคและลงสอบสวนโรคทุกเคส และการป้องกันเชิงรุกโดยร่วมกับสำนักงานเขตและองค์กรภาคประชาสังคม NGO ให้ความรู้สถานประกอบการสุขภาพประเภทสปา ซาวน่า และสถานที่ที่เป็นจุดเสี่ยงต่อการมีเพศสัมพันธ์ของกลุ่มชายรักชาย รวมทั้งเพิ่มความเข้มงวดป้องกันและควบคุมการติดเชื้อในโรงพยาบาลและคลินิกต่าง ๆ โดยเฉพาะการให้บริการในคลินิกเฉพาะทาง เช่น คลินิกโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ คลินิกโรคผิวหนัง คลินิกรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวี รวมถึงประชาสัมพันธ์มาตรการป้องกันโรคฝีดาษลิงควบคู่กับการดูแลสุขภาพอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อลดการแพร่ระบาด นอกจากนั้น ยังได้รณรงค์ส่งเสริมความรู้ความเข้าใจลักษณะอาการของโรค รวมถึงขอให้ประชาชนสังเกตอาการและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคฝีดาษลิง โดยงดมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า ไม่สัมผัสแนบเนื้อกับผู้ที่มีผื่น ตุ่ม หรือหนอง แนะนำให้ล้างมือบ่อย ๆ และไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น โดยเน้นย้ำแม้ว่ามีเพศสัมพันธ์โดยใช้ถุงยางอนามัยจะป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ แต่ไม่สามารถป้องกันโรคฝีดาษลิงได้ เนื่องจากสามารถติดเชื้อได้จากการสัมผัสแบบแนบชิดเนื้อ
สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสามารถตรวจสอบอาการเบื้องต้นได้ด้วยตนเอง ดังนี้ หากมีผื่น หรือตุ่มขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ ทวารหนัก ปาก หรือตามร่างกาย และมีประวัติสัมผัสใกล้ชิด สัมผัสแนบชิด หรือมีเพศสัมพันธ์กับผู้สงสัยฝีดาษลิง หรือผู้ป่วยฝีดาษลิงให้สังเกตตนเองภายหลังสัมผัสผู้ป่วยภายใน 21 วัน หากมีอาการไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อย ต่อมน้ำเหลืองโต มีผื่น หรือตุ่มน้ำ หรือตุ่มหนองขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ หรือทวารหนัก หรือบริเวณรอบ ๆ ตามมือ เท้า หน้าอก ใบหน้า หรือบริเวณปาก ให้รีบเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลทันที โดยแจ้งอาการและประวัติเสี่ยงประกอบการวินิจฉัย