เขตประเวศสั่งหยุดดำเนินกิจการหลังเกิดเหตุสารเคมีรั่วไหล ตรวจสอบคุณภาพอากาศ-น้ำไม่พบสารพิษตกค้าง

นายธีรยุทธ ภูมิภักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) กทม.กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลภายในซอยเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซอย 25 ว่า สปภ.ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุสารเคมีรั่วไหล เลขที่ 1/22 ซอยเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซอย 25 ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 แขวงหนองบอน เขตประเวศ ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น เหตุเกิดที่ชั้น 1 เป็นถังบรรจุกรดไนตริก ขนาด 30 ลิตร จำนวน 5 ถัง เกิดการรั่วไหล จำนวน 3 ถัง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัย (หน่วยเก็บกู้สารเคมี) พร้อมรถปฏิบัติการกู้ภัยสารเคมีและวัตถุอันตรายเข้าปฏิบัติการโดยใช้ทรายกลบ เพื่อลดความเข้มข้นของสารเคมีก่อนเคลื่อนย้ายกรดไนตริกทั้งหมดไปเก็บรักษาไว้ที่อาคารจัดเก็บขยะอันตราย ศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช เพื่อกำจัดต่อไป ทั้งนี้ ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ประชาชนที่พบเหตุสารเคมี หรือวัตถุอันตราย สามารถแจ้งเหตุผ่านสายด่วน 199 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

นายดิชา คงศรี ผู้อำนวยการเขตประเวศ กทม.กล่าวว่า บริษัทดังกล่าวเปิดเป็นสำนักงานให้บริการล้างทำความสะอาดอุปกรณ์เครื่องทำความเย็นให้กับลูกค้า ณ สถานที่ตั้งของลูกค้า โดยไม่ได้รับอนุญาตจาก กทม.สำนักงานเขตประเวศ จึงได้มีคำสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่นให้เจ้าของบริษัทฯ หยุดดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับสารเคมีทันที ขณะเดียวกันได้จัดเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดบริเวณที่มีการรั่วไหล พร้อมทั้งนำสารเคมีที่เหลือไปเก็บไว้ที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช เพื่อรอการกำจัด ส่วนถังเปล่าที่เหลือ บริษัทฯ ได้จัดเก็บไปไว้ที่จังหวัดสมุทรปราการ ทั้งนี้ สำนักงานเขตฯ ได้ประสานสำนักอนามัย กทม.ตรวจสอบคุณภาพอากาศบริเวณที่เกิดเหตุและข้างเคียงพบว่า ค่า NO2 มีค่าเป็นศูนย์ สภาพอากาศในบริเวณดังกล่าวไม่มีสารพิษปนเปื้อน และสำนักการระบายน้ำ กทม.ได้เก็บตัวอย่างน้ำตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำบริเวณแหล่งน้ำสาธารณะข้างเคียงพบว่า ค่าระดับ pH (ค่าแสดงความเป็นกรด-เบสของสารที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ) มีค่าสภาพน้ำเป็นกลางอยู่ระหว่าง 6.7 – 7.1 ซึ่งสภาพน้ำมีค่าเป็นกลางแล้ว นอกจากนั้น สำนักงานเขตฯ ได้แนะนำให้เจ้าของบริษัทฯ ทำความเข้าใจกับเพื่อนบ้านในบริเวณที่เกิดเหตุให้ทราบว่า ขณะนี้สารเคมีได้ถูกนำไปเก็บไว้ที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุชเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า ไม่มีสารเคมีตกค้างในที่เกิดเหตุส่วนประชาชนที่อาศัยอยู่ติดกัน ซึ่งลักษณะบ้านเป็นทาวน์เฮาส์สามชั้นได้กลับเข้าบ้านเรียบร้อยแล้ว

กทม.ติดตามผลกระทบสิ่งแวดล้อมเหตุสารเคมีรั่วไหล บูรณาการหน่วยงานตรวจแนะนำสถานประกอบกิจการที่มีความเสี่ยง

นายสุนทร สุนทรชาติ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย (สนอ.) กทม.กล่าวถึงความคืบหน้าการติดตามผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม หลังเกิดเหตุสารเคมีรั่วไหลบริเวณซอยเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซอย 25 เขตประเวศว่า สนอ.ได้ประสานฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล สำนักงานเขตประเวศ ตรวจคุณภาพอากาศบริเวณภายในอาคารที่เกิดเหตุและข้างเคียง โดยขณะตรวจสอบไม่พบกลิ่นเหม็นสารเคมีและตรวจไม่พบสารไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2 มีค่าความเข้มข้น 0.00 ppm) ซึ่งเกณฑ์แนะนำค่าขีดจำกัดการรับสัมผัสสารเคมีทางการหายใจแบบเฉียบพลัน ระดับที่ 1 มีค่าความเข้มข้นไม่เกิน 0.50 ppm แสดงว่า สภาพอากาศไม่มีสารปนเปื้อน ส่วนการตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำทิ้งของเจ้าหน้าที่สำนักการระบายน้ำ พบว่า มีค่า ph ระหว่าง 6.7-7.1 แสดงว่า มีค่าสภาพน้ำเป็นกลาง ทั้งนี้ ที่ผ่านมา สนอ.ได้ดำเนินโครงการส่งเสริมการจัดการสารเคมีและวัตถุอันตรายในสถานประกอบการ โดยบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ เช่น กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กรมธุรกิจพลังงาน สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม.และสำนักงานเขตตรวจแนะนำสถานประกอบการที่มีความเสี่ยงด้านการจัดการสารเคมีอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ.2565 จนถึงปัจจุบัน รวมทั้งมีหนังสือขอความอนุเคราะห์สำรวจข้อมูลสถานประกอบกิจการสารเคมีและวัตถุอันตราย เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน เพื่อป้องกัน ควบคุม และเพิ่มมาตรการด้านความปลอดภัยอีกทางหนึ่งด้วย

เขตบางขุนเทียนแจงดำเนินการตามระเบียบกรณีการก่อสร้างกำแพงรั้วติดถนน

นางภัสรา นทีทอง ผู้อำนวยการเขตบางขุนเทียน กทม.กล่าวกรณีประชาชนร้องเรียนเขตบางขุนเทียนปล่อยให้บ้านหลังหนึ่งในซอยบางกระดี่ 14 ก่อสร้างกำแพงรั้วติดถนน สร้างความเสียหายให้ประชาชนว่า สำนักงานเขตฯ ได้ดำเนินการตามขั้นตอนและอำนาจหน้าที่ตามระเบียบและกฎหมาย โดยการก่อสร้างกำแพงรั้วดังกล่าวสร้างมาตั้งแต่ปี 2550 ซึ่งสำนักงานเขตฯ มีคำสั่งตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ให้ระงับการก่อสร้างอาคาร (แบบ ค.3) คำสั่งห้ามใช้อาคาร (แบบ ค.4) และคำสั่งให้แก้ไขเปลี่ยนแปลง (แบบ ค.5) พร้อมทั้งส่งเรื่องคดีถึงสถานีตำรวจนครบาล (สน.) แสมดำ จากนั้นเจ้าของอาคารได้แก้ไขตามคำสั่ง (แบบ ค.5) และได้ยื่นขออนุญาตก่อสร้างอาคาร โดยปัจจุบันเจ้าของอาคารได้รับใบอนุญาตก่อสร้างอาคารแล้วและกำแพงรั้วอยู่ในสภาพเสร็จเรียบร้อยแล้ว

เขตธนบุรีกวดขันจัดระเบียบร้านค้าซอยวุฒากาศ 5 ไม่ตั้งวางสิ่งของกีดขวางทางสัญจร

ว่าที่ร้อยตรี เดชาธร แสงอำนาจ ผู้อำนวยการเขตธนบุรี กทม.กล่าวกรณีมีข้อวิจารณ์ร้านจำหน่ายเครื่องสักการะตั้งวางของกีดขวางทางสัญจรซอยวุฒากาศ 5 ว่า สำนักงานเขตธนบุรี ได้จัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบกรณีดังกล่าว โดยขณะตรวจสอบบริเวณซอยวุฒากาศ 5 ถนนวุฒากาศ ไม่พบการตั้งวางสิ่งของกีดขวางบนทางเท้าและผิวการจราจร ขณะเดียวกันได้สอบถามเจ้าของร้านให้ข้อมูลว่า ภาพถ่ายดังกล่าวเป็นภาพถ่ายการจัดงานเทกระจาด เพื่อบริจาคสิ่งของให้กับผู้มีรายได้น้อยและงานสักการะเทพเจ้ากวนอู โดยจัดขึ้นปีละ 1 ครั้ง เป็นเวลา 1 วัน และได้จัดเสร็จสิ้นไปแล้วเมื่อวันที่ 27 ก.ค.66 ซึ่งได้ขออนุญาตต่อเจ้าพนักงานจราจรสถานีตำรวจนครบาล (สน.) ตลาดพลู และสำนักงานเขตฯ ตามขั้นตอนแล้ว ทั้งนี้ เจ้าของร้านขออภัยในความไม่สะดวกและจะระมัดระวังไม่ให้การจัดงานครั้งต่อไปส่งผลกระทบต่อประชาชน อย่างไรก็ตาม สำนักงานเขตฯ จะได้กวดขันจัดระเบียบ พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือผู้ประกอบการไม่ให้ตั้งวางสินค้าและสิ่งของกีดขวางทางสัญจรอย่างต่อเนื่องต่อไป