กทม. จับมือ กปน. ติดตั้งหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เพิ่ม 258 จุด พัฒนาคุณภาพชีวิตและยกระดับความปลอดภัยด้านอัคคีภัย
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายมานิต ปานเอม ผู้ว่าการการประปา นครหลวง ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOA) “การติดตั้งหัวจ่ายน้ำดับเพลิง (ประปาหัวแดง)” ระหว่าง กรุงเทพมหานคร (กทม.) และการประปานครหลวง (กปน.) เพื่อ ร่วมกันติดตั้งหัวจ่ายน้ำดับเพลิง (ประปา หัวแดง) ในพื้นที่ กทม. เพิ่มเติมจำนวน 258 จุด ภายใน 210 วัน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนใน กทม. ให้มีความปลอดภัย โดยเฉพาะจากเหตุอัคคีภัย ซึ่งเป็นภัยร้ายแรงต่อชีวิตและ ทรัพย์สินของประชาชน โดยมี รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯกทม. และนายสุเทพ เอื้อปกรณ์ รองผู้ว่าฯกปน. เป็นสักขีพยาน ผู้บริหารสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ผู้บริหารกปน. และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมพิธี ณ ห้องปิยราษฎร์ สำนักงานใหญ่ การประปานครหลวง เขตหลักสี่
ผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า การลงนาม ในครั้งนี้ การประปานครหลวง กับกรุงเทพมหานคร มีเป้าหมายที่จะร่วมมือกันติดตั้งหัวจ่ายน้ำดับเพลิง (ประปาหัวแดง) ในพื้นที่กรุงเทพฯ ปัจจุบันกรุงเทพมหานครมีสภาพ บ้านเรือนและประชาชนอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นโดยเฉพาะภายในชุมชนต่างๆ ซึ่งมีสภาพพื้นที่เป็นตรอกซอยขนาดเล็กและคับแคบ ไม่สะดวกแก่การสัญจรและเข้าระงับอัคคีภัย รวมทั้ง มีพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัย ที่สำคัญ ยังขาดแหล่งน้ำธรรมชาติ และหัวจ่ายน้ำดับเพลิง ทำให้มีอุปสรรคในการใช้น้ำ ในการดับเพลิง เนื่องจากรถดับเพลิงไม่สามารถเข้าถึงที่เกิดเหตุได้ หากเกิดอัคคีภัยขึ้นอาจก่อให้เกิดความเสียหายรุนแรง ประกอบกับปัจจุบันการเดินท่อเมนประปาเพื่อติดตั้งหัวจ่ายน้ำดับเพลิงของกปน. ยังไม่ครอบคลุม พื้นที่ที่เป็นจุดเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัย ซึ่งกรุงเทพมหานครมีความห่วงใยประชาชนในเรื่องนี้ หวังว่าการลงนามในวันนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นในการร่วมกัน พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ในกรุงเทพฯ ให้มีความปลอดภัยจากเหตุอัคคีภัย ซึ่งเป็นภัยร้ายแรง เพื่อให้ครอบคลุมทุกพื้นที่เสี่ยงภัยและเป็นไปตามมาตรฐานสากลต่อไป
“กทม.และกปน.จะมีความร่วมมือ กันต่อในอนาคต อาทิ เรื่องการเก็บ ค่าบำบัดน้ำเสีย ซึ่งกทม.ต้องเอาตัวเลข ของการใช้น้ำประปามาเป็นฐานในการ คำนวณค่าบัดน้ำเสียโดยคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นหลักการที่ทั่วโลกใช้กัน การก่อสร้างซึ่งต้องให้ไร้รอยต่อ อาทิ การก่อสร้าง การย้ายสาธารณูปโภค หรือการประปาเข้าไปก่อสร้างในถนนของ กทม. ก็จะมีการคุยกันเรื่องมาตรฐาน ต่างๆ และสุดท้ายคือเรื่องน้ำดื่ม ช่วงโควิด ที่ผ่านมา ได้มีการรื้อถอนจุดน้ำดื่มไป แต่จากนี้จะมีการติดตั้งเพิ่มเติม เพื่อลดการใช้ขวดพลาสติก ซึ่งน่าจะเห็นเป็นรูปธรรมภายใน 1 ปีจากนี้” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว
นายมานิต ปานเอม ผู้ว่าฯกปน. กล่าวว่า นอกจากการติดตั้งหัวจ่ายน้ำดับเพลิงร่วมกันแล้ว ทั้ง 2 หน่วยงาน จะร่วมกันพัฒนาโปรแกรมสำเร็จรูปหรือระบบสารสนเทศแสดงจุดติดตั้งหัวจ่ายน้ำดับเพลิงเพื่อใช้งานร่วมกัน รวมทั้งร่วมกันตรวจสอบสภาพการใช้งานของหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าระงับอัคคีภัยที่อาจเกิดขึ้น โดย กปน. จะติดตั้งมาตรวัดน้ำและอุปกรณ์การส่งสัญญาณระยะไกล เพื่อวัดผลการไหลของน้ำและแรงดันน้ำตามจุดต่างๆ ทั่ว กทม. ทำให้สามารถบริหารระบบการจ่ายน้ำให้สอดคล้องกับความต้องการของ ประชาชน และหากเกิดอัคคีภัยบริเวณใด จะสามารถผันน้ำเพื่อระงับเหตุได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ ในอนาคต กปน. และ กทม. จะยังคงร่วมมือกันติดตั้งหัวจ่ายน้ำดับเพลิง ในพื้นที่ กทม. เพื่อให้ครอบคลุมทุกพื้นที่เสี่ยงภัยและเป็นไปตามมาตรฐานสากลต่อไป
ที่มา: นสพ.แนวหน้า ฉบับวันที่ 17 ก.ค. 2566