กทม.วางมาตรการเข้มด้านความปลอดภัยโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ในพื้นที่
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประธานประชุมมาตรการความปลอดภัยการก่อสร้างโครงการ ขนาดใหญ่ในพื้นที่ถนนสาธารณะของกรุงเทพมหานคร โดยมี นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯกทม. นายธวัชชัย นภาศักดิ์ศรี ผู้อำนวยการสำนักการโยธา พร้อมผู้บริหารสำนัก ผู้แทนและผู้รับเหมาโครงการก่อสร้าง เข้าร่วม ณ ห้องประชุม 110AB ศูนย์การประชุม แห่งชาติสิริกิติ์ เขตคลองเตย
ผู้ว่าฯกทม. เปิดเผยว่า ได้เชิญผู้รับเหมาที่ทำโครงการขนาดใหญ่ในพื้นที่ กรุงเทพมหานครที่อยู่ในความดูแลรับผิดชอบ ของสำนักการโยธา ซึ่งมีทั้งโครงการก่อสร้างถนน สะพานข้ามแยก ทางลอด ทางยกระดับ โรงพยาบาล อาคารสำนักงานเขต สถานี ดับเพลิง มีทั้งหมด 42 ราย แต่มา 38 ราย โดยเรามองว่าผู้รับเหมาเปรียบเหมือนเป็น เพื่อนร่วมงานสำคัญในการสร้างความเจริญ ให้กับกรุงเทพมหานคร ที่ผ่านมาผู้รับเหมา ไม่มีปัญหาอะไร แต่มีเหตุการณ์ทางยกระดับ เกิดขึ้นที่ลาดกระบัง เลยไม่ได้รับการ ไว้วางใจจากประชาชน ฉะนั้นเราต้องร่วมมือ ร่วมใจกัน ในการสร้างความไว้วางใจให้เกิดขึ้น ในขั้นแรกให้ทุกทีมกลับไปทบทวนมาตรการความปลอดภัยโครงการทั้งหมดของตัวเอง ทั้งในส่วนของ สนย. ผู้ควบคุมงาน ผู้รับเหมา ให้มั่นใจว่าไม่มีช่องว่าง หรือ จุดโหว่ต่างๆ
ที่เน้นมากที่สุดเรื่องแรกคือ ความปลอดภัย ทั้งในแง่ความปลอดภัยในการก่อสร้าง ความปลอดภัยของผู้สัญจรไป-มา
เช่น ฝาท่อระบายน้ำที่เปิด คูน้ำที่ไม่มีตัวกั้น ไฟฟ้าส่องสว่างตอนกลางคืน ต้องไปทบทวนทั้งระบบ เรื่องที่ 2 คุณภาพชีวิตและ สิ่งแวดล้อม การควบคุมฝุ่น PM2.5 เรื่องของตกหล่นที่ตกจากรถ โดยใช้ Traffy Fondue ช่วยหาข้อบกพร่อง ในส่วนของประชาชนก็จะช่วยเป็นหูเป็นตาให้เรา ที่แจ้งเข้ามาเป็นเรื่องความสะอาดเรียบร้อย ฝุ่น PM2.5 สิ่งของตกหล่น เรื่องที่ 3 การจัดการจราจร ซึ่งก็เป็นปัญหาสำคัญ ที่ผ่านมาผู้รับเหมาไปเน้นเรื่องพื้นที่การก่อสร้าง แต่ไม่คืนพื้นที่ให้ กลับไปเอาสิ่งของมากองไว้เอารถ มาจอดในพื้นที่สาธารณะแบบนี้คงไม่ได้ต้องไปหาที่อื่น แล้วคืนทางเท้าให้แก่ประชาชนโดยเร็วที่สุด เรื่องที่ 4 การระบายน้ำ มีสิ่งของ ที่กองไว้เข้าไปอุดตันอยู่ในท่อระบายน้ำ หรือการตัดท่อที่ก่อสร้าง มีการอุดท่อไว้แล้วไม่ได้ต่อกลับคืน เวลาฝนตกจึงก่อให้เกิดปัญหาในการระบายน้ำ ก็ต้องไปทบทวนแก้ไขให้เรียบร้อย
เรื่องที่ 5 การใช้รถบรรทุกพ่วงที่มีการแบกน้ำหนักเกิน หรือไม่ก็ปล่อยควันพิษ ที่ผ่านมากรุงเทพมหานคร ได้มีการติดตั้งระบบตรวจสอบน้ำหนักอัตโนมัติ จะทำให้ทราบว่ารถบรรทุกที่ผ่านมามีน้ำหนักเท่าไหร่ รถบรรทุกที่น้ำหนักเกินจะส่งผลกระทบไปยังโครงสร้างของถนนก่อให้เกิดความเสียหาย ซึ่งเรื่องนี้เป็นการนำร่อง ในอนาคตกระจายไปทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ เรื่องที่ 6 การจ้างผู้รับเหมาช่วง ซึ่งตามหลักแล้วเราจะไม่อนุญาต ถ้าจะจ้างต้องขออนุญาตให้เป็นไปตามสัญญา ถ้าไปได้ผู้รับเหมาช่วงที่ไม่ดีคุณภาพก็ไม่ดีด้วย สุดท้ายถ้าเกิดเหตุผู้รับเหมาหลักก็ต้องรับผิดชอบ เรื่องสุดท้าย คือ กทม.จะจัดทีม ผู้บริหารตรวจสอบงานโครงการต่างๆ ทุกไซต์งาน โดยไม่บอกล่วงหน้า เพื่อดูว่าได้ทำตามมาตรการ ตามสัญญาที่ตกลงไว้หรือเปล่า ถ้าละเลยก็ต้องหยุดการก่อสร้าง
“ในอนาคต 3 เรื่องที่เราจะออกมาใช้เป็นเกณฑ์ในการคัดเลือกผู้รับเหมาด้วยคือ เรื่องแรก อุบัติเหตุที่ทำให้เกิดความเสียหายกับชีวิตประชาชน ผู้รับเหมารายไหนทำให้เกิดเหตุรุนแรงและเกิดความเสียหาย จะถูกพิจารณา ต่อมาคือ การทำงานล่าช้า เพราะทำให้ประชาชนเดินทางยากขึ้น เรื่องสุดท้าย การก่อสร้างที่ก่อให้เกิดปัญหาฝุ่น PM2.5 รถบรรทุกปล่อยควันดำ รถบรรทุกน้ำหนักเกิน หรือทำสิ่งของตกหล่น ซึ่งเราจะบันทึกข้อมูลไว้ เราเป็นตัวแทนประชาชนจะต้องทำให้ประชาชนได้ผู้รับเหมาที่มีคุณภาพ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินประชาชน” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว
ที่มา: นสพ.แนวหน้า ฉบับวันที่ 17 ก.ค. 2566