สั่งเด้ง 5 เสือปทุมวันเก็บกรุ พิษฝ่ายปกครองบุกร้านลาบเป็ดบังหน้า ชั้นบนเป็นผับเถื่อน
เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง นำกำลังพนักงานฝ่ายปกครอง และอาสารักษาดินแดง กระทรวงมหาดไทย บุกจับกุมร้านลาบยโสเจ๊นิ่ม รองเมือง เปิดลักลอบเป็นผับสถานบันเทิงแอบแฝงผิดกฎหมาย ใกล้กับวัดชำนิหัตถการ (วัดสามง่าม) ปากซอยวัดบรมนิวาส ถนนพระราม 1 แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กทม.
สืบเนื่องจากมีชาวบ้านร้องเรียนมายังอธิบดีกรมการปกครอง ว่าร้านลาบดังกล่าวลักลอบ เปิดผับบนอาคารชั้น 2 โดยแอบเปิดบริการถึงรุ่งเช้า เปิดเพลงเสียงดังรบกวนบริเวณโดยรอบ ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น บริเวณชั้นล่างเปิดให้บริการขายอาหารอีสาน ส่วนชั้นบนถูกดัดแปลงให้เป็นผับเก็บเสียง, เครื่องเสียง และไฟแสงสี สำหรับผับดังกล่าวมีชาวบ้านพยายามแจ้งร้องไปยัง สน.ปทุมวัน และสำนักงานเขต แต่ไม่มีความ คืบหน้า โดยร้านลาบเป็ดดังกล่าวกระทำการฝ่าฝืนกฎหมาย เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต และเปิดให้บริการถึงรุ่งเช้าแทบทุกคืน ตลอดจนมีคนต่างด้าวสัญชาติลาวจำนวนมากเข้ามาใช้บริการและจ้างแรงงานโดยผิดกฎหมาย อีกทั้งทางร้านยังขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินเวลาที่กฎหมายกำหนด
จากการตรวจสอบพบนักเที่ยวประมาณ 250 คน มีอายุต่ำกว่า 20 ปี 25 คน ในจำนวนนี้ เป็นเยาวชนสัญชาติลาว 21 คน และเยาวชนไทย 4 คน กำลังมั่วสุมดื่มแอลกอฮอล์ ยืนเต้นไปตามจังหวะเสียงเพลงและแสงสีภายในผับอย่างสนุกสนานในลักษณะมึนเมา นอกจากนี้ พบทางร้านมีการจ้างแรงงานต่างด้าวสัญชาติลาวผิดกฎหมาย 7 คน โดยมีการ์ดคอยดูแลเป็นหูเป็นตาอยู่บริเวณชั้นล่างและชั้นบน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจึงสั่งให้ปิดเพลงและเปิดไฟให้แสงสว่าง ทำให้ภายในผับเกิดความโกลาหล นักเที่ยวพยายามหลบหนีออกทางประตูหน้าร้าน แต่ชุดจับกุมได้ปิดล้อมประตูไว้ทุกด้าน จึงทำให้นักเที่ยวไม่สามารถหนีออกไปได้ ก่อนประกาศให้ทุกคนอยู่ในความสงบ และจับกุมตัวเจ้าของร้านในฐานความผิด เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต, ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี บริบูรณ์, ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเวลาห้ามขาย และจ้างแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย นำตัว ส่งพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ดำเนินคดี
ด้านนายรณรงค์เปิดเผยว่า ทุกครั้งที่ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง ไปตรวจจับ สถานบันเทิงในที่ต่างๆ จะมีคำสั่งปิดสถานประกอบการเป็นเวลา 5 ปี ซึ่งปฏิบัติการในครั้งนี้ พบว่าสถานบันเทิง ลาบเป็ดยโสรองเมือง มีกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายโดยชัดแจ้ง และตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงศาสนสถาน จากนี้พนักงานฝ่ายปกครองจะเสนอให้ทางสำนักงานตำรวจ แห่งชาติ (ตร.) มีคำสั่งปิดสถานที่แห่งนี้อย่างถาวร และจะได้ประสานกับทางกรุงเทพมหานคร ให้ตรวจสอบการใช้อาคารผิดประเภทตามกฎหมายควบคุมอาคารด้วย จึงฝากเตือนไปยังผู้ประกอบการสถานบันเทิง ควรประกอบธุรกิจด้วยความมีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคมและถูกต้องตามกฎหมาย
ที่ สน.ปทุมวัน เจ้าหน้าที่กรมการปกครองคุมตัวนางใยบัว วิเศษวุฒิ หรือเจ๊นิ่ม อายุ 49 ปี เจ้าของร้าน กับนายปรมินทร์ วิเศษวุฒิ หรือเป้ อายุ 33 ปี ผู้จัดการร้าน เป็นหลานของเจ๊นิ่ม พร้อมของกลางขวดสุราจำนวนหนึ่ง และสำนวนการสอบสวนจากกรมการปกครองมามอบให้ ร.ต.ต.ยศศิริ กล่อมบุญธรรม รอง สว. (สอบสวน) สน.ปทุมวัน ในฐานะเจ้าของพื้นที่สอบสวนเพิ่มเติมเพื่อดำเนินคดี 4 ข้อหา
ข่าวแจ้งว่า เยาวชนที่เข้าใช้บริการเป็นบุคคลที่มีเอกสารเข้ามาราชอาณาจักรอย่างถูกต้อง เข้ามาเป็นนักท่องเที่ยวในประเทศไทยได้ 30 วัน ตามกฎหมาย ส่วนร้านลาบเป็ดยโส เจ๊นิ่ม รองเมือง เจ้าตัวอ้างว่าร้านลาบเปิดให้บริการมาแล้วเกือบ 3 ปี แต่ช่วงโควิดที่ผ่านมาได้ต่อเติมทำเธคบน ชั้นสองเปิดให้ลูกค้าชาวต่างด้าวส่วนใหญ่ใช้บริการ
วันเดียวกัน รายงานข่าวแจ้งว่า พ.ต.อ.เกียรติกุล สนธิเณร รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 (รอง ผบก.น.6) รักษาราชการแทน ผบก.น.6 เซ็นคำสั่งให้ พ.ต.อ.นพดล เทียมเมธา ผกก.สน.ปทุมวัน พ.ต.ท.ณัฐกิตติ์ ปิ่นทองดี รอง ผกก.ป.สน.ปทุมวัน พ.ต.ท.ปรีชาภรณ์ เหมาอำพมาตร์ รอง ผกก.สืบสวน สน.ปทุมวัน พ.ต.ท.พิชัย รักษาคม สวป.สน.ปทุมวัน และ พ.ต.ท.นพดล สินศิริ สว.สส.สน.ปทุมวัน มาปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการกองบังคับการตำรวจนครบาล 6 (ศปก.บก.น.6) โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ตำแหน่งเดิม จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง พร้อมมีคำสั่งให้ พ.ต.อ.ภัทรพงศ์ อินวรรณา ผกก. (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.น.6 รักษาราชการแทน (รรท.) ผกก.สน.ปทุมวัน พ.ต.ท.ทรงพล วอทอง สวป.สน.ปทุมวัน รรท.รอง ผกก.ป.สน.ปทุมวัน พ.ต.ท.ชยุต ยอดยิ่งนาทกุล รอง ผกก.สืบสวน บก.น.6 รรท.รอง ผกก.สืบสวน สน.ปทุมวัน พ.ต.ต.ปรีชา ไชยรังศรี สว.อก.สน.พลับพลาไชย 2 รรท.สวป.สน.ปทุมวัน พ.ต.ท.คชภพ คงสมบูรณ์ สว.สส.กก.บก.น.6 รรท.สว.สส.สน.ปทุมวัน และ พ.ต.ท.รัชพล บัวย้อย สว.อก.บก.น.6 รรท.สว.สส.สน.ปทุมวัน ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป หรือจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.เกียรติกุลมีคำสั่ง ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง เพื่อทำการสืบสวนในเรื่องดังกล่าว ประกอบด้วย พ.ต.อ. จิรพัฒน์ พรหมสิทธิการ รอง ผบก.น.6 เป็นประธานกรรมการ พ.ต.อ.กระเษียร สุดตา ผกก. (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.น.6 เป็นกรรมการ พ.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ ทองธานี สว.กลุ่มงานสอบสวน บก.น.6 เป็นกรรมการ ร.ต.อ.ธนวัฒน์ กมล รอง สว.กลุ่มงานสอบสวน บก.น.6 เป็นกรรมการ/เลขานุการ ร.ต.อ.หญิง จิรัชญา ยอดคำ รอง สว.กลุ่มงานสอบสวน บก.น.6 เป็นกรรมการ/ผู้ช่วยเลขานุการ ดำเนินการสืบสวนพิจารณาตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎ ก.ตร. ว่าด้วยการสืบสวนข้อเท็จจริง พ.ศ.2556 ให้แล้วเสร็จ แล้วเสนอสำนวนมาเพื่อพิจารณาต่อไป
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงกรณี เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครอง บุกทลายผับลับแห่งหนึ่ง ในเขตปทุมวันว่า ปกติ กทม.จะเข้าไปตรวจในเรื่องของความปลอดภัยทางหนีไฟมากกว่า บางอย่างก็เป็นในส่วนอำนาจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กทม.เรามีอำนาจในหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ส่วนรายละเอียดเชิงลึกยังไม่ได้เห็น แต่จะติดตามกับ ผอ.เขตปทุมวัน เพราะตนจี้เรื่องร้องเรียนผ่านทราฟฟี่ฟองดูว์ตลอด เรื่องเสียงดัง ก่อความรำคาญ ได้สั่งปิดไปหลายแห่งเหมือนกัน ถ้าอยู่นอกเหนืออำนาจ จะส่งต่อให้กับตำรวจ จากนี้จะไปไล่ทุกเขตให้ดูเรื่องนี้
นพ.สุขสันต์ กิตติศุภกร รองปลัด กทม. กล่าวว่า ทาง สนง.เขตปทุมวัน กำลังทำงานร่วมกับเขตปทุมวัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมการปกครอง ขณะนี้พิจารณาความผิดเกี่ยวกับพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สถานบริการ พ.ศ.2509 ประเภทที่มีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และจะพิจารณาสั่งปิดตามกฎหมายในระยะเวลา 5 ปี อย่างไรก็ตาม ในเรื่องนี้ทาง ผอ.เขตปทุมวัน รับทราบเรื่องแล้ว และเร็วที่สุดในวันนี้อาจจะมีการปิดร้านดังกล่าวทันที
ที่มา: นสพ.มติชน ฉบับวันที่ 2 ก.ค. 2566