กทม.เตรียมพร้อมแผนบริหารจัดการน้ำรับมือผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญ
นายสุราษฎร์ เจริญชัยสกุล ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ (สนน.) กทม.กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมแผนบริหารจัดการน้ำของ กทม.เพื่อรับมือผลกระทบจากปรากฏการณ์ “เอลนีโญ” ว่า กรุงเทพมหานคร โดย สนน.ได้ติดตามปริมาณเก็บกักน้ำ 4 เขื่อนหลักที่ระบายลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาร่วมกับกรมชลประทาน (ชป.) พร้อมทั้งประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง เพื่อประเมินสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยได้เตรียมความพร้อมด้านบุคลากรและด้านเครื่องจักรต่าง ๆ รวมถึงมาตรการช่วยเหลือประชาชนและเกษตรกรในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่อาจได้รับผลกระทบจากปัญหาการขาดแคลนน้ำ เพื่อใช้ในการอุปโภค บริโภค และด้านการเกษตร ตลอดจนเฝ้าระวังการรุกของน้ำเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยา ตรวจวัดคุณภาพน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและคลองต่าง ๆ การดำเนินแผนการควบคุมเปิด-ปิดประตูระบายน้ำตามแนวริมเจ้าพระยาไม่ให้น้ำเค็มไหลเข้าคลอง ขณะเดียวกันได้เตรียมพร้อมสถานีสูบน้ำตามแนวริมแม่น้ำเจ้าพระยาสำหรับเข้าร่วมปฏิบัติการ Water Hammer Operation (กระแทกลิ่มความเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยา) กับ ชป. เพื่อช่วยผลักดันลิ่มความเค็มไม่ให้รุกขึ้นมามีผลต่อการผลิตน้ำประปาที่สถานีสูบน้ำดิบสำแลให้มากที่สุด
ส่วนพื้นที่ด้านตะวันออกของกรุงเทพฯ สนน.ได้ประสานและติดตามการบริหารจัดการระบายน้ำจากแม่น้ำป่าสักลงสู่คลองระพีพัฒน์แยกใต้มาตามคลอง 13 ผ่านคลองแสนแสบ เข้าคลองลำปลาทิวผ่านมายังคลองประเวศบุรีรมย์พื้นที่เขตหนองจอก เพื่อลดผลกระทบการขาดแคลนน้ำในด้านเกษตรกรรม ซึ่งการดำเนินการในระยะเร่งด่วน กทม.ได้ขุดลอกคลองสายรอง เพื่อผันน้ำจากคลองสายหลักเข้าสู่พื้นที่ต่าง ๆ ส่วนแผนในระยะยาวได้ก่อสร้างทำนบกั้นน้ำโดยการทดน้ำ หรือเก็บกักน้ำไว้ในคูคลองช่วงก่อนที่จะหมดฤดูฝน เพื่อไว้ในช่วงฤดูแล้ง โดยเฉพาะพื้นที่เขตหนองจอกที่ประชาชนส่วนใหญ่ยังคงอาชีพทำการเกษตรและมักจะประสบปัญหาความเดือดร้อนในช่วงฤดูแล้ง ปัจจุบันการก่อสร้างทำนบกั้นน้ำได้ดำเนินการแล้วเสร็จทั้ง 17 แห่ง ประกอบด้วย คลองสิงห์โต คลองแตงโม คลองบึงเขมร คลองขุดใหม่ คลองบึงนายรุ่ง คลองหนึ่ง คลองลัดเกาะเลา คลองสอง คลองลำแขก คลองแม๊ะดำ คลองลำเกวียนหัก คลองแยกลำต้อยติ่ง คลองกระทุ่มล้มด้านเหนือ คลองลำชะล่า คลองกระทุ่มล้มด้านใต้ คลองลำตามีร้องไห้ และคลองลำต้อยติ่ง ครอบคลุมพื้นที่การเกษตรประมาณ 48,000 ไร่ สามารถกักเก็บน้ำในพื้นที่ได้ประมาณ 1.8 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) โดยปัจจุบันมีปริมาตรน้ำเก็บกักประมาณ 0.9 ล้าน ลบ.ม. นอกจากนั้น กทม.ยังได้นำน้ำที่ผ่านการบำบัดที่มีคุณภาพนำไปใช้รดน้ำต้นไม้ ล้างถนน ล้างตลาด ล้างเครื่องจักรภายในโรงงาน โดยหน่วยงาน หรือประชาชนที่สะดวกสามารถขอรับน้ำได้ที่โรงควบคุมคุณภาพน้ำสี่พระยา โรงควบคุมคุณภาพน้ำรัตนโกสินทร์ โรงควบคุมคุณภาพน้ำช่องนนทรี โรงควบคุมคุณภาพน้ำหนองแขม โรงควบคุมคุณภาพน้ำทุ่งครุ โรงควบคุมคุณภาพน้ำจตุจักร โรงควบคุมคุณภาพน้ำดินแดง และศูนย์การศึกษาและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมบางซื่อ
นายธีรยุทธ ภูมิภักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) กทม.กล่าวว่า สปภ.ได้บริหารจัดการและเตรียมความพร้อมรับมือผลกระทบจากปรากฏการณ์ “เอลนีโญ” ที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพฯ ตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2564 – 2570 ซึ่งสอดคล้องกับพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 และแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ.2564 – 2570 โดยใช้เป็นกรอบแนวทางการปฏิบัติงานให้กับหน่วยงานทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน มูลนิธิ และองค์กรสาธารณกุศลต่าง ๆ ตั้งแต่ก่อนเกิดภัย ขณะเกิดภัย และภายหลังจากภัยสิ้นสุด เพื่อลดความเสี่ยงและความเสียหายที่จะเกิดขึ้นให้มีน้อยที่สุด สำหรับมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งเนื่องจากขาดแคลนน้ำ เพื่อใช้ในการอุปโภค บริโภค และการเกษตรจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ โดยเฉพาะพื้นที่นอกเขตชลประทาน จะเป็นไปตามแนวทางและขั้นตอนการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยพิบัติของกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ ประชาชนที่ประสบเหตุสาธารณภัยต่าง ๆ สามารถขอความช่วยเหลือผ่านโทรศัพท์สายด่วน 199 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
กทม.เน้นย้ำแนวทางควบคุมเหตุรำคาญจากกลิ่น หรือควันกัญชา
นายสุนทร สุนทรชาติ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย (สนอ.) กทม.กล่าวกรณีประชาชนร้องเรียนได้รับผลกระทบจากการปลูกต้นกัญชาในที่สาธารณะและสูบกัญชาส่งกลิ่นรบกวนว่า การดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงานตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุขในการควบคุมเหตุรำคาญจากกลิ่น หรือควันกัญชา กทม. โดย สนอ.จะดำเนินการตามคำแนะนำของคณะกรรมการสาธารณสุข เรื่อง แนวทางควบคุมเหตุรำคาญจากการกระทำให้เกิดกลิ่น หรือควันกัญชา กัญชง หรือพืชอื่นใด ที่ออกโดยกรมอนามัย ซึ่งระบุว่า กรณีเจ้าพนักงานได้รับเรื่องร้องเรียนตรวจสอบพบว่า ผู้ก่อเหตุได้กระทำให้เกิดกลิ่น หรือควัน หรือมีพยานหลักฐานว่ามีการกระทำจริงและดำเนินการไต่สวนผู้เกี่ยวข้อง เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นเหตุรำคาญจริง ให้เจ้าพนักงานออกคำแนะนำแก่ผู้ก่อเหตุให้ปรับปรุงแก้ไขปัญหาเหตุรำคาญและให้โอกาสโต้แย้งแสดงหลักฐานแก้ข้อกล่าวหาในระยะเวลาอันสมควรไม่น้อยกว่า 7 วัน หากผู้ก่อเหตุไม่ดำเนินการตามคำแนะนำ ให้เจ้าพนักงานดำเนินการออกคำสั่งทางปกครอง อาศัยอำนาจตามมาตรา 28 กรณีก่อเหตุรำคาญเกิดขึ้นในสถานที่เอกชน เพื่อให้ผู้ก่อเหตุ หรือเจ้าของ หรือผู้ครอบครองสถานที่นั้นระงับเหตุรำคาญ หากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งทางปกครองให้เจ้าพนักงานดำเนินการส่งเรื่องให้ผู้มีอำนาจเปรียบเทียบต่อไป สำหรับอัตราโทษกรณีไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานท้องถิ่นต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 25,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งหากประชาชนพบเห็นการกระทำดังกล่าว สามารถแจ้งเรื่องร้องเรียนเหตุรำคาญผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น สายด่วน กทม.1555 และสำนักงานเขตในพื้นที่
เขตจอมทองตรวจสอบภาพจากกล้อง CCTV พบบุคคลติดป้ายบนทางเท้าสร้างความเข้าใจผิดให้ประชาชน
นายณัฐพงษ์ มีโภคกิจ ผู้อำนวยการเขตจอมทอง กทม.กล่าวกรณีสื่อออนไลน์เสนอข่าวเจ้าหน้าที่เทศกิจติดตั้งป้ายข้อความบนทางเท้าบริเวณหน้าคอนโดมิเนียมลุมพินี ถนนสุขสวัสดิ์ พระนาม 2 เขตจอมทอง ทำให้ประชาชนไม่สามารถสัญจรได้สะดวกว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าวพบว่า เนื่องจากมีการร้องเรียนผ่านระบบ Traffy Fondue มีรถจักรยานยนต์จอดและขับขี่บนทางเท้าจำนวนมาก สำนักงานเขตฯ จึงได้ติดตั้งเสา เพื่อป้องกันการฝ่าฝืนนำรถมาจอด หรือขับขี่บนทางเท้าในบริเวณดังกล่าว อย่างไรก็ตาม จากการลงพื้นที่และตรวจสอบกล้องวงจรปิด (CCTV) ในบริเวณดังกล่าวพบมีบุคคลขี่รถจักรยานมาติดป้ายข้อความตามที่ปรากฏในช่วงวันอาทิตย์ที่ 11 มิ.ย.66 เวลา 10.53 น. เพื่อสร้างความเข้าใจผิดให้กับประชาชนและเจ้าหน้าที่ รวมทั้งขณะตรวจสอบยังมีประชาชนบางรายฝ่าฝืนขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า จึงได้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนไม่ให้ดำเนินการดังกล่าว เพื่อความปลอดภัยแก่ประชาชนที่ใช้ทางเท้าในการสัญจร