กทม.จับมือสภาเภสัชฯ เดินหน้าโครงการร้านขายยาใกล้บ้านคาดเปิดได้ มิ.ย.นี้
รศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า กทม.ได้ร่วมกับเครือข่ายสภาเภสัชกรรม ในโครงการ ร้านขายยาใกล้บ้าน เชื่อมต่อศูนย์บริการทางการแพทย์ และแอพพลิเคชั่นหมอ กทม.ซึ่งบันทึกประวัติรักษาคนไข้เป็นข้อมูลในการรักษาต่อเนื่อง โดยโครงการร้านขายยาใกล้บ้านทำหน้าที่เป็นต้นทางสำหรับคนไข้ เพื่อให้เภสัชกรประเมินอาการเบื้องต้นก่อนส่งต่อสถานพยาบาลในกรณีคนไข้มีอาการหนัก ซึ่งร้านขายยาใกล้บ้านเน้นการสร้างเสริมและป้องกันโรค โดยเฉพาะการคัดกรองความเสี่ยงโรคเรื้อรังที่เกิดจากพฤติกรรมการบริโภคของคน เมื่อรู้ว่าประชาชนกำลังก้าวสู่การเป็นโรค เภสัชกรสามารถแนะนำการปรับพฤติกรรมการกิน การออกกำลังกายเพื่อป้องกันการก้าวสู่การเป็นโรค ตามขบวนงานสร้างเสริมสุขภาพของเภสัชกร พร้อมติดตามอาการหลังจากแนะนำอย่างใกล้ชิด เพื่อคัดกรองคนไข้เบื้องต้นโดยไม่ต้องไปโรงพยาบาลอย่างเดียว
นอกจากนี้ ยังมีบริการเลิกบุหรี่ จากการเก็บข้อมูลของเภสัชกรในร้านขายยา พบว่า คนไข้ 30%ที่มาพบมีพฤติกรรมสูบบุหรี่ ดังนั้น เภสัชกรได้เตรียมบริการสำหรับเลิกบุหรี่ให้แก่ประชาชน พร้อมยารักษาที่เกี่ยวข้อง ซึ่งร้านขายยาเป็นหน่วยที่ใกล้ชิดกับคนในชุมชน สามารถเก็บข้อมูลเพื่อประสานส่งต่อกับหน่วยรักษาพยาบาลต่างๆ ในพื้นที่ต่อไปได้ผ่านการติดตามอาการภายใน 3 วันหลังการจ่ายยาโดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน ความดัน สามารถมาที่ร้านขายยาเพื่อวัดค่าต่างๆ ได้ โดยไม่ต้องไปโรงพยาบาลทุกเดือน เภสัชกรพร้อมช่วยประเมินอาการหลังรับยาไปรับประทาน และแนะนำพฤติกรรมที่เหมาะสมในการรักษาโรค
รศ.ดร.ทวิดา กล่าวอีกว่า ประชาชนสามารถใช้สิทธิ์บัตรทองได้ โดยนำบัตรประชาชนมายื่นที่ร้านขายยาที่เข้าร่วมโครงการ ร้านขายยาใกล้บ้านเพื่อรักษา 16 กลุ่มอาการ ประกอบด้วย ปวดหัวปวดฟัน ปวดท้อง ปวดกล้ามเนื้อ ไอ ไข้ เจ็บคอน้ำมูก ตรวจ ATK ผื่นแพ้ ท้องผูก ริดสีดวงทวารเยื่อตาอักเสบ เป็นต้น ซึ่งการร่วมมือกับสภาเภสัชกรรม จะทำให้ร้านขายยากลายเป็นด่านหน้าในการดูแลคนไข้ของ กทม. คัดกรองก่อนส่งต่อโรงพยาบาลหรือศูนย์สาธารณสุข ลดการเดินทางไปพบแพทย์ของประชาชน และลดภาระของหมอ พยาบาลพร้อมเก็บข้อมูลในการส่งต่อการรักษาต่อไป ซึ่งคาดว่า โครงการร้านยาใกล้บ้านจะเริ่มให้บริการเดือน มิ.ย.นี้
ที่มา: นสพ.สยามรัฐ ฉบับวันที่ 3 พ.ค. 2566