(28 เม.ย.66) นายชาตรี วัฒเขจร รองปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมแก้ไขความเสียหายภายหลังการรับมอบสวนป่า “เบญจกิติ” ระยะที่ 2-3 พื้นที่ก่อสร้างที่ 2 จากกรมธนารักษ์ ว่า ที่ผ่านมากทม. พบปัญหาภายในสวนป่าเบญจกิติไม่สามารถเก็บกักน้ำได้โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง จากเดิมที่ออกแบบการบริหารจัดการน้ำภายในสวน รวมทั้งการรดน้ำต้นไม้ น้ำส่วนใหญ่จะมาจากคลองไผ่สิงโต ผ่านระบบบำบัดน้ำธรรมชาติ (wetland) เพื่อให้น้ำตกตะกอนแล้วลงสู่บ่อบึงและบ่อต่างๆ เพื่อเข้าสู่ระบบรวบรวมน้ำในสวน แต่จากการใช้งานจริง น้ำที่ปั๊มเข้ามาเพื่อผ่านระบบบำบัดน้ำธรรมชาติไม่สามารถเก็บกักได้ เนื่องจากเกิดการรั่วซึมกลับออกไปทางคลองไผ่สิงโต ทำให้น้ำไม่เพียงพอในการเลี้ยงระบบดูแลสวนทั้งหมด กทม. จึงทำการตรวจสอบและแก้ปัญหาเรื่องนี้โดยหารือกับกรมธนารักษ์ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ รวมทั้งกองทัพภาคที่ 1 ผู้รับผิดชอบการก่อสร้างสวน เพื่อร่วมแก้ไขปัญหา ซึ่งที่ประชุมวันนี้ได้ข้อสรุปว่า จุดนี้เป็นปัญหาในเรื่องของการออกแบบและสภาพพื้นที่ ดังนั้นจะตั้งคณะทำงานที่เป็นผู้เชี่ยวชาญเพื่อดำเนินการหาแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนในระยะยาว ซึ่งอาจจะต้องมีการเปลี่ยนคอนเซ็ปต์ของการออกแบบใหม่หรือตัดระบบน้ำเพื่อบายพาสน้ำมาใช้ในบางส่วน และเมื่อได้ข้อสรุปจะนำมาเสนอคณะกรรมการเพื่อเสนอผู้บริหารกรุงเทพมหานครเพื่อทราบและพิจารณาต่อไป
นอกจากนี้ที่ประชุมได้หารือรายการที่ได้รับความเสียหายภายหลังจากการรับมอบสวน อาทิ ต้นไม้ยืนต้นต่างๆ ที่มีการเสียหาย ระบบน้ำประปา ระบบระบายน้ำ ระบบไฟฟ้าส่องสว่างบริเวณทางเดินสกายวอล์กและภายในสวน ซึ่งในส่วนต่างๆ ที่เป็นปัญหาทั้งหมด ได้แจ้งกรมธนารักษ์เพื่อแจ้งกองทัพภาคที่ 1 ซึ่งเป็นคู่สัญญาเข้าดำเนินการซ่อมแซม ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการซ่อมแซมในส่วนที่สามารถดำเนินการและรับผิดชอบแล้ว
การประชุมวันนี้ ผู้บริหารสำนักสิ่งแวดล้อม สำนักการระบายน้ำ ผู้แทนกรมธนารักษ์ กองทัพภาคที่ 1 บริษัทผู้ออกแบบสวน และผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม ณ ห้องประชุม ชั้น 14 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกทม.2 (ดินแดง)