(2 ส.ค. 68) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายณภัค เพ็งสุข สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตลาดพร้าว คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารเขตลาดพร้าว และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกิจกรรม “ผู้ว่าฯ สัญจร (รอบ 2)” ครั้งที่ 23 ณ พื้นที่เขตลาดพร้าว ติดตามการดำเนินงานด้านต่าง ๆ และรับฟังปัญหาอุปสรรค ข้อร้องเรียนของประชาชน พร้อมหาแนวทางแก้ไขปัญหา เพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานให้บรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่วางไว้ และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน 

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า หัวใจของเขตลาดพร้าว คือเขตที่มีชุมชนอาศัยอยู่จำนวนหลายชุมชน รวมถึงหมู่บ้านจัดสรร ปัญหาหลักคือเรื่องของปัญหาน้ำท่วม 3 ปีที่ผ่านมา กทม. จึงมีหลายโครงการเพื่อปรับปรุงแก้ไขปัญหา เช่น ปรับปรุงถนน ทางเท้า ท่อระบายน้ำ โดยวันนี้ได้เร่งติดตามปัญหาเรื่องผู้รับเหมาทิ้งงาน พร้อมสั่งการให้เร่งรัดติดตามงานของผู้รับเหมาในโครงการต่าง ๆ และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น การประปา นอกจากนี้ได้ติดตามเรื่องเพิ่มพื้นที่สีเขียวและสวนสาธารณะเพิ่มเติมในพื้นที่เขต เพื่อให้ประชาชนมีพื้นที่สีเขียวที่มีคุณภาพและเข้าถึงได้ง่าย รวมทั้งได้ติดตามการพัฒนาปรับปรุงโรงเรียนทั้ง 6 แห่งในพื้นที่เขตด้วย

สำหรับกิจกรรม ผู้ว่าฯ สัญจร (รอบ 2) ครั้งนี้ เริ่มต้นที่กิจกรรมปลูกต้นไม้ ณ สวน 15 นาที สวนสุขภาพอยู่เย็นเป็นสุข ซอยอยู่เย็น 3 โดยผู้ว่าฯ ชัชชาติ ปลูกต้นอินทรชิต (ต้นเสลา) 1 ต้น คณะผู้ติดตามปลูกต้นราชพฤกษ์ (ต้นคูน) 2 ต้น และคณะผู้บริหารเขตปลูกต้นแก้ว 30 ต้น แล้วเดินทางไปยังชุมชนสุขทรัพย์ ซอยสุคนธสวัสดิ์ 1 เพื่อตรวจเยี่ยมและรับฟังปัญหาของประชาชน

ต่อมา เดินทางไปเยี่ยมชมการพัฒนาลานวิ่งรอบบึงน้ำ ณ สวนสาธารณะบึงน้ำลาดพร้าว 71 ซึ่งเป็นสวนสาธารณะของกรุงเทพมหานคร ตั้งอยู่ที่ซอยนาคนิวาส 48 ถนนลาดพร้าว เขตลาดพร้าว มีพื้นที่ 21 ไร่ 68 ตารางวา เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 05.00 – 21.00 น. เป็นสวนอเนกประสงค์ของกรุงเทพมหานครที่ผสมผสานระหว่างลานออกกำลังกายและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของครอบครัว 

องค์ประกอบหลักภายในสวน ได้แก่ เครื่องออกกำลังกายกลางแจ้ง ลานอเนกประสงค์ลอยน้ำ ทางเดิน-วิ่ง หรือถนนคนเดิน-วิ่ง ลานหินนวดเท้า ศูนย์เรียนรู้ผักสวนครัว ต้นไม้ที่ร่มรื่นและสวยงาม สาธารณูปโภคภายในสวน ประกอบด้วย สำนักงานสวนสาธารณะบึงน้ำลาดพร้าว 71 ห้องสุขาสาธารณะ 1 หลัง โดยแบ่งเป็นห้องสุขาชาย 5 ห้อง พร้อมโถปัสสาวะชาย 3 โถ ห้องสุขาหญิง 5 ห้อง และห้องสุขาสำหรับคนพิการ/ผู้สูงอายุ 1 ห้อง บึงน้ำ/สระน้ำ ขนาดความจุ 256,000 ลูกบาศก์เมตร ลานจอดรถ 2 จุด สามารถรองรับรถยนต์ได้ประมาณ 6 คัน และรถจักรยานยนต์ได้ประมาณ 30 คัน กล้อง CCTV จำนวน 16 ตัว และระบบไฟฟ้าส่องสว่าง

โดยสวนแห่งนี้ เปิดให้บริการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 ที่ดินผืนนี้เดิมทีคุณหญิงทองย้อย เปาโรหิตย์ ได้น้อมเกล้าฯ ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อทรงใช้ประโยชน์ตามพระราชอัธยาศัย ต่อมาในปี พ.ศ. 2545 พระองค์ได้พระราชทานที่ดินนี้ให้แก่กรุงเทพมหานคร เพื่อจัดสร้างเป็นสวนสาธารณะให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน

กิจกรรมยอดนิยม ได้แก่ การเดิน-วิ่งรอบสวน กิจกรรมกีฬาต่าง ๆ ภายในสวน กิจกรรมตามประเพณี เช่น ลอยกระทง กิจกรรมจิตอาสา และการศึกษาด้านต้นไม้และพรรณไม้ต่าง ๆ โดยในวันธรรมดา มีผู้ใช้บริการประมาณ 170 – 200 คนต่อวัน วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ มีผู้ใช้บริการประมาณ 180 – 210 คนต่อวัน สำหรับประชาชนที่ต้องการใช้บริการ สามารถเดินทางมาได้ด้วยรถเมล์สาย 156

จากนั้น เดินทางไปยังซอยนาคนิวาส 37 เพื่อตรวจติดตามพร้อมรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการปรับปรุงซอยนาคนิวาส 37 (ช่วงปลาย) ซึ่งผู้รับเหมาทิ้งงาน

เมื่อเสร็จจากการรับฟังปัญหา ผู้ว่าฯ ชัชชาติ และคณะ ได้เดินทางไปยังศูนย์การค้าเซ็นทรัล อีสวิลล์ เพื่อเปิดกิจกรรม “KICK OFF การจดทะเบียนสัตว์เลี้ยง กรุงเทพมหานคร” โดยกิจกรรมนี้จัดขึ้นเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจและปฏิบัติตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การควบคุมการเลี้ยงและปล่อยสัตว์ พ.ศ. 2567 ส่งเสริมให้เกิดการเลี้ยงสัตว์ด้วยความรับผิดชอบ 

ในส่วนของจุดถัดมา เป็นการตรวจความคืบหน้าโครงการห้องเรียนปลอดฝุ่นสำหรับเด็กเล็ก ณ ศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์วัดลาดพร้าว และไปยังโรงเรียนวัดลาดพร้าว เพื่อเยี่ยมชมห้องดนตรี (กิจกรรม Saturday School) สวนแปลงเกษตร และกิจกรรมชมรม To Be Number One พร้อมทั้งรับฟังปัญหาด้านการศึกษาพื้นที่เขตลาดพร้าว เสร็จแล้วเยี่ยมชมโครงการเยาวชนรุ่นใหม่รู้พิษภัยบุหรี่ไฟฟ้า ณ โรงเรียนคลองทรงกระเทียม 

สำหรับกิจกรรมในช่วงบ่าย เริ่มต้นที่ชุมชนหมู่บ้านเสนานิเวศน์โครงการ 1 เพื่อตรวจเยี่ยมกลุ่มเปราะบาง ตรวจเยี่ยมและรับฟังปัญหาของประชาชน เยี่ยมชมและรับฟังรายงานตามโครงการบ้านนี้ไม่เทรวม และกิจกรรม BKK WASTE PAY เยี่ยมชมสาธิตวิธีการทำถังหมักเศษอาหาร การทำน้ำหมักชีวภาพ ตลอดจนรับฟังรายงานความคืบหน้าการจัดทำศูนย์กีฬาเสนานิเวศน์

และไปยังถนนซอยเสนานิเวศน์ 110, 110/2 และซอย 112 ตรวจติดตามความคืบหน้าโครงการปรับปรุงถนนเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ทั้งนี้ เนื่องจากเขตมีจุดอ่อนน้ำท่วมบริเวณซอยเสนานิเวศน์ 108/5 ซึ่งเกิดปัญหาน้ำท่วมตลอดทั้งปีเพราะน้ำไม่สามารถระบายออกสู่ถนนสายหลักได้ และต้องใช้เครื่องสูบน้ำสูบระบายน้ำออกอยู่ตลอด จึงได้มีการขอจัดสรรงบประมาณ ปี 2568 ในการปรับปรุงถนนก่อนจำนวน 3 เส้น คือ ซอยเสนานิเวศน์ 110, 110/2 และซอย 112 เพื่อวางท่อระบายน้ำให้เชื่อมต่อกับจุดที่มีน้ำท่วมซ้ำซาก ให้สามารถรับน้ำจากจุดอ่อนน้ำท่วมซอยเสนานิเวศน์ 108/5 และซอย 118 ระบายออกสู่ถนนเสนานิคมได้ ต่อมาเดินเท้าไปยังซอยเสนานิเวศน์ 118, 108/5 เพื่อตรวจจุดอ่อนน้ำท่วม ซึ่งซอยดังกล่าวได้มีการขอจัดสรรงบประมาณ ปี 2569 ในการปรับปรุง สุดท้ายได้เดินทางไปยังหมู่บ้านพาราไดซ์ เพื่อติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหาน้ำท่วม

#ผู้ว่าฯสัญจร

—————————