ในการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่สอง (ครั้งที่ 4) ประจำปีพุทธศักราช 2566 : นายอภิวัฒน์ ด่านศรีชาญชัย สมาชิกสภากรุงเทพมหานครเขตจตุจักร เสนอญัตติขอให้กรุงเทพมหานครเพิ่มประสิทธิภาพการลอกท่อระบายน้ำอย่างเป็นระบบเพื่อเตรียมความพร้อมต่อสถานการณ์ฝนตามฤดูกาลที่ตกหนักทั่วทั้งกรุงเทพมหานคร
เนื่องจากปัญหาหลักของกรุงเทพมหานครคือประสิทธิภาพการระบายน้ำของท่อระบายน้ำทั่วทั้งกรุงเทพมหานครที่ไม่สามารถตอบสนองต่อสถานการณ์ฝนตามฤดูที่ตกหนักได้ จึงส่งผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง จนส่งผลเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งค่าเสียโอกาสทางเศรษฐกิจภายในกรุงเทพมหานคร และการท่องเที่ยวอีกมาก จึงเห็นควรที่กรุงเทพมหานครจะต้องมีการเพิ่มประสิทธิภาพการลอกท่อระบายน้ำทั่วทั้งกรุงเทพมหานครโดยละเอียดอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ และนำอุปกรณ์ เครื่องมือที่จำเป็นมาปรับใช้ จึงขอให้กรุงเทพมหานครเพิ่มประสิทธิภาพการลอกท่อระบายน้ำอย่างเป็นระบบเพื่อเตรียมความพร้อมต่อสถานการณ์ฝนตามฤดูกาลที่ตกหนักทั่วทั้งกรุงเทพมหานคร
“เมื่อถึงเดือนมิ.ย.มักเกิดเหตุน้ำท่วมทุกปี และประชาชนก็ยังไม่รู้ว่ากทม.ทำอะไรไปบ้างแล้ว ตนในฐานะประธานคณะกรรมการการระบายน้ำ สภากทม. ขอเสนอการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนเริ่มที่การลอกท่อ ทั้งนี้จากการศึกษาประสิทธิภาพการลอกท่อระบายน้ำ 2 บริษัท ร่วมกับกรมราชทัณฑ์ เปรียบเทียบระยะทาง 100 เมตร พบว่า การลอกท่อของกรมราชทัณฑ์ต้องเปิดฝาท่อทำให้ฝาท่อระบายน้ำเสียหาย และมีกระสวยลอกท่อขนาดเดียว ไม่เหมาะสมกับสภาพท่อแต่ละแห่ง สำหรับการลอกท่อของบริษัทจะมีอุปกรณ์การเปิดฝาท่อที่ไม่ทำให้ฝาท่อเสียหาย และมีหัวฉีดน้ำแรงดันสูงที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีอุปกรณ์ป้องกันพื้นที่ปฏิบัติงานและผู้ปฏิบัติงาน และสภาพหลังทำงานของบริษัทเอกชนจะมีสภาพท่อที่ดี ทำให้การระบายน้ำมีประสิทธิภาพ โดยข้อเสนอในวันนี้ คือ ขอให้มีอุปกรณ์แจ้งเตือนผู้ใช้ถนนและมีอุปกรณ์ป้องกันเจ้าหน้าที่ด้วย มีการแบ่งรูปแบบหน้างานให้เหมาะกับสภาพท่อ ให้กำหนดจุดทิ้งดินเลนเพื่อรองรับการลอกท่อระบายน้ำ ให้จัดหายานพาหนะ อุปกรณ์ที่เหมาะสมกับพื้นที่ซอกซอย ให้มีการพัฒนาทักษะ ความรู้ ความสามารถบุคลากรการระบายน้ำเพื่อประสิทธิภาพและความชำนาญ ให้นำเทคโนโลยี IOT (Internet of Things) มาใช้ควบคู่กับการระบายน้ำ ให้มีการใช้ถังและบ่อดักไขมันสำหรับครัวเรือน ชุมชน สถานประกอบการ ร้านค้า เพื่อร่นระยะเวลาการลอกท่อ หากฝ่ายบริหารนำข้อเสนอนี้ไปปฏิบัติ เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อกทม.อย่างแน่นอน” นายอภิวัฒน์ กล่าว
สำหรับในญัตตินี้ มีส.ก.ร่วมอภิปรายหลายท่าน ประกอบด้วย นางเมธาวี ธารดำรงค์ ส.ก.เขตปทุมวัน นายสราวุธ อนันต์ชล ส.ก.เขตพระโขนง และนายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร ส.ก.เขตจอมทอง ซึ่งได้ร่วมอภิปรายในประเด็นเกี่ยวกับปัญหาในพื้นที่เพื่อสนับสนุนญัตติ การเสนอให้การท่อระบายน้ำและคูคลองต้องทำไปพร้อม ๆ กัน การเพิ่มจำนวนรถดูดเลนและเครื่องจักรที่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการแก้ไขปัญหาเรียกรับโดยผู้ที่แอบอ้างชื่อผู้บริหาร
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การแก้ไขการลอกท่อระบายน้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานครจะพยายามหาข้อมูลและใช้เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ เหมาะสมกับงบประมาณให้มากที่สุด กรณีการมีนายหน้าเรียกรับ หากมีข้อมูลหรือมีหลักฐานที่ยืนยันได้ขอให้นำส่งให้ฝ่ายบริหาร เพราะเรารับไม่ได้กับเรื่องการทำมาหากินกับงบประมาณกทม.แต่ขอยืนยันว่าในเรื่องนี้ไม่มี
ด้าน รศ.วิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงกรณีที่มีผู้กล่าวอ้างชื่อทีมงานเพื่อเรียกรับ นั้น ขอยืนยันว่าไม่มี หากมีหลักฐานขอให้ส่งมาให้ ในส่วนของการดำเนินการแก้ไขปัญหาบริเวณซอยโปโล 1 เขตปทุมวัน ได้สร้างประตูระบายน้ำเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมและน้ำเสียในคลองไผ่สิงห์โต คาดว่าจะแล้วเสร็จ 26 พ.ค.นี้ ส่วนเรื่องการลอกท่อ จำนวนทั้งสิ้น 6,641 กิโลเมตร ในปีนี้มีแผนงานดำเนินการ 3,758 กิโลเมตร แล้วเสร็จประมาณ 1,900 กิโลเมตร อยู่ระหว่างการดำเนินการอีกกว่า 1,800 กิโลเมตร ทั้งหมดจะทยอยแล้วเสร็จในเดือนพ.ค.-มิ.ย.นี้ สำหรับปัญหาการจ้างลอกท่อล่าช้านั้น ในปีงบประมาณต่อไปจะปรับแผนการลอกท่อโดยมุ่งเน้นวงรอบตามลักษณะของพื้นที่ และถอดบทเรียนจุดเสี่ยงน้ำท่วมในปีที่ผ่านมา ควบคู่ไปกับการพิจารณาความหนาแน่นของอาคาร จุดที่เป็นตลาด และชุมชน ร่วมด้วย
——